อารีเอส มู
“เจ้ารู้ไหม.. ว่าเจ้าไม่จำเป็นต้องนึกระเเวงข้าหรอก
ถึงเเม้ว่าอารีเอส มูผู้นี้จะสามารถหายเทเลพอร์ทเข้าออกที่ไหนก็ได้อย่างอิสระ หากหัวใจข้ากลับติดอยู่ในกรงทองสูญสิ้นอิสรภาพด้วยความเต็มใจตั้งเเต่วินาทีที่ข้าได้พบเจ้า....
มีเพียงเจ้าผู้เป็นนายเเห่งข้าเท่านั้นที่มีอำนาจบัญชาทุกสิ่งให้เป็นไป ความรักจากเจ้าเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจข้าให้คงอยู่ ทว่าวันใดที่เจ้าหันหลังให้ข้าจงรู้ไว้เถิดยอดรัก
วันนั้นจะเป็นวันที่ข้าสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งลมหายใจ”
ทอรัส
อัลเดบารัน
“ความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้หรอกนะ
ข้าไม่เถียง ...ว่ามันทำให้เจ้ารู้สึกอบอุ่นใจเพียงไรเมื่อรักใครสักคน แต่สำหรับข้าเเล้วยังมีสิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้น.... เป็นเพราะความรักเเท้ๆที่ได้นำพาเจ้ามาสู่อ้อมแขนของข้า ..ยอดรัก.... ข้ามิใช่ชายช่างฝันที่จะบูชาความรักยิ่งชีวิตหากข้าบูชาคนที่อยู่ตรงนี้มากกว่า
เจ้าคือคนที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตของข้า ทำให้ข้าได้มีวันคืนที่ดีถึงเพียงนี้”
เจมินี่ ซากะ(คาแรคเตอร์จากฟิค Moonlight Serenade)
“ความรักนั้นเปรียบดั่งเปลวไฟ....
มันจะเผาไหม้ลามเลียให้เจ้ารุ่มร้อนทุรนทุรายอยากจะเห็นหน้าคนที่ตนรัก บางครั้งการที่เจ้าไม่ได้ยินเสียงเขาก็ทำให้เจ้าถึงกับนอนไม่หลับต้องกระสับกระส่ายตลอดทั้งคืน... คิดถึงแต่เขาเรื่อยไปอยากแต่จะได้เขามาแนบข้าง....
แต่เมื่อใดก็ตามที่เจ้าสมปรารถนา... มันกลับทำให้เจ้าล่องลอยทั้งอิ่มเอิบและอุ่นซ่านราวกับกำลังอยู่ในความฝัน
ไว้ใจข้าสิ... แล้วข้าจะสอนให้เจ้ารู้จักมันเป็นอย่างดีเลย”
เจมินี่ คาน่อน
“ข้าเคยลองถูกลองผิดมาหลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา....
เคยทำให้ผู้คนแค้นเคืองเพราะความหลงผิดและทะยานอยากในสิ่งที่ไม่ควร แม้พี่ชายร่วมสายโลหิตก็ยังรังเกียจข้า
ทว่าบัดนี้ดวงตาข้ากลับสว่างสดใสอีกครั้งเมื่อได้มองดูเจ้า ยอดรักของข้า.... เจ้าคือความดีงามทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ เปรียบดังดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ปราศจากมลทินขณะที่ข้ากลับจมอยู่กับความมืดที่เกิดจากบาปของตัวเอง
กระนั้นข้าก็ยังมองเห็นแสงสว่างเพราะมีเจ้าเป็นผู้นำทาง”
แคนเซอร์ เดธมาร์ส(คาแรคเตอร์จากโปรเจคฟิคในอนาคต)
“ความรักมันไม่มีอยู่จริงในโลกนี้หรอก
จะมีก็แต่ความหลอกลวงจอมปลอมทั้งนั้นแหละ เฮอะ!!
เจ้าอย่าได้ไปหลงเชื่อเรื่องงี่เง่าพรรค์นั้นเลย เเต่ข้านี่ต่างหากคือของจริงแท้แน่นอนที่จะไม่มีวันหนีหายไปไหน
ข้าไม่มีอะไรจะกำนัลให้เจ้าก็จริงอยู่ หากเดธมาร์สผู้นี้ก็ยังมี2เเขนที่จะโอบกอดเจ้ายามหนาวสั่นกับหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ในอก ดวงที่มันเต้น.. เพื่อเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น
นอกนั้นมันก็ล้วนเเต่เป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น"
เลโอ ไอโอเรีย
“เจ้าเห็นเด็กๆพวกนั้นไหม...
ข้าเองก็เคยถูกฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้เเข็งเเกร่งตั้งเเต่ยังตัวเท่านั้นเหมือนกัน ทั้งๆที่วัยเยาว์ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุใดข้าจึงต้องเเข็งเเกร่ง... เพียงเพื่อจะกลายเป็นเซนต์รึ? ..หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดรออยู่อีก
เเต่วันนี้ข้ารู้แล้ว ทั้งได้ตระหนักอย่างถ่องเเท้ ว่าข้าจำเป็นที่จะต้องเเข็งเเกร่งเพื่อปกป้องคนที่ข้ารัก... เช่นเจ้า
ถ้าหากว่าเป็นเจ้าเเล้วล่ะก็ เเม้ชีวิตนี้ไอโอเรียคนนี้ก็ยอมสละให้ได้ด้วยความเต็มใจ”
เวอร์โก ชากะ
“ความรักคือสิ่งสวยงามที่นำพาความสงบมาสู่โลกนี้
แต่บางครั้งก็อาจนำพาความเจ็บปวดมาให้ ถึงแม้เจ้าจะไม่เคยรู้จักมันเเต่เมื่อไรก็ตามที่มันเข้ามาเยี่ยมเยียนหัวใจเจ้าก็จะทำให้รู้สึกอบอุ่น.. ให้เจ้าคิดถึงเเต่คนๆนั้นจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ หากในขณะเดียวกันก็กลับเป็นสุขเพราะมันยิ่งนัก
และหากว่าเจ้าไว้ใจข้าสักวันหนึ่งข้าจะสอนให้เจ้าเข้าใจ ว่าสีสันที่สวยสดงดงามของความรักนั้นเป็นอย่างไร”
ไลบรา โดโก
“ความรักที่เเท้จริงคือการไม่เห็นเเก่ตัว
เเม้ว่าเขาจะมิได้อยู่ร่วมคู่กับเจ้า เเต่หากวันใดเจ้าเห็นคนรักมีความสุขเเล้วสามารถร่วมยินดีไปกับเขาได้นั่นคือความรักที่เเท้จริง
โดโกผู้นี้มีชีวิตอยู่เพื่อที่จะมองดูความเปลี่ยนแปลงของโลกนี้มานานเเสนนานเเล้ว ถึงเเม้ข้าจะยินดียิ่งนักที่เวลานี้มีเจ้าอยู่เคียงข้างช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เเต่จงรู้ไว้... วันใดที่เจ้าพบหนทางที่ดีกว่านี้ก็จงไปเถิดอย่าได้ลังเล... ข้าจะไม่ฉุดรั้งเจ้าไว้เเต่จะคอยมองส่งเจ้าด้วยความปรารถนาดี
..อย่างที่เคยมีให้กับเจ้ามาตลอด”
สกอร์เปี่ยน มิโร่
“ถึงแม้ข้าจะใช้เวลากว่าครึ่งค่อนชีวิตอยู่แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างแซงทัวรี่ แต่ข้าก็มิใช่คนโง่...
ข้ารู้ว่าความรักเปรียบดังกระจกที่มี2ด้าน
ด้านหนึ่งอาจหวานฉ่ำพาให้อุ่นซ่านถึงหัวใจ แต่อีกด้านหนึ่งอาจนำมาซึ่งความเจ็บปวดทุรนทุรายยิ่งกว่าพิษร้ายของแมงป่อง ทว่ามิโร่ผู้นี้ก็ยังยินดีที่จะเสี่ยง...
เจ้าจะเป็นด้านดีหรือร้ายข้าก็มิอาจรู้ได้ แต่ตอนนี้ต่อให้เจ้ากลายเป็นสการ์เลต นี้ดเดิล
แอนทาเรสก็ตาม....
ข้าก็จะแอ่นอกให้ยิงเสียแต่โดยดี”
ซาจิทาเรียส ไอโอรอส
“ข้าเคยได้ยินใครต่อใครพูดถึงความรักมามากแล้ว
บ้างก็ว่ามันคงอยู่เพียงชั่วครู่ชั่วยามบ้างก็ว่ามันคือนิรันดร์.....
แต่ข้าไม่สนใจที่จะค้นหาคำตอบเหล่านั้นหรอกนะ มนุษย์เรานั้นมีช่วงชีวิตที่สั้นนักอีกทั้งยังมีโชคชะตาที่แตกต่างกันออกไป คนที่โชคดีก็อาจได้มีชีวิตยืนยาวกว่าคนอื่นหน่อย ดังนั้น... ไอโอรอสผู้นี้จึงขอเลือกที่จะใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า
ขอให้ข้าได้หลงใหลมัวเมาไปกับความงามในดวงตาของเจ้า ให้ข้าได้สูดกลิ่นกายหอมหวานที่ทำให้ข้ารู้สึกสงบ ให้ข้าได้แนบใบหูลงฟังเสียงหัวใจที่ทำให้ข้าหลับฝันหวานได้ตลอดทั้งคืน
แม้จะต้องตายในวันรุ่งขึ้น... หากมันก็คุ้มค่าแล้ว”
แคปริคอร์น ชูร่า
“ไม่ว่าใครจะว่ายังไง เเต่สำหรับข้าเเล้วย่อมเลือกที่จะซื่อตรงต่อหัวใจตนเองมากกว่า
ดังเช่นเวลานี้ ...เมื่อข้ารักเจ้าข้าก็บอกว่ารัก มิเคยนึกอยากเสกสรรค์ปั้นเเต่งถ้อยคำให้หวานซึ้งตรึงใจ ด้วยข้าไม่นิยมใช้ประโยชน์จากคำพูดหวานๆมาล่อลวงให้เจ้าหลงเชื่อ
จงมองดูข้าให้ดีเถิด.. ชู่ร่าผู้นี้ไม่มีสมบัติอะไรมากมายนัก จะมีก็แต่ความซื่อตรงเเละภัคดีที่จะมอบให้เจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น
หากว่าเจ้ายินดีรับมันไว้ก็เท่ากับข้าเป็นของเจ้าเเล้วทั้งกายและใจ”
อควอเรียส คามิว(คาแรคเตอร์จากฟิคมู+แคทรา)
“ข้าไม่ใช่ชายที่ชอบพูดเรื่องรักเรื่อยเปื่อยหรอกนะ
ปกติแล้วข้าจะไม่นิยมใช้คำหวานล่อลวงสาวๆให้หลงเสน่ห์ เเต่ถ้าเจ้าได้สัมผัสซึ้งถึงตัวตนของคามิวผู้นี้เเล้วล่ะก็.. เจ้าอาจไม่อยากเเสวงหาอ้อมเเขนชายใดอีกเลยตลอดชั่วชีวิตนี้
หากตัวข้าคงมิอาจให้คำมั่นได้ว่าจะอยู่เคียงข้างเจ้าไปตราบชั่วชีวิต เพราะข้านั้นเปรียบเสมือนสายน้ำที่ลื่นไหลไปเรื่อยๆตามกาลและเวลาด้วยมันคือวิถีชีวิตของข้า และไม่เคยมีครั้งใดที่สายน้ำจะไหลย้อนกลับ...”
พิสเซส อโฟรดิเท
“ความรักมันก็มีอยู่หลายรูปแบบมากมายดาษดื่นเหมือนกับกุหลาบในสวนนี้เเหละ สุดเเท้เเต่ว่าเจ้าจะเลือกดอมดมดอกไหน
กุหลาบเเต่ละดอกก็ล้วนมีความงดงามเเละสลับซับซ้อนด้วยกลีบสีสันสดสวยเรียงกันหลายชั้น พร้อมด้วยกลิ่นหอมที่ชวนให้เคลิบเคลิ้มมัวเมา ...ก็เหมือนความรักที่มิได้มีเพียงด้านเดียว
มันอาจหวานซาบซ่านปานน้ำผึ้งเเต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เจ็บปวดได้เช่นกัน เช่นเดียวกับกุหลาบงามที่ย่อมมีหนามแหลมคมซึ่งอาจทิ่มเเทงมือหากไม่ระวัง ทว่าข้าจะไม่บอกเจ้าหรอกนะว่าข้านั้นเป็นดั่งกลีบรึหนาม เพราะนั่นคือสิ่งที่เจ้าจะต้องเข้ามาเพื่อค้นหาคำตอบด้วยตนเอง”
อารีเอส ชิออน
สักวันหนึ่งเมื่อเจ้าอายุพอๆกับข้า
มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้เจ้าก็จะเข้าใจเองว่าความรักนั้นไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตหรอก เเต่หากว่ามันเกิดขึ้นเเล้วเจ้าก็จะตกอยู่ในบ่วงของมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น...
ทว่าการที่เราจะครองรักกันนั้นมิได้หมายความว่าจะต้องอยู่เคียงคู่กันไปตลอดชีวิต หากเเต่หมายถึงหัวใจเราสองคนที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เเม้กายมิได้ร่วมผสานด้วยอาจมีอุปสรรคขวากหนามถาโถมเข้าใส่ดังเกลียวคลื่นที่ม้วนตัวเข้ากระแทกโขดหินหากใจกลับรวมเป็นหนึ่ง
นั่นล่ะคือความรักที่แท้จริงอันเป็นนิรันดร์...."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น