8/11/2555

Fair play







ตุบ..

ตุบ...         ตุบ...

สาบานได้ว่าเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามราวกับจะระเบิดออกมานอกอกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาคุ้นเคยเอาเสียเลย   อาการวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนจนหอบแฮ่กลิ้นห้อยนี่ก็ไม่ใช่เหมือนกัน    ในเมื่อหลายต่อหลายครั้งเขาเอง...  ที่เป็นผู้สร้างปรากฏการณ์เหล่านี้ให้เกิดขึ้นกับผู้อื่น    เขา..  ผู้ซึ่งได้สมญาชายโฉดผู้ล่อลวงกระทั่งเทพเจ้า    เขา..  คือปฐมเหตุแห่งตำนานความสูญเสียของดินแดนศักดิสิทธิ์ด้วยการใช่เล่ห์เพทุบายเยี่ยงปีศาจชั่วช้า    เจ้าแห่งมารยาสาไถย    และเป็นเขาอีกเช่นกัน..  ที่ปลุกปั่นชักนำมารร้ายมาสิงสู่อยู่ในร่างพี่ชายรวมสายโลหิต   เขาคือปีศาจจอมโฉดชั่วที่สมควรตกนรกหมกไหม้ชั่วกัปชั่วกัลป์   ในทางตรงข้าม..  แฝดผู้พี่ของเขาคือผ้าขาวบริสุทธิ์   คือบุรุษผู้ทรงความเที่ยงธรรม    คือชายผู้น่าเวทนา   ...สุดๆ

ทว่านั่นเป็นหนึ่งเพียงบทบาทซึ่งเขาตีแตกกระจุยเมื่ออยู่หน้าเวทีเท่านั้น   ใครเลยจะรู้..   ว่าเมื่อการแสดงจบลงเรื่องราวทั้งหมดจะพลิกกลับตาลปัตรอย่างไร    เจมินี่  คาน่อนกระโจนลงจากเวทีแล้วเปิดแน่บไม่เหลียวหลังตั้งแต่วินาทีที่ท่านเคียวโกอารีเอสสั่งปิดกล้อง    ชายหนุ่มไม่สนใจงานเลี้ยงฉลองหลังปิดกล้องฟิคล่าสุดเรื่อง ตามหัวใจไปสุดหล้า  เอ้ย..ไม่ใช่สิ...  ฟิคเรื่องเด็กโข่งหลงทาง(You’re The Only Place) ต่างหาก    คาน่อนไม่สนใจจะฟังคอมเมนต์ไรสาระจากคนเขียน    ไม่สนใจบรรดาแม่ยกที่เตรียมตัวมามิตแอนด์กรี๊ด   หลังจากสั่งให้มูโอนค่าตัวเข้าบัญชีแล้วเขาก็เผ่นกลับบ้านเพื่อเก็บข้าวของที่จำเป็นแล้วตั้งใจจะหนีไปให้ไกลที่สุดเพื่อความอยู่รอด   ทว่าเขาก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งเสมอ   ทันทีที่ก้าวขาพ้นประตูเข้ามาชายหนุ่มก็รู้ตัวว่าพลาดเสียแล้วและตนติดกับเข้าอย่างจัง   วงแขนแข็งแรงตวัดรวบตัวเขาเข้าไปแนบชิดจากด้านหลังก่อนจะถูกระดมจูบยกใหญ่จนไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว  อีกแล้ว

“จะหนีข้าไปไหน” เสียงทุ้มลึกทรงอำนาจ   ที่ทำให้เขาขวัญกระเจิงทุกครั้งที่เจ้าตัวเจตนาก้มลงกระซิบข้างหูดังแผ่วๆประหนึ่งยั่วเย้า    คาน่อนพลิกตัวหนี   ทว่าฝันร้ายในยามตื่น  เอ้อ..  พี่ชายฝาแฝดของเขานั่นเอง   ยังคงกอดเอวแน่นไว้อย่างสุดแสนสเน่หา   พร้อมด้วยมือซุกซนข้างหนึ่งที่พยายามรุกล้ำอธิปไตยเข้าไปในร่มผ้าแล้วลูบไล้ตามเนื้อตัว    คาน่อนขนลุกซู่พลางนิ่วหน้าขณะที่มือสั่นระริกพยายามจะแงะมือพี่ออกไปให้พ้นๆ    มันก็ดีอยู่หรอกที่หลังฉากซากะจะเป็นคนที่รักน้องมากไปหน่อย    แต่ถึงขนาดเกาะไม่ปล่อยทุกครั้งที่มีโอกาสเช่นนี้   บอกตรงๆว่ามันทำให้เขาแทบบ้า   มิใช่ว่าไม่รักพี่   ต่พี่จะรู้บ้างไหมว่ามันทำให้เขากลัวฉี่แทบราดแล้ว   และเขารู้ดีเป็นบ้าว่ามันจะต้องเกิดเรื่องหากตนปล่อยให้ซากะเจอตัวหลังจากที่ไม่ได้พบหน้ากันมาพักใหญ่

“เจ้าแมวน้อยของข้า   ใจคอจะไม่ทักทายพี่เจ้าบ้างเลยหรือในเมื่อเรามิได้คุยกันตั้งนาน” ซากะไม่พูดเปล่าหากบรรจงประทับจุมพิตร้อนผ่าวลงบนลำคอแล้วไล่ไปตามลาดไหล่    ส่งผลให้คาน่อนต้องตัดสินใจลงมือก่อนจะถูกรวบหัวรวบหาง   เจมินี่คนน้องกระแทกส้นเท้าลงบนปลายเท้าซึ่งปราศจากรองเท้าของพี่ชายก่อนจะบิดตัวฟันศอกเต็มแรงเข้าที่ลิ้นปี่หวังให้ฝ่ายตรงข้ามลงไปชักดิ้นชักงอ    และมันได้ผลเป็นที่น่าพอใจเมื่อวงแขนพี่ชายคลายออกในที่สุด   ซากะถึงกับตัวงอ   ทว่าก็ยังไม่วายตัดพ้อต่อว่า

“ใจร้าย!   เหตุใดเจ้าจึงเย็นชากับข้านัก   ทั้งๆที่ข้าเป็นเด็กดี   อุตส่าห์อดกลั้นแถมเก็บไม้เก็บมือไว้กับตัวยอมนอนนิ่งๆอยู่ในอ้อมแขนเจ้าในฟิคเรื่องล่าสุด   ทั้งที่เจ้าก็รู้ว่าข้าชอบเวลาที่ได้กอดเจ้ามากแค่ไหน…”  เจมินี่คนพี่พิราบรำพันหวังเรียกคะแนนสงสาร   ทว่ากลับไม่มีวี่แววความสงสารอยู่บนใบหน้าน้องชาย..  เขาไม่มีเวลาถึงเพียงนั้น    เมื่อคาน่อนต้องกระโจนหลบอ้อมกอดมฤตยูที่ไล่ต้อนตนไปทั่วห้องรับแขกก่อนจะตัดสินใจเผ่นหนีขึ้นไปชั้นบนของบ้าน 

“เป็นเด็กดีรึ!  ..คิดว่าข้าไม่ทันรู้ตัวหรือไรว่าตอนนั้นเจ้าแอบจับก้นข้าตั้งหลายหน   ไอ้พี่บ้า!!”


ข้าวของไม่ต้องเก็บกันล่ะ    เอาชีวิตรอดไว้ก่อนดีกว่า

ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปในห้องนอนตนเองโดยมีพี่ชายไล่กวดมาติดๆ   ก่อนจะตัดสินใจกระโจนพรวดเดียวถึงหน้าต่างแล้วพยายามจะปีนลงไป   แต่แล้วก็กลับไปไม่รอด

“จับได้แล้ว!”

….อาเทน่าช่วยด้วยยยย…..

“อย่าาาา!!

เมื่อเจอไม้นี้เข้าแม้แต่ปีศาจจอมโฉดชั่วก็ยังต้องกรีดร้องราวกับอิสตรี    ทว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็คงไม่เป็นผล   ดีไม่ดีอาจเป็นการยั่วยุให้เจ้าปีศาจจอมเฮี้ยนนี่ยิ่งกระตือรือล้นที่จะจัดการกับตน   คาน่อนซึ่งอับจนสิ้นหนทางจึงตัดสินใจหมุนร่างกลับมาเผชิญหน้ากับพี่ชายก่อนจะปล่อยหมัดความไวแสงกระแทกกึ่งปากกึ่งจมูกของซากะ   เรียกโลหิตสดๆให้ไหลปรี่ออกมาเป็นรางวัล   ทว่าคนเจ็บตัวกลับไม่ถือโทษโกรธเคือง   ซากะปาดเลือดออกจากใบหน้าอย่างไม่แยแส   แขนข้างที่ว่างยังคงกอดน้องไว้แน่นก่อนจะจับให้นั่งลงบนตัก

“เห็นรึไม่ว่าข้ายินดีรับหมัดแห่งความรักของเจ้าอย่างเต็มใจโดยไม่คิดจะหลีกหนีไปไหน    ข้าไม่เคยปริปากบ่นยามที่เจ้ารังแกข้า   และยามที่เจ้าร้องไห้โยเยเป็นทารกข้าก็พยายามปกป้องเจ้าเสมอมา”

“ข้าร้องไห้โยเยตอนไหนกัน!   ตั้งแต่จำความได้ข้าต้องหนีเอาตัวรอดจากการถูกเจ้าไล่จับกดมากี่ครั้ง    นั่นน่ะหรือคือการปกป้อง ของเจ้า   สมควรรึไม่ที่ข้าจะเรียกเลือดจากเจ้า” แทนที่จะเห็นใจคาน่อนกลับยิ่งบันดาลโทสะ   เมื่อบุรุษผู้ทรงคุณธรรม   ผู้กล้าแห่งอาเทน่าแท้จริงแล้วเป็นโรคติดน้องเข้ากระแสเลือด   หมดทางเยียวยารักษา  

“แล้วข้าเคยรังแกเจ้าตอนไหนมิทราบ    ลองตอบมาให้ชื่นใจหน่อยซิ   ท่านพี่!!”   แฝดคนน้องจงใจกระแทกเสียงตรงคำสุดท้าย   ก่อนจะต้องใจหายวาบเมื่อพี่ชายมีสีหน้าสลดลง    ซากะปล่อยมือจากน้องชายก่อนจะดันหลังให้ยืนขึ้นพลางนั่งก้มหน้านิ่ง    อากัปกิริยาของพี่ชายทำให้คาน่อนหัวใจกระตุกวูบด้วยความสงสาร

“ข้าไม่เคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้นเลยนะ   เราสองพี่น้องอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันก็จริงแต่กลับไม่ค่อยมีเวลาว่างตรงกันเลย” ซากะรำพึงแผ่วเบา   นัยน์ตาสีน้ำเงินฉายแววเศร้าเสียจนคนเป็นน้องต้องเมินหน้าหนี
 
“ข้าก็เพียงแค่อยากจะมีเจ้าอยู่ข้างกายเหมือนครั้งที่เรายังเด็ก   แต่การที่เจ้าเอาแต่หลบหน้าข้าทำให้ข้าเจ็บปวด และรู้สึกเหมือนไม่เป็นที่ต้องการ  
ข้าเหงา..   ข้าคิดถึงเจ้า    แต่ทุกครั้งที่เจ้าออกไปจากบ้านของเราข้าก็ทำได้เพียงเฝ้ามองว่าเมื่อไรเจ้าจะกลับมา   แล้วยังจะถามอีกหรือว่าเจ้ารังแกข้าตรงไหน    จะให้ข้าตอบเจ้าอย่างไรดีล่ะในเมื่อเจ้าทำให้ข้าปวดร้าวไปทั้งหัวใจอย่างนี้” 

คาน่อนตะลึงงันกับคำพูดเปิดอกที่พี่ชายไม่เคยแพร่งพรายให้รู้   จริงดังที่ซากะบอก..  เขาพยายามหลบหน้าพี่ชายตลอดมาโดยหารู้ไม่ว่าพี่เพียงต้องการจะมีเขาอยู่เคียงข้าง   แล้วเขาทำร้ายพี่ชายตนเองถึงเพียงนี้ได้อย่างไร..

เขาน่าจะ..


“ซากะ   ข้าเสียใจจริงๆ”  คาน่อนดึงพี่ชายให้ลุกขึ้นยืนและสวมกอดแน่น   ขณะที่หัวใจฉาบด้วยความรู้สึกผิด  

“ข้ามีเจ้าเป็นพี่ชายเพียงคนเดียว   ทว่ากลับไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของเจ้าเลย   ยกโทษให้ข้าด้วย”   ชายหนุ่มจบคำพร้อมกับซบใบหน้าลงกับบ่ากว้าง    พลางรู้สึกถึงวงแขนอบอุ่นที่สวมกอดตนแนบแน่น   นัยน์ตาสีครามเบิกโพลง  

..นะ...  นี่..  มันชักจะแน่นเกินไปแล้ว..

“ซากะ?”


แฝดผู้พี่หัวเราะเสียงต่ำๆอยู่ในลำคอก่อนจะขัดขาน้องชายจนหงายหลังล้มลงบนเตียงนอนทั้งคู่

“ข้าไม่เคยถือโทษโกรธเจ้า   จริงๆนะ “  ซากะบรรจงจุมพิตหน้าผากก่อนจะพลิกตัวนอนหงายกะทันหัน   ส่งผลให้คาน่อนกลายเป็นฝ่ายทาบทับอยู่เบื้องบน    เพราะกำลังตกตะลึง..  สมองจึงไม่สั่งการ   ทำให้เจมินี่คนน้องไม่ทันรู้ตัวว่าเสียทีเข้าแล้ว

“ในเมื่อเจ้าชอบคิดว่าข้าจะกดเจ้าอยู่ฝ่ายเดียว   เพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจข้าจะยอมให้เจ้าเป็นฝ่ายอยู่ข้างบนก็แล้วกัน” นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มงดงามแปรเปลี่ยนเป็นสีเลือดในนาทีที่คาน่อนรู้ตัวว่าสายเสียแล้ว


“มามะ   แมวน้อยของข้า    เข้าใจความรู้สึกของข้าแล้วมิใช่หรือ   ว่าข้าอยากอยู่ในกายเจ้ามากที่สุด
อย่าดิ้นสิ..   เจ้าน่ะน่ารักที่สุดรู้มั้ย....”

“เมื่อกี้เจ้าไม่ได้พูดอย่างนี้นี่!!   อยู่เคียงข้างกายกับอยู่ในกายมันคนละเรื่องกันนะเฟ้ย!  ไอ้พี่บ้า!!! 
ม่ายยยยยยย!!!”


ในเมื่อทุกคนในแซงทัวรี่กำลังเฉลิมฉลองกันอยู่ที่วิหารเคียวโก   จึงไม่มีใครเลย..  ที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนเย็นเยียบจับใจนั้น   และก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดในขึ้นค่ำคืนอันเงียบสงบ ณ แผ่นดินแห่งทวยเทพ


End

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น