..หากพันธะสัญญาที่แสนสำคัญนั้นถูกข้าทำลาย
ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์ก็จะเป็นอิสระงั้นสินะ...
วินาทีนั้นราวกับภาพเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนที่เขายอมคุกเข่าลงเบื้องหน้าราชันย์แห่งความมืด เพื่อวิงวอนขอให้คืนเจ้านายตัวน้อยให้นั้นพลันสว่างวาบขึ้นในห้วงคำนึง..
โดยที่ผู้เป็นนายมิได้รับรู้เรื่องราวเลยแม้แต่น้อย เวลานั้น..
เขา
..คืนสู่สภาพที่แท้จริงของตนเองเมื่อไม่อาจต้านทานแรงกระตุ้นจากนายผู้ให้กำเนิดได้
ในรูปลักษณ์ของปีศาจผู้มีผิวกายสีนิลเช่นเดียวกับเรือนผมดำยาวซึ่งแผ่ปกคลุมแผ่นหลัง ซาตานาเกียได้กระทำการอาจเอื้อมโดยทวงขอคู่พันธะสัญญาคืนจากจอมมาร แม้จะตระหนักดีว่านั่นเป็นการบังอาจและหมิ่นเหม่ต่อการถูกลงโทษมากเพียงใด
..ข้าอยากได้เด็กคนนั้น เจ้าจะยอมให้ข้าไม่ได้จริงๆ
น่ะหรือ ลูกชาย..
ถึงแม้จะเป็นคำถามที่เอ่ยออกมาด้วยความนุ่มนวล ทว่าลูซิเฟอร์ซึ่งเอนกายเอกเขนกอยู่บนบัลลังก์กระดูกในยามนั้นไม่เหลือร่องรอยของความขี้เล่นอยู่เลย
เจ้าแห่งปีศาจปรายหางตามองขุนพลคู่ใจที่อยู่ในชุดคลุมยาวสีขาวนวลกับผ้าคลุมบ่าสีอิฐ
ซึ่งคุกเข่าก้มหน้านิ่งพร้อมด้วยปีกดำเป็นมันเงาที่หุบแนบไปกับลำตัวด้วยกิริยาสงบสำรวม ก่อนจะถอนหายใจออกมา
..ทั้งที่อีกฝ่ายก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
ทว่าเจ้ากลับหลงรักคู่พันธะสัญญาของตนเองงั้นหรือ..
..มิได้.. ข้า..
ขุนพลแห่งนรกถึงกับสะดุ้งเพราะคำกล่าวหา
หลงรักนั้นย่อมไม่ใช่
..แต่ความหลงใหลอาจเป็นไปได้
ในเมื่อเขาคือปีศาจตนหนึ่งซึ่งยังถึงพร้อมด้วยกิเลสตัณหาไม่ใช่หรือ
ท่านพ่อ ..ปีศาจเช่นเราจะเกิดความรู้สึกพรรค์นั้นกับเหยื่อได้อย่างไรกัน..
..เช่นนั้นพิสูจน์สิ..
พิสูจน์ให้ข้าเห็น..
ถ้อยคำสุดท้ายดุจดังประกาศิตที่ไม่อาจเพิกเฉย เพราะนั่นคือคำสั่งให้ละทิ้ง ..ให้ถอดถอนความผูกพันระหว่างปีศาจกับคู่พันธะสัญญาของตน
ซาตานาเกียขบกรามแน่นขณะที่ยังก้มหน้านิ่งพลางปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป.. จากนาทีขยับเพิ่มเป็นชั่วโมง ทว่าต่อให้ล่วงเลยไปอีกชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าเขาก็ยังไม่อาจตัดสินใจกระทำตามคำสั่งได้ จนในที่สุดปีศาจหนุ่มก็ตัดสินใจเชิดศีรษะขึ้นแล้วประกาศอย่างชัดถ้อยชัดคำ
..ข้าไม่อาจทำเช่นนั้นได้..
มีเสียงระเบิดดังขึ้น..
จู่ๆ แสงสว่างรอบกายเขาก็มืดดับลงพร้อมด้วยความรู้สึกราวกับโลกทั้งโลกถล่มทลายลงมาใส่ เหมือนผืนดินและแผ่นฟ้าเกิดพลิกคว่ำกะทันหัน ชั่วขณะนั้นซาตานาเกียไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง จนกระทั่งร่างกระเด็นทะลุกำแพงตำหนักไปปะทะเข้ากับเสาระเบียงอย่างแรงจนขาดกลางแล้วเลยออกไปยังสวนเบื้องนอกนั่นแหละ จึงได้ตระหนักว่าตนถูกเจ้าแห่งความมืดลงทัณฑ์เสียแล้ว
และทันทีที่ระลึกได้..
พายุหมุนขนาดใหญ่ก็เคลื่อนตัวเข้าหาอย่างเกรี้ยวกราดแล้วพัดกระหน่ำเสียจนเขาไม่มีโอกาสตั้งตัว
..เราไม่ได้เล่นสนุกด้วยกันมานานแล้วนี่นะ
และมันคงทำให้เจ้าหลงลืมไปแล้วกระมังว่าข้าไม่ค่อยชอบการถูกขัดใจสักเท่าไหร่..
น้ำเสียงนั้นฟังดูราวกับพ่อแม่ที่กำลังอบรมสั่งสอนลูกๆ ทว่าความหนักหน่วงแห่งการลงทัณฑ์กลับทบทวีความโหดเหี้ยมขึ้นทุกขณะจิต ปีศาจหนุ่มยกแขนขึ้นตั้งการ์ดพลางสะบัดปีกใหญ่ทั้งคู่กางโอบร่างตนเองเอาไว้ตามสัญชาติญาณ
ก่อนจะได้ลิ้มรสเลือดเมื่อกระแสลมซึ่งคมกริบดุจใบมีดเชือดเฉือนขนปีกสีดำทีละเส้นๆ
จนสะบั้นเป็นเศษเล็กเศษน้อยปลิวว่อนไปทั่ว
พร้อมด้วยละอองโลหิตสีคล้ำเข้มที่สาดกระจายไปรอบทิศทาง และผลที่ตามมาหลังจากนั้นเขาไม่อยากจะนึกถึงมันอีก
แน่นอน..
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีวันแข็งข้อกับท่านผู้นี้ได้ เรื่องนั้นซาตานาเกียรู้ดีอยู่แก่ใจ
และที่รู้ดียิ่งกว่านั้นคือ
หากตนเองพลาดพลั้งเป็นอะไรไป เด็กคนนั้นก็จะไม่มีโอกาสรอด
ดังนั้นเขาจึงไม่อาจต่อสู้
ไม่อาจต่อต้าน..
จำต้องยอมรับโทษทัณฑ์ทุกประการเอาไว้เพื่อให้เจ้านายตัวน้อยอยู่รอดปลอดภัย
เซบาสเตียน
มิคาเอลลิสขบกรามแน่น พลางพยายามลบภาพเหตุการณ์ที่ตนเองต้องทัณฑ์ทรมานออกไปจากใจ เมื่อ ณ
เวลานี้มีบุคคลถึงสองคนที่สามารถล้วงความลับเบื้องลึกออกมาจากสมองของใครต่อใครก็ได้ เขาจึงไม่ต้องการที่จะให้ใครคนหนึ่งคนใดเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ให้นายน้อยรับรู้
เซบาสเตียนหวนกลับมาสนใจสถานการณ์เฉพาะหน้า ..การปรากฏตัวของซาตานส่งผลให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นอีก ปีศาจระดับขุนพลทั้งสองยืนตัวเกร็งอย่างคุมเชิงกันและกันโดยไม่มีฝ่ายใดยอมลงให้ก่อน ก่อนที่อกาเลียเรปจะจำใจชิดเท้าตรงแสดงอาการคารวะแล้วสลายร่างจากไปเมื่อเจ้าเหนือหัวเพียงแค่ปรายหางตามอง
ชิเอล แฟนธอมไฮฟ์สลัดมือของจอมปีศาจที่วางอยู่บนบ่าตนเองออกแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้พ่อบ้านมากขึ้น ด้วยรู้ดีถึงจุดประสงค์ในการมาเยือนของอีกฝ่าย
“ข้าได้ให้เวลาแล้วตามที่เจ้าต้องการ ตัดสินใจได้หรือยัง ..เด็กน้อย”
..ละทิ้งพันธะสัญญากับปีศาจของเจ้าซะ.. แล้วมาอยู่ข้างกายข้า
เป็นของเล่นของข้าไปชั่วนิรันดร์...
คำพูดประโยคนั้นดังก้องขึ้นในใจขณะที่หนุ่มน้อยขบริมฝีปากแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ ขณะที่เซบาสเตียนเฝ้ารอการตัดสินใจของผู้เป็นนายด้วยอาการสงบนิ่ง ปีศาจหนุ่มเพียงแต่ชำเลืองสายตามองแล้วรอคอยคำสั่งในฐานะพ่อบ้านเท่านั้น และนั่นก็ส่งผลให้ชิเอลถอนหายใจด้วยตระหนักดีถึงบทบาทหน้าที่ของตน..
ในเมื่อพ่อบ้านคนสนิทไม่อาจรับมือกับจอมมารได้ และแผนประวิงเวลาก็ใช้ไปจนหมดแล้วเขาก็ไม่เหลือตัวหมากในมืออีกต่อไป ดังนั้นก็เหลือแต่วิธีพุ่งเข้าปะทะตรงๆ เท่านั้น
“ว่ายังไงล่ะ..
การอยู่กับข้าจะทำให้เจ้าไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะถูกใครต่อใครแย่งชิงตัวเพราะน้ำตาฟินิกซ์อีกต่อไป ข้ารับรองว่าจะไม่มีใครหน้าไหนกล้าทำเช่นนั้นกับเจ้า
อีกอย่าง..
ในฐานะที่ตัวข้าเองก็เป็นเจ้าของน้ำตาฟินิกซ์เช่นกันจึงย่อมไม่อาจข่มเหงร่างกายเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว”
ถึงแม้ข้อเสนอและคำหว่านล้อมนั้นจะฟังดูน่าสนใจสักเพียงใดหากเขาก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว ด้วยศักดิ์ศรีที่ตนเองพอจะมีเหลืออยู่ เขาย่อมไม่มีวันตระบัดสัตย์ต่อคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับพ่อบ้านของตน และชิเอลตระหนักดีว่าซาตานจะไม่มีวันพอใจต่อการตัดสินใจครั้งนี้ ซึ่งหนุ่มน้อยเดาถูก.. เพียงแค่ได้รับรู้ถึงความคิดของเขาลูซิเฟอร์ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
แต่ถึงกระนั้นชิเอลก็ตั้งใจจะพูดออกไปให้ชัดเจน
“ที่จริงข้อเสนอของนายก็น่าสนดีอยู่หรอกนะ.. ซาตาน แต่ฉันไม่ได้คิดจะอยู่ที่นี่ไปยาวนานอย่างนั้นหรอก มันชวนให้อึดอัดใจน่ะ
และนายบอกว่าจะให้ลบล้างพันธะสัญญาหรืออะไรนั่น ฉันก็ไม่สามารถปฏิบัติตามได้เพราะไม่อาจผิดคำพูดที่เคยให้ไว้กับหมอนี่ รวมทั้งเรื่องที่จะให้คนอย่างชิเอล แฟนธอมไฮฟ์ยอมลดตัวลงมาเป็นของเล่นหรือสัตว์เลี้ยงของนายน่ะเลิกคิดได้เลย ..ฉันขอปฏิเสธ”
นาทีนั้นความเงียบงันจนน่าตกใจได้อุบัติขึ้น เมื่อชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์ออกปากตัดไมตรีเจ้าแห่งปีศาจอย่างไม่ไว้หน้า ไม่เพียงเท่านั้น.. ร่างเล็กแบบบางยังยืดอกพลางเชิดหน้าขึ้นสบสายตากับจอมมารอย่างไม่หวั่นเกรงพร้อมด้วยความกล้าที่จะประกาศเจตนารมณ์ให้ฝ่ายตรงข้ามรับรู้ ทั้งที่เป็นเพียงปีศาจตัวน้อยที่ไร้พิษสงซึ่งไม่มีกำลังแม้แต่จะปกป้องตนเองด้วยซ้ำ และภาพที่ได้เห็นก็ทำให้พ่อบ้านปีศาจเผยอรอยยิ้มภาคภูมิใจที่ส่งผ่านไปถึงแววตา อึดใจนั้นนัยน์ตาสีทับทิมที่จ้องมองผู้เป็นนายฉายแววอุ่นซ่านขึ้นเป็นครั้งแรกขณะที่เจ้าตัวไม่ทันรู้สึก
..ต้องอย่างนี้สิขอรับถึงจะสมกับที่เป็นคุณ และเพื่อเจ้านายเช่นนี้..
แม้ผมจะต้องเจ็บปวดแสนสาหัสยิ่งกว่านี้ก็ยังนับว่าคุ้มค่านัก
“งั้นหรือ..
แม้แต่เจ้าก็ยังขัดใจข้าสินะ” น้ำเสียงเบาหวิวของราชาปีศาจทำให้เซบาสเตียนเบิกตาโพลง
เมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่สบอารมณ์ที่เจืออยู่ในนั้น
..แย่แล้ว..
“นายน้อย!”
เพราะหวาดกลัวผลที่จะตามมา
พริบตานั้นพ่อบ้านปีศาจพุ่งตัวเข้าหาผู้เป็นนาย วงแขนกว้างโอบกอดคู่พันธะสัญญาแนบแน่นแล้วหมุนร่างหันแผ่นหลังของตนเองเข้าหาจอมมาร ขณะที่กดศีรษะเจ้านายตัวกระจ้อยให้ซบแนบอกด้วยหมายจะปกป้องคุ้มครอง
ปรารถนาจะคุ้มกันบุคคลที่แสนสำคัญให้อยู่ห่างจากการลงทัณฑ์ของซาตาน ทว่าเจ้าแห่งปีศาจกลับมิได้ลงมือแต่อย่างใด
“เล่นอะไรของเจ้า..
ซาตานาเกีย” ราชาปีศาจหัวเราะด้วยความขบขันเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาตื่นตูมเกินกว่าเหตุ “คิดว่าข้าจะทำอะไรงั้นหรือ” ลูซิเฟอร์ยังคงถามด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลพลางขยับเข้ามาใกล้ หากขุนพลปีศาจกลับไม่กล้าไว้วางใจเพราะรู้ดีถึงอุปนิสัยของพ่อผู้ให้กำเนิด
“อย่าได้กลัวไปเลย.. ลูกชาย
ข้ารู้ดีว่านอกจากพวกเจ้าแล้วก็คงไม่มีใครหรอก
ที่จะสามารถอดทนอดกลั้นต่อการระบายอารมณ์ของข้าได้ ดังนั้นข้าไม่คิดจะทำร้ายปีศาจน้อยของเจ้าหรอกนะ จงวางใจเถอะ”
..มารนั้นเป็นผู้ฆ่าคน ไม่ตั้งอยู่ในสัจจะ ไม่พูดความจริง…
ภายใต้คำปลอบโยนกับน้ำเสียงอันอบอุ่น คำสอนที่ใครสักคนเคยพร่ำบ่นให้ฟังเมื่อยังเด็กพลันแว่วเข้ามาในหัว และมันทำให้ชิเอลกำมือแน่นอย่างลืมตัวพร้อมทั้งรู้สึกถึงหยาดเหงื่อเย็นเยียบที่ไหลซึมออกมาตามแผ่นหลัง ขณะที่ดวงตาทั้งสองจ้องมองสีหน้าอ่อนโยนของจอมมารอย่างไม่กระพริบตา
ท่านมาจากปีศาจซึ่งเป็นบิดาของท่าน
ท่านต้องการทำตามความปรารถนาของบิดาของท่าน
บิดาของท่านเป็นฆาตกรมาตั้งแต่แรกเริ่ม
ใช่แล้ว..
เขาน่าจะรู้มานานแล้วว่าปีศาจนั้นไม่เคยพูดความจริง
ถึงแม้การพบกับเซบาสเตียนจะทำให้เรื่องนี้พอจะยังมีข้อยกเว้นอยู่บ้างก็เถอะ
ทว่ากับนายแห่งปีศาจผู้นี้แล้ว..
เขาไม่ยืนหยัดอยู่ในความจริง
เพราะความจริงไม่อยู่ในเขา
เมื่อเขาพูดเท็จ เขาก็พูดตามธรรมชาติของเขา
เพราะเขาเป็นผู้พูดเท็จ และเป็นบิดาของการพูดเท็จ
..ยอห์น 8:44
..ยิ่งคนๆ นี้แสดงความมีเมตตาออกมามากเท่าไหร่ก็ควรพึงระวังไว้ให้มากเท่านั้น
ลูซิเฟอร์ไม่สนใจปีศาจตัวน้อย
หากกลับหันไปพูดกับขุนพลของตน
“ที่สำคัญข้ารู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเด็กคนนี้เป็นปีศาจคนละวงศ์กับพวกเรา จึงได้เกิดความสนใจจนถึงกับออกไปดูให้เห็นด้วยตาตนเองยังไงล่ะ
เพราะว่าเขาไม่ได้สืบทอดพลังอำนาจไปจากข้าเหมือนกับเบเอลเซบูลนั่นแหละ ข้าจึงไม่มีอำนาจใดๆ เหนือเขาถึงขนาดที่จะทำร้ายเข่นฆ่าได้
แต่ก็ใช่ว่าข้าจะทำอะไรไม่ได้เลยนี่นะ...”
ขาดคำร่างเล็กๆ ก็พลันถูกกระชากจนหลุดจากวงแขนของเซบาสเตียน วินาทีเดียวกับที่เงาดำมืดสายหนึ่งพุ่งเข้าปะทะพ่อบ้านหนุ่มอย่างจังเสียจนทั้งคู่ต่างก็กระเด็นทะลุผนังห้องออกไปข้างนอกด้วยกัน กรงเล็บยาวแหลมคมของลูซิเฟอร์เจาะทะลวงเข้ากลางลำตัวปีศาจในชุดทักสิโด้แล้วเสียบตรึงร่างอีกฝ่ายเอาไว้กับเสาหิน
และขณะที่กำลังเฝ้ามองลูกของตนกระอักโลหิตออกมาเป็นลิ่มๆ ..จอมมารกลับแยกตนเองออกเป็นสองร่าง!
อึดใจนั้นเซบาสเตียน
มิคาเอลลิสไม่มีแม้กระทั่งเสียงร้อง..
สิ่งทำได้มากที่สุดมีเพียงแค่ส่งเสียงไอค่อกแค่กออกมาพร้อมกับเลือดขณะที่จับจ้องข้อมือซึ่งจมหายเข้าไปในร่างตนอย่างตกตะลึง ตามด้วยโลหิตสดๆ จำนวนมากที่ไหลปรี่ออกมาจากบาดแผลตรงช่องท้อง ..มันคงจะเจ็บน่าดู ทว่าเวลานั้นเขากลับไม่มีแก่ใจจะสน เพราะดวงตาแดงก่ำของพ่อบ้านปีศาจจ้องเขม็งแต่เพียงร่างของซาตาน
‘อีกตนหนึ่ง’ ซึ่งยึดชิเอล แฟนธอมไฮฟ์เอาไว้เป็นเชลย เซบาสเตียนพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากการถูกขัดขวาง ขณะที่ลูซิเฟอร์อีกตนที่เหลือยังคงตรึงร่างเขาไว้ไม่ยอมปล่อยพร้อมด้วยเสียงกระซิบขู่
“อย่าได้ขัดขืนอีก
..มิฉะนั้นข้าจะควักหัวใจเจ้าออกมายัดปากเจ้าซะ”
ทว่าเขาไม่สนใจที่จะฟังคำเตือนอันน่าสยดสยองนั้น เพราะเมื่อเจ้านายตกอยู่ในอันตรายก็ไม่มีคำขู่ใดในโลกที่น่ากลัวอีกต่อไป เซบาสเตียนยังคงพยายามดิ้นรนไขว่คว้าจะเข้าไปหานายของตนและยิ่งทุกข์ร้อนกระวนกระวายมากขึ้น เมื่อเห็นจอมปีศาจทาบฝ่ามือที่เปล่งแสงสว่างจ้าเข้ากับตราแห่งพันธะสัญญาของเด็กคนนั้น ขณะที่ชิเอลดูเหมือนจะถูกสะกดจนไม่มีสติเป็นตัวของตัวเองอีกต่อไปแล้ว
..ไม่..
“นายน้อย!”
“จริงอยู่ที่ข้าไม่อาจทำร้ายเจ้าจนถึงแก่ชีวิต แต่ถ้าเพียงแค่ทำลายสัญลักษณ์แห่งพันธะนี้ล่ะก็.. มันช่างง่ายดายเสียยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือเสียอีก”
“อ๊ากกกกก!”
วินาทีนั้นความเจ็บปวดสาหัสเช่นเดียวกับวันคืนที่เขาได้พบปีศาจเป็นครั้งแรกพลันอุบัติขึ้น ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์กระตุกเฮือกแล้วร้องตะโกนสุดเสียง เมื่อฝ่ามือร้อนระอุประดุจเพลิงกาฬประทับลงบนดวงตาข้างขวาแล้วแผดเผาอย่างเหี้ยมเกรียมไร้ปรานี
ราวกับภาพวันเวลาเมื่อครั้งที่ตนทำสัญญากับเซบาสเตียนหมุนย้อนกลับมา ทว่าคราวนี้มาพร้อมกับความขมขื่นที่ร้าวลึกยิ่งกว่า เมื่อชิเอลรู้สึกราวกับกำลังถูกจอมปีศาจกรีดทึ้งลูกนัยน์ตาแล้วดึงเอาตราพันธะสัญญาที่เคยสลักแน่นอยูในแก้วตาออกไป เขาเจ็บปวดทรมานสุดทน และความรู้สึกสุดท้ายที่สามารถรับรู้ได้อย่างเลือนลางก็คือ.. นัยน์ตาข้างขวาของตนถูกเผาทำลายเสียจนเหลือแค่เพียงเบ้าลึกกลวงโบ๋ แต่ชิเอลไม่รู้หรอก.. ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นเช่นนั้นหรือไม่ เพราะเมื่อร่างทรุดฮวบลงในอ้อมแขนของซาตานหนุ่มทุกอย่างก็มืดมิด
..แล้วเขาก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
“นายน้อย!!”
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้พ่อบ้านปีศาจต้องเจ็บปวดมากที่สุด.. เซบาสเตียน
มิคาเอลลิสไม่แยเเสต่ออาการแสบร้อนบนหลังมือตนเองยามเมื่อสัญลักษณ์แห่งพันธะสัญญาค่อยๆ
เลือนหาย ไม่แยแสต่อเลือดจำนวนมากที่ยังคงไหลทะลักออกมาจากบาดแผลสาหัส เมื่อความเป็นจริงอันโหดร้ายที่พุ่งเข้ากระแทกเต็มๆ
นั้นมันเจ็บปวดยิ่งกว่า ซ้ำยังเห็นผลชัดเจนอยู่ตรงหน้าแล้ว
..เขาไม่อาจช่วยเจ้านายคนที่แสนสำคัญได้ทันเวลา
และนั่นคือความจริง..
ปีศาจหนุ่มขบกรามแน่นยามที่ได้ตระหนักอย่างสิ้นหวัง ว่าบัดนี้สายใยแห่งความผูกพันและพันธะสัญญาระหว่างตัวเขากับชิเอล แฟนธอมไฮฟ์ได้ขาดสะบั้นลงแล้ว
วินาทีนั้นราวกับภาพความทรงจำทั้งหมดที่ผ่านมาระหว่างทั้งคู่พลิ้วไหววูบวาบเข้ามาในห้วงคำนึงฉากแล้วฉากเล่า แม้จะรู้ดีว่าไร้ประโยชน์.. ทว่าส่วนลึกภายในจิตใจเขายังคงพยายามจะไขว่คว้ามันไว้
ทว่าสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความว่างเปล่า ดุจดังแสงสว่างจากเปลวเทียนริบหรี่ที่ส่องแสงอยู่เพียงไม่นานก็ดับลง ทิ้งไว้เพียงม่านควันบางเบาที่สูญสลายไปในความมืด
การจบสิ้นความสัมพันธ์อย่างไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจเช่นนี้ ส่งผลให้เซบาสเตียนถึงกับหมดสิ้นเรี่ยวแรงจะดิ้นรนให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของเจ้าแห่งความมืด
..’นายน้อย’.. คำเรียกหา ‘ผู้เคยเป็นนาย’ เวลานี้กลับติดค้างอยู่เพียงแค่ริมฝีปากก่อนที่เขาจะทรุดร่างลงกับพื้นอย่างสิ้นสภาพ เมื่อปราศจากเจ้านายเซบาสเตียนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป นาทีนั้นคติประจำใจพลันผุดขึ้นมาในความคิด ..ตราบใดที่ไม่มีคำสั่งให้เคลื่อนไหว ตัวหมากก็ย่อมไม่อาจตัดสินใจเองโดยพลการได้..
นั่นคือสุนทรียศาสตร์ข้อสำคัญยิ่งซึ่งเขายึดถือปฏิบัติตลอดมา ไม่เคยมีครั้งใดที่เขาจะถูกสถานการณ์บีบบังคับจนต้องละเมิดกฎเหล็กข้อนี้
และไม่เคยมีครั้งใดที่พ่อบ้านแห่งแฟนธอมไฮฟ์จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทว่าครั้งนี้.. สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันหนักหนาเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้จริงๆ
ซาตานหนุ่มชำเลืองตามองสภาพอันหมดอาลัยตายอยากของลูกน้อง
แล้วจึงปล่อยให้ร่างซึ่งดูประหนึ่งไร้วิญญาณนั้นกองอยู่ที่เดิมอย่างไม่ใส่ใจ เพราะเวลานี้จำเป็นต้องจัดการกับปีศาจที่อ่อนปวกเปียกอยู่ในวงแขนตนเองเสียก่อน เจ้าแห่งความมืดก้มลงกระซิบเสียงแผ่วที่ริมหูหนุ่มน้อยราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น
“เจ้าเป็นอิสระแล้วนะ เด็กน้อย..
แล้วข้าจะคอยชมด้วยความสนุก
ว่าเมื่อปราศจากคนคอยคุ้มครองแล้วใครจะได้เป็นผู้ครอบครองน้ำตาฟินิกซ์ของเจ้ากันแน่ และนี่..
จะเป็นคำอวยพรสุดท้ายจากข้า
..ขอให้โชคดี”
ซาตานก้มลงจุมพิตริมฝีปากคนที่สิ้นสติอยู่ในอ้อมแขนเนิ่นนาน ก่อนจะถอนริมฝีปากขึ้นพลางจ้องมองแพขนตายาวงอนที่ทาบทับอยู่บนเรียวแก้มอีกครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา
..ช่วยไม่ได้จริงๆ ก็ใครใช้ให้เจ้าถือกำเนิดขึ้นมาในฐานะปีศาจที่ข้าไม่อาจควบคุมดูแลกันล่ะ..
“จุมพิตจากซาตานเช่นข้าจะทำให้เจ้านอนหลับฝันดี ..หรือตื่นขึ้นมาหวีดร้องกันนะ
แต่ก็ช่างเถอะ..
ถือเสียว่าเป็นของขวัญแห่งการอำลาจากข้าก็แล้วกัน”
ลูซิเฟอร์ยกแขนขึ้นวาดภาพสัญลักษณ์ประจำตัวกลางอากาศ และทันใดนั้น.. ห้วงอากาศเบื้องหน้าก็เกิดการบิดเบี้ยวขึ้นก่อนจะปริแยกออกจากกันทีละน้อย เผยให้เห็นหลุมดำอันมืดมิดไร้ขีดจำกัดซึ่งเป็นประตูมิติไปสู่ที่ใดที่หนึ่ง.. สถานที่ซึ่งอาจเลวร้ายยิ่งกว่านรกเสียจนแม้แต่ปีศาจโตเต็มวัยที่เก่งกล้าสามารถก็ยังต้องครั่นคร้ามที่จะเข้าไป ทว่าราชันย์แห่งความมืดกลับโยนร่างเจ้าของน้ำตาฟินิกซ์คนล่าสุดเข้าไปในห้วงดำมืดนั้นอย่างไร้ซึ่งความลังเล
ทั้งที่ไม่อาจรู้ได้ว่าปลายทางนั้นคือสถานที่ใด
และมีสิ่งใดกำลังรออยู่..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น