9/14/2555

น้ำตาฟินิกซ์ 12




..หากพันธะสัญญาที่แสนสำคัญนั้นถูกข้าทำลาย

ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์ก็จะเป็นอิสระงั้นสินะ...


วินาทีนั้นราวกับภาพเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนที่เขายอมคุกเข่าลงเบื้องหน้าราชันย์แห่งความมืด   เพื่อวิงวอนขอให้คืนเจ้านายตัวน้อยให้นั้นพลันสว่างวาบขึ้นในห้วงคำนึง..  

โดยที่ผู้เป็นนายมิได้รับรู้เรื่องราวเลยแม้แต่น้อย   เวลานั้น..  เขา  ..คืนสู่สภาพที่แท้จริงของตนเองเมื่อไม่อาจต้านทานแรงกระตุ้นจากนายผู้ให้กำเนิดได้   ในรูปลักษณ์ของปีศาจผู้มีผิวกายสีนิลเช่นเดียวกับเรือนผมดำยาวซึ่งแผ่ปกคลุมแผ่นหลัง   ซาตานาเกียได้กระทำการอาจเอื้อมโดยทวงขอคู่พันธะสัญญาคืนจากจอมมาร   แม้จะตระหนักดีว่านั่นเป็นการบังอาจและหมิ่นเหม่ต่อการถูกลงโทษมากเพียงใด


..ข้าอยากได้เด็กคนนั้น  เจ้าจะยอมให้ข้าไม่ได้จริงๆ น่ะหรือ  ลูกชาย..


ถึงแม้จะเป็นคำถามที่เอ่ยออกมาด้วยความนุ่มนวล   ทว่าลูซิเฟอร์ซึ่งเอนกายเอกเขนกอยู่บนบัลลังก์กระดูกในยามนั้นไม่เหลือร่องรอยของความขี้เล่นอยู่เลย   เจ้าแห่งปีศาจปรายหางตามองขุนพลคู่ใจที่อยู่ในชุดคลุมยาวสีขาวนวลกับผ้าคลุมบ่าสีอิฐ    ซึ่งคุกเข่าก้มหน้านิ่งพร้อมด้วยปีกดำเป็นมันเงาที่หุบแนบไปกับลำตัวด้วยกิริยาสงบสำรวม   ก่อนจะถอนหายใจออกมา 


..ทั้งที่อีกฝ่ายก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น

ทว่าเจ้ากลับหลงรักคู่พันธะสัญญาของตนเองงั้นหรือ..



..มิได้..  ข้า.. 


ขุนพลแห่งนรกถึงกับสะดุ้งเพราะคำกล่าวหา  

หลงรักนั้นย่อมไม่ใช่  ..แต่ความหลงใหลอาจเป็นไปได้   ในเมื่อเขาคือปีศาจตนหนึ่งซึ่งยังถึงพร้อมด้วยกิเลสตัณหาไม่ใช่หรือ


ท่านพ่อ  ..ปีศาจเช่นเราจะเกิดความรู้สึกพรรค์นั้นกับเหยื่อได้อย่างไรกัน..



..เช่นนั้นพิสูจน์สิ..

พิสูจน์ให้ข้าเห็น..


ถ้อยคำสุดท้ายดุจดังประกาศิตที่ไม่อาจเพิกเฉย   เพราะนั่นคือคำสั่งให้ละทิ้ง   ..ให้ถอดถอนความผูกพันระหว่างปีศาจกับคู่พันธะสัญญาของตน   ซาตานาเกียขบกรามแน่นขณะที่ยังก้มหน้านิ่งพลางปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป..  จากนาทีขยับเพิ่มเป็นชั่วโมง   ทว่าต่อให้ล่วงเลยไปอีกชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าเขาก็ยังไม่อาจตัดสินใจกระทำตามคำสั่งได้   จนในที่สุดปีศาจหนุ่มก็ตัดสินใจเชิดศีรษะขึ้นแล้วประกาศอย่างชัดถ้อยชัดคำ


..ข้าไม่อาจทำเช่นนั้นได้..



มีเสียงระเบิดดังขึ้น..

จู่ๆ แสงสว่างรอบกายเขาก็มืดดับลงพร้อมด้วยความรู้สึกราวกับโลกทั้งโลกถล่มทลายลงมาใส่   เหมือนผืนดินและแผ่นฟ้าเกิดพลิกคว่ำกะทันหัน   ชั่วขณะนั้นซาตานาเกียไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง   จนกระทั่งร่างกระเด็นทะลุกำแพงตำหนักไปปะทะเข้ากับเสาระเบียงอย่างแรงจนขาดกลางแล้วเลยออกไปยังสวนเบื้องนอกนั่นแหละ   จึงได้ตระหนักว่าตนถูกเจ้าแห่งความมืดลงทัณฑ์เสียแล้ว   และทันทีที่ระลึกได้..  พายุหมุนขนาดใหญ่ก็เคลื่อนตัวเข้าหาอย่างเกรี้ยวกราดแล้วพัดกระหน่ำเสียจนเขาไม่มีโอกาสตั้งตัว


..เราไม่ได้เล่นสนุกด้วยกันมานานแล้วนี่นะ  

และมันคงทำให้เจ้าหลงลืมไปแล้วกระมังว่าข้าไม่ค่อยชอบการถูกขัดใจสักเท่าไหร่..


น้ำเสียงนั้นฟังดูราวกับพ่อแม่ที่กำลังอบรมสั่งสอนลูกๆ    ทว่าความหนักหน่วงแห่งการลงทัณฑ์กลับทบทวีความโหดเหี้ยมขึ้นทุกขณะจิต   ปีศาจหนุ่มยกแขนขึ้นตั้งการ์ดพลางสะบัดปีกใหญ่ทั้งคู่กางโอบร่างตนเองเอาไว้ตามสัญชาติญาณ  ก่อนจะได้ลิ้มรสเลือดเมื่อกระแสลมซึ่งคมกริบดุจใบมีดเชือดเฉือนขนปีกสีดำทีละเส้นๆ จนสะบั้นเป็นเศษเล็กเศษน้อยปลิวว่อนไปทั่ว   พร้อมด้วยละอองโลหิตสีคล้ำเข้มที่สาดกระจายไปรอบทิศทาง   และผลที่ตามมาหลังจากนั้นเขาไม่อยากจะนึกถึงมันอีก  



แน่นอน..  ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีวันแข็งข้อกับท่านผู้นี้ได้   เรื่องนั้นซาตานาเกียรู้ดีอยู่แก่ใจ  

และที่รู้ดียิ่งกว่านั้นคือ   หากตนเองพลาดพลั้งเป็นอะไรไป   เด็กคนนั้นก็จะไม่มีโอกาสรอด  


ดังนั้นเขาจึงไม่อาจต่อสู้   ไม่อาจต่อต้าน..  

จำต้องยอมรับโทษทัณฑ์ทุกประการเอาไว้เพื่อให้เจ้านายตัวน้อยอยู่รอดปลอดภัย





เซบาสเตียน  มิคาเอลลิสขบกรามแน่น   พลางพยายามลบภาพเหตุการณ์ที่ตนเองต้องทัณฑ์ทรมานออกไปจากใจ   เมื่อ ณ เวลานี้มีบุคคลถึงสองคนที่สามารถล้วงความลับเบื้องลึกออกมาจากสมองของใครต่อใครก็ได้   เขาจึงไม่ต้องการที่จะให้ใครคนหนึ่งคนใดเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ให้นายน้อยรับรู้   

เซบาสเตียนหวนกลับมาสนใจสถานการณ์เฉพาะหน้า  ..การปรากฏตัวของซาตานส่งผลให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นอีก   ปีศาจระดับขุนพลทั้งสองยืนตัวเกร็งอย่างคุมเชิงกันและกันโดยไม่มีฝ่ายใดยอมลงให้ก่อน    ก่อนที่อกาเลียเรปจะจำใจชิดเท้าตรงแสดงอาการคารวะแล้วสลายร่างจากไปเมื่อเจ้าเหนือหัวเพียงแค่ปรายหางตามอง   

ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์สลัดมือของจอมปีศาจที่วางอยู่บนบ่าตนเองออกแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้พ่อบ้านมากขึ้น   ด้วยรู้ดีถึงจุดประสงค์ในการมาเยือนของอีกฝ่าย



“ข้าได้ให้เวลาแล้วตามที่เจ้าต้องการ    ตัดสินใจได้หรือยัง  ..เด็กน้อย”



..ละทิ้งพันธะสัญญากับปีศาจของเจ้าซะ..  แล้วมาอยู่ข้างกายข้า

เป็นของเล่นของข้าไปชั่วนิรันดร์...



คำพูดประโยคนั้นดังก้องขึ้นในใจขณะที่หนุ่มน้อยขบริมฝีปากแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์   ขณะที่เซบาสเตียนเฝ้ารอการตัดสินใจของผู้เป็นนายด้วยอาการสงบนิ่ง   ปีศาจหนุ่มเพียงแต่ชำเลืองสายตามองแล้วรอคอยคำสั่งในฐานะพ่อบ้านเท่านั้น    และนั่นก็ส่งผลให้ชิเอลถอนหายใจด้วยตระหนักดีถึงบทบาทหน้าที่ของตน..  ในเมื่อพ่อบ้านคนสนิทไม่อาจรับมือกับจอมมารได้   และแผนประวิงเวลาก็ใช้ไปจนหมดแล้วเขาก็ไม่เหลือตัวหมากในมืออีกต่อไป   ดังนั้นก็เหลือแต่วิธีพุ่งเข้าปะทะตรงๆ เท่านั้น 


“ว่ายังไงล่ะ..  การอยู่กับข้าจะทำให้เจ้าไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะถูกใครต่อใครแย่งชิงตัวเพราะน้ำตาฟินิกซ์อีกต่อไป    ข้ารับรองว่าจะไม่มีใครหน้าไหนกล้าทำเช่นนั้นกับเจ้า

อีกอย่าง..   ในฐานะที่ตัวข้าเองก็เป็นเจ้าของน้ำตาฟินิกซ์เช่นกันจึงย่อมไม่อาจข่มเหงร่างกายเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว”


ถึงแม้ข้อเสนอและคำหว่านล้อมนั้นจะฟังดูน่าสนใจสักเพียงใดหากเขาก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว   ด้วยศักดิ์ศรีที่ตนเองพอจะมีเหลืออยู่   เขาย่อมไม่มีวันตระบัดสัตย์ต่อคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับพ่อบ้านของตน   และชิเอลตระหนักดีว่าซาตานจะไม่มีวันพอใจต่อการตัดสินใจครั้งนี้   ซึ่งหนุ่มน้อยเดาถูก..  เพียงแค่ได้รับรู้ถึงความคิดของเขาลูซิเฟอร์ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที   แต่ถึงกระนั้นชิเอลก็ตั้งใจจะพูดออกไปให้ชัดเจน



“ที่จริงข้อเสนอของนายก็น่าสนดีอยู่หรอกนะ..   ซาตาน    แต่ฉันไม่ได้คิดจะอยู่ที่นี่ไปยาวนานอย่างนั้นหรอก   มันชวนให้อึดอัดใจน่ะ   

และนายบอกว่าจะให้ลบล้างพันธะสัญญาหรืออะไรนั่น   ฉันก็ไม่สามารถปฏิบัติตามได้เพราะไม่อาจผิดคำพูดที่เคยให้ไว้กับหมอนี่   รวมทั้งเรื่องที่จะให้คนอย่างชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์ยอมลดตัวลงมาเป็นของเล่นหรือสัตว์เลี้ยงของนายน่ะเลิกคิดได้เลย  ..ฉันขอปฏิเสธ”


นาทีนั้นความเงียบงันจนน่าตกใจได้อุบัติขึ้น   เมื่อชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์ออกปากตัดไมตรีเจ้าแห่งปีศาจอย่างไม่ไว้หน้า   ไม่เพียงเท่านั้น..  ร่างเล็กแบบบางยังยืดอกพลางเชิดหน้าขึ้นสบสายตากับจอมมารอย่างไม่หวั่นเกรงพร้อมด้วยความกล้าที่จะประกาศเจตนารมณ์ให้ฝ่ายตรงข้ามรับรู้   ทั้งที่เป็นเพียงปีศาจตัวน้อยที่ไร้พิษสงซึ่งไม่มีกำลังแม้แต่จะปกป้องตนเองด้วยซ้ำ   และภาพที่ได้เห็นก็ทำให้พ่อบ้านปีศาจเผยอรอยยิ้มภาคภูมิใจที่ส่งผ่านไปถึงแววตา   อึดใจนั้นนัยน์ตาสีทับทิมที่จ้องมองผู้เป็นนายฉายแววอุ่นซ่านขึ้นเป็นครั้งแรกขณะที่เจ้าตัวไม่ทันรู้สึก   


..ต้องอย่างนี้สิขอรับถึงจะสมกับที่เป็นคุณ   และเพื่อเจ้านายเช่นนี้..

แม้ผมจะต้องเจ็บปวดแสนสาหัสยิ่งกว่านี้ก็ยังนับว่าคุ้มค่านัก



“งั้นหรือ..  แม้แต่เจ้าก็ยังขัดใจข้าสินะ”  น้ำเสียงเบาหวิวของราชาปีศาจทำให้เซบาสเตียนเบิกตาโพลง   เมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่สบอารมณ์ที่เจืออยู่ในนั้น



..แย่แล้ว..


“นายน้อย!    



เพราะหวาดกลัวผลที่จะตามมา   พริบตานั้นพ่อบ้านปีศาจพุ่งตัวเข้าหาผู้เป็นนาย   วงแขนกว้างโอบกอดคู่พันธะสัญญาแนบแน่นแล้วหมุนร่างหันแผ่นหลังของตนเองเข้าหาจอมมาร   ขณะที่กดศีรษะเจ้านายตัวกระจ้อยให้ซบแนบอกด้วยหมายจะปกป้องคุ้มครอง   ปรารถนาจะคุ้มกันบุคคลที่แสนสำคัญให้อยู่ห่างจากการลงทัณฑ์ของซาตาน   ทว่าเจ้าแห่งปีศาจกลับมิได้ลงมือแต่อย่างใด


“เล่นอะไรของเจ้า..  ซาตานาเกีย”  ราชาปีศาจหัวเราะด้วยความขบขันเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาตื่นตูมเกินกว่าเหตุ   “คิดว่าข้าจะทำอะไรงั้นหรือ”  ลูซิเฟอร์ยังคงถามด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลพลางขยับเข้ามาใกล้   หากขุนพลปีศาจกลับไม่กล้าไว้วางใจเพราะรู้ดีถึงอุปนิสัยของพ่อผู้ให้กำเนิด


“อย่าได้กลัวไปเลย.. ลูกชาย 
ข้ารู้ดีว่านอกจากพวกเจ้าแล้วก็คงไม่มีใครหรอก   ที่จะสามารถอดทนอดกลั้นต่อการระบายอารมณ์ของข้าได้   ดังนั้นข้าไม่คิดจะทำร้ายปีศาจน้อยของเจ้าหรอกนะ   จงวางใจเถอะ” 



..มารนั้นเป็นผู้ฆ่าคน   ไม่ตั้งอยู่ในสัจจะ   ไม่พูดความจริง… 


ภายใต้คำปลอบโยนกับน้ำเสียงอันอบอุ่น   คำสอนที่ใครสักคนเคยพร่ำบ่นให้ฟังเมื่อยังเด็กพลันแว่วเข้ามาในหัว   และมันทำให้ชิเอลกำมือแน่นอย่างลืมตัวพร้อมทั้งรู้สึกถึงหยาดเหงื่อเย็นเยียบที่ไหลซึมออกมาตามแผ่นหลัง   ขณะที่ดวงตาทั้งสองจ้องมองสีหน้าอ่อนโยนของจอมมารอย่างไม่กระพริบตา


ท่านมาจากปีศาจซึ่งเป็นบิดาของท่าน  

ท่านต้องการทำตามความปรารถนาของบิดาของท่าน

บิดาของท่านเป็นฆาตกรมาตั้งแต่แรกเริ่ม



ใช่แล้ว.. 

เขาน่าจะรู้มานานแล้วว่าปีศาจนั้นไม่เคยพูดความจริง   ถึงแม้การพบกับเซบาสเตียนจะทำให้เรื่องนี้พอจะยังมีข้อยกเว้นอยู่บ้างก็เถอะ  

ทว่ากับนายแห่งปีศาจผู้นี้แล้ว.. 



เขาไม่ยืนหยัดอยู่ในความจริง   เพราะความจริงไม่อยู่ในเขา

เมื่อเขาพูดเท็จ   เขาก็พูดตามธรรมชาติของเขา

เพราะเขาเป็นผู้พูดเท็จ   และเป็นบิดาของการพูดเท็จ  



..ยอห์น 8:44 
   

..ยิ่งคนๆ นี้แสดงความมีเมตตาออกมามากเท่าไหร่ก็ควรพึงระวังไว้ให้มากเท่านั้น



ลูซิเฟอร์ไม่สนใจปีศาจตัวน้อย   หากกลับหันไปพูดกับขุนพลของตน 


“ที่สำคัญข้ารู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเด็กคนนี้เป็นปีศาจคนละวงศ์กับพวกเรา   จึงได้เกิดความสนใจจนถึงกับออกไปดูให้เห็นด้วยตาตนเองยังไงล่ะ  
เพราะว่าเขาไม่ได้สืบทอดพลังอำนาจไปจากข้าเหมือนกับเบเอลเซบูลนั่นแหละ   ข้าจึงไม่มีอำนาจใดๆ เหนือเขาถึงขนาดที่จะทำร้ายเข่นฆ่าได้     แต่ก็ใช่ว่าข้าจะทำอะไรไม่ได้เลยนี่นะ...”

  
ขาดคำร่างเล็กๆ ก็พลันถูกกระชากจนหลุดจากวงแขนของเซบาสเตียน   วินาทีเดียวกับที่เงาดำมืดสายหนึ่งพุ่งเข้าปะทะพ่อบ้านหนุ่มอย่างจังเสียจนทั้งคู่ต่างก็กระเด็นทะลุผนังห้องออกไปข้างนอกด้วยกัน   กรงเล็บยาวแหลมคมของลูซิเฟอร์เจาะทะลวงเข้ากลางลำตัวปีศาจในชุดทักสิโด้แล้วเสียบตรึงร่างอีกฝ่ายเอาไว้กับเสาหิน   และขณะที่กำลังเฝ้ามองลูกของตนกระอักโลหิตออกมาเป็นลิ่มๆ  ..จอมมารกลับแยกตนเองออกเป็นสองร่าง!

อึดใจนั้นเซบาสเตียน  มิคาเอลลิสไม่มีแม้กระทั่งเสียงร้อง..  สิ่งทำได้มากที่สุดมีเพียงแค่ส่งเสียงไอค่อกแค่กออกมาพร้อมกับเลือดขณะที่จับจ้องข้อมือซึ่งจมหายเข้าไปในร่างตนอย่างตกตะลึง   ตามด้วยโลหิตสดๆ จำนวนมากที่ไหลปรี่ออกมาจากบาดแผลตรงช่องท้อง   ..มันคงจะเจ็บน่าดู    ทว่าเวลานั้นเขากลับไม่มีแก่ใจจะสน   เพราะดวงตาแดงก่ำของพ่อบ้านปีศาจจ้องเขม็งแต่เพียงร่างของซาตาน อีกตนหนึ่ง ซึ่งยึดชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์เอาไว้เป็นเชลย   เซบาสเตียนพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากการถูกขัดขวาง   ขณะที่ลูซิเฟอร์อีกตนที่เหลือยังคงตรึงร่างเขาไว้ไม่ยอมปล่อยพร้อมด้วยเสียงกระซิบขู่   


“อย่าได้ขัดขืนอีก  ..มิฉะนั้นข้าจะควักหัวใจเจ้าออกมายัดปากเจ้าซะ”


ทว่าเขาไม่สนใจที่จะฟังคำเตือนอันน่าสยดสยองนั้น   เพราะเมื่อเจ้านายตกอยู่ในอันตรายก็ไม่มีคำขู่ใดในโลกที่น่ากลัวอีกต่อไป    เซบาสเตียนยังคงพยายามดิ้นรนไขว่คว้าจะเข้าไปหานายของตนและยิ่งทุกข์ร้อนกระวนกระวายมากขึ้น   เมื่อเห็นจอมปีศาจทาบฝ่ามือที่เปล่งแสงสว่างจ้าเข้ากับตราแห่งพันธะสัญญาของเด็กคนนั้น   ขณะที่ชิเอลดูเหมือนจะถูกสะกดจนไม่มีสติเป็นตัวของตัวเองอีกต่อไปแล้ว



..ไม่..


“นายน้อย!  



“จริงอยู่ที่ข้าไม่อาจทำร้ายเจ้าจนถึงแก่ชีวิต   แต่ถ้าเพียงแค่ทำลายสัญลักษณ์แห่งพันธะนี้ล่ะก็..   มันช่างง่ายดายเสียยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือเสียอีก”




“อ๊ากกกกก!” 


วินาทีนั้นความเจ็บปวดสาหัสเช่นเดียวกับวันคืนที่เขาได้พบปีศาจเป็นครั้งแรกพลันอุบัติขึ้น   ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์กระตุกเฮือกแล้วร้องตะโกนสุดเสียง   เมื่อฝ่ามือร้อนระอุประดุจเพลิงกาฬประทับลงบนดวงตาข้างขวาแล้วแผดเผาอย่างเหี้ยมเกรียมไร้ปรานี  

ราวกับภาพวันเวลาเมื่อครั้งที่ตนทำสัญญากับเซบาสเตียนหมุนย้อนกลับมา   ทว่าคราวนี้มาพร้อมกับความขมขื่นที่ร้าวลึกยิ่งกว่า   เมื่อชิเอลรู้สึกราวกับกำลังถูกจอมปีศาจกรีดทึ้งลูกนัยน์ตาแล้วดึงเอาตราพันธะสัญญาที่เคยสลักแน่นอยูในแก้วตาออกไป   เขาเจ็บปวดทรมานสุดทน   และความรู้สึกสุดท้ายที่สามารถรับรู้ได้อย่างเลือนลางก็คือ..   นัยน์ตาข้างขวาของตนถูกเผาทำลายเสียจนเหลือแค่เพียงเบ้าลึกกลวงโบ๋   แต่ชิเอลไม่รู้หรอก..  ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นเช่นนั้นหรือไม่   เพราะเมื่อร่างทรุดฮวบลงในอ้อมแขนของซาตานหนุ่มทุกอย่างก็มืดมิด ..แล้วเขาก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย



“นายน้อย!!


และนั่นคือสิ่งที่ทำให้พ่อบ้านปีศาจต้องเจ็บปวดมากที่สุด..  เซบาสเตียน  มิคาเอลลิสไม่แยเเสต่ออาการแสบร้อนบนหลังมือตนเองยามเมื่อสัญลักษณ์แห่งพันธะสัญญาค่อยๆ เลือนหาย   ไม่แยแสต่อเลือดจำนวนมากที่ยังคงไหลทะลักออกมาจากบาดแผลสาหัส   เมื่อความเป็นจริงอันโหดร้ายที่พุ่งเข้ากระแทกเต็มๆ นั้นมันเจ็บปวดยิ่งกว่า   ซ้ำยังเห็นผลชัดเจนอยู่ตรงหน้าแล้ว  


..เขาไม่อาจช่วยเจ้านายคนที่แสนสำคัญได้ทันเวลา

และนั่นคือความจริง..


ปีศาจหนุ่มขบกรามแน่นยามที่ได้ตระหนักอย่างสิ้นหวัง   ว่าบัดนี้สายใยแห่งความผูกพันและพันธะสัญญาระหว่างตัวเขากับชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์ได้ขาดสะบั้นลงแล้ว    

วินาทีนั้นราวกับภาพความทรงจำทั้งหมดที่ผ่านมาระหว่างทั้งคู่พลิ้วไหววูบวาบเข้ามาในห้วงคำนึงฉากแล้วฉากเล่า   แม้จะรู้ดีว่าไร้ประโยชน์..  ทว่าส่วนลึกภายในจิตใจเขายังคงพยายามจะไขว่คว้ามันไว้   ทว่าสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความว่างเปล่า   ดุจดังแสงสว่างจากเปลวเทียนริบหรี่ที่ส่องแสงอยู่เพียงไม่นานก็ดับลง   ทิ้งไว้เพียงม่านควันบางเบาที่สูญสลายไปในความมืด  

การจบสิ้นความสัมพันธ์อย่างไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจเช่นนี้   ส่งผลให้เซบาสเตียนถึงกับหมดสิ้นเรี่ยวแรงจะดิ้นรนให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของเจ้าแห่งความมืด  ..’นายน้อย..  คำเรียกหา ผู้เคยเป็นนาย เวลานี้กลับติดค้างอยู่เพียงแค่ริมฝีปากก่อนที่เขาจะทรุดร่างลงกับพื้นอย่างสิ้นสภาพ   เมื่อปราศจากเจ้านายเซบาสเตียนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป   นาทีนั้นคติประจำใจพลันผุดขึ้นมาในความคิด  ..ตราบใดที่ไม่มีคำสั่งให้เคลื่อนไหว   ตัวหมากก็ย่อมไม่อาจตัดสินใจเองโดยพลการได้.. นั่นคือสุนทรียศาสตร์ข้อสำคัญยิ่งซึ่งเขายึดถือปฏิบัติตลอดมา   ไม่เคยมีครั้งใดที่เขาจะถูกสถานการณ์บีบบังคับจนต้องละเมิดกฎเหล็กข้อนี้   และไม่เคยมีครั้งใดที่พ่อบ้านแห่งแฟนธอมไฮฟ์จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้    ทว่าครั้งนี้..  สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันหนักหนาเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้จริงๆ


ซาตานหนุ่มชำเลืองตามองสภาพอันหมดอาลัยตายอยากของลูกน้อง   แล้วจึงปล่อยให้ร่างซึ่งดูประหนึ่งไร้วิญญาณนั้นกองอยู่ที่เดิมอย่างไม่ใส่ใจ   เพราะเวลานี้จำเป็นต้องจัดการกับปีศาจที่อ่อนปวกเปียกอยู่ในวงแขนตนเองเสียก่อน   เจ้าแห่งความมืดก้มลงกระซิบเสียงแผ่วที่ริมหูหนุ่มน้อยราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น


“เจ้าเป็นอิสระแล้วนะ   เด็กน้อย.. 

แล้วข้าจะคอยชมด้วยความสนุก   ว่าเมื่อปราศจากคนคอยคุ้มครองแล้วใครจะได้เป็นผู้ครอบครองน้ำตาฟินิกซ์ของเจ้ากันแน่   และนี่..  จะเป็นคำอวยพรสุดท้ายจากข้า  ..ขอให้โชคดี”


ซาตานก้มลงจุมพิตริมฝีปากคนที่สิ้นสติอยู่ในอ้อมแขนเนิ่นนาน    ก่อนจะถอนริมฝีปากขึ้นพลางจ้องมองแพขนตายาวงอนที่ทาบทับอยู่บนเรียวแก้มอีกครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา   


..ช่วยไม่ได้จริงๆ   ก็ใครใช้ให้เจ้าถือกำเนิดขึ้นมาในฐานะปีศาจที่ข้าไม่อาจควบคุมดูแลกันล่ะ..



“จุมพิตจากซาตานเช่นข้าจะทำให้เจ้านอนหลับฝันดี  ..หรือตื่นขึ้นมาหวีดร้องกันนะ  

แต่ก็ช่างเถอะ..   ถือเสียว่าเป็นของขวัญแห่งการอำลาจากข้าก็แล้วกัน”


ลูซิเฟอร์ยกแขนขึ้นวาดภาพสัญลักษณ์ประจำตัวกลางอากาศ   และทันใดนั้น..  ห้วงอากาศเบื้องหน้าก็เกิดการบิดเบี้ยวขึ้นก่อนจะปริแยกออกจากกันทีละน้อย   เผยให้เห็นหลุมดำอันมืดมิดไร้ขีดจำกัดซึ่งเป็นประตูมิติไปสู่ที่ใดที่หนึ่ง..   สถานที่ซึ่งอาจเลวร้ายยิ่งกว่านรกเสียจนแม้แต่ปีศาจโตเต็มวัยที่เก่งกล้าสามารถก็ยังต้องครั่นคร้ามที่จะเข้าไป   ทว่าราชันย์แห่งความมืดกลับโยนร่างเจ้าของน้ำตาฟินิกซ์คนล่าสุดเข้าไปในห้วงดำมืดนั้นอย่างไร้ซึ่งความลังเล



ทั้งที่ไม่อาจรู้ได้ว่าปลายทางนั้นคือสถานที่ใด  


และมีสิ่งใดกำลังรออยู่..   






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น