ตุบ..
ตุบ... ตุบ...
สาบานได้ว่าเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามราวกับจะระเบิดออกมานอกอกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาคุ้นเคยเอาเสียเลย
อาการวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนจนหอบแฮ่กลิ้นห้อยนี่ก็ไม่ใช่เหมือนกัน ในเมื่อหลายต่อหลายครั้งเขาเอง... ที่เป็นผู้สร้างปรากฏการณ์เหล่านี้ให้เกิดขึ้นกับผู้อื่น เขา..
ผู้ซึ่งได้สมญาชายโฉดผู้ล่อลวงกระทั่งเทพเจ้า เขา..
คือปฐมเหตุแห่งตำนานความสูญเสียของดินแดนศักดิสิทธิ์ด้วยการใช่เล่ห์เพทุบายเยี่ยงปีศาจชั่วช้า เจ้าแห่งมารยาสาไถย และเป็นเขาอีกเช่นกัน..
ที่ปลุกปั่นชักนำมารร้ายมาสิงสู่อยู่ในร่างพี่ชายรวมสายโลหิต
เขาคือปีศาจจอมโฉดชั่วที่สมควรตกนรกหมกไหม้ชั่วกัปชั่วกัลป์ ในทางตรงข้าม.. แฝดผู้พี่ของเขาคือผ้าขาวบริสุทธิ์ คือบุรุษผู้ทรงความเที่ยงธรรม คือชายผู้น่าเวทนา ...สุดๆ
ทว่านั่นเป็นหนึ่งเพียงบทบาทซึ่งเขาตีแตกกระจุยเมื่ออยู่หน้าเวทีเท่านั้น ใครเลยจะรู้.. ว่าเมื่อการแสดงจบลงเรื่องราวทั้งหมดจะพลิกกลับตาลปัตรอย่างไร เจมินี่
คาน่อนกระโจนลงจากเวทีแล้วเปิดแน่บไม่เหลียวหลังตั้งแต่วินาทีที่ท่านเคียวโกอารีเอสสั่งปิดกล้อง
ชายหนุ่มไม่สนใจงานเลี้ยงฉลองหลังปิดกล้องฟิคล่าสุดเรื่อง
‘ตามหัวใจไปสุดหล้า’ เอ้ย..ไม่ใช่สิ... ฟิคเรื่อง ‘เด็กโข่งหลงทาง’
(You’re The Only Place) ต่างหาก คาน่อนไม่สนใจจะฟังคอมเมนต์ไรสาระจากคนเขียน ไม่สนใจบรรดาแม่ยกที่เตรียมตัวมามิตแอนด์กรี๊ด หลังจากสั่งให้มูโอนค่าตัวเข้าบัญชีแล้วเขาก็เผ่นกลับบ้านเพื่อเก็บข้าวของที่จำเป็นแล้วตั้งใจจะหนีไปให้ไกลที่สุดเพื่อความอยู่รอด ทว่าเขาก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งเสมอ ทันทีที่ก้าวขาพ้นประตูเข้ามาชายหนุ่มก็รู้ตัวว่าพลาดเสียแล้วและตนติดกับเข้าอย่างจัง วงแขนแข็งแรงตวัดรวบตัวเขาเข้าไปแนบชิดจากด้านหลังก่อนจะถูกระดมจูบยกใหญ่จนไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว …อีกแล้ว
“จะหนีข้าไปไหน” เสียงทุ้มลึกทรงอำนาจ
ที่ทำให้เขาขวัญกระเจิงทุกครั้งที่เจ้าตัวเจตนาก้มลงกระซิบข้างหูดังแผ่วๆประหนึ่งยั่วเย้า คาน่อนพลิกตัวหนี ทว่าฝันร้ายในยามตื่น …เอ้อ.. พี่ชายฝาแฝดของเขานั่นเอง ยังคงกอดเอวแน่นไว้อย่างสุดแสนสเน่หา พร้อมด้วยมือซุกซนข้างหนึ่งที่พยายามรุกล้ำอธิปไตยเข้าไปในร่มผ้าแล้วลูบไล้ตามเนื้อตัว
คาน่อนขนลุกซู่พลางนิ่วหน้าขณะที่มือสั่นระริกพยายามจะแงะมือพี่ออกไปให้พ้นๆ มันก็ดีอยู่หรอกที่หลังฉากซากะจะเป็นคนที่รักน้องมากไปหน่อย แต่ถึงขนาดเกาะไม่ปล่อยทุกครั้งที่มีโอกาสเช่นนี้ บอกตรงๆว่ามันทำให้เขาแทบบ้า มิใช่ว่าไม่รักพี่ แต่พี่จะรู้บ้างไหมว่ามันทำให้เขากลัวฉี่แทบราดแล้ว และเขารู้ดีเป็นบ้าว่ามันจะต้องเกิดเรื่องหากตนปล่อยให้ซากะเจอตัวหลังจากที่ไม่ได้พบหน้ากันมาพักใหญ่
“เจ้าแมวน้อยของข้า
ใจคอจะไม่ทักทายพี่เจ้าบ้างเลยหรือในเมื่อเรามิได้คุยกันตั้งนาน”
ซากะไม่พูดเปล่าหากบรรจงประทับจุมพิตร้อนผ่าวลงบนลำคอแล้วไล่ไปตามลาดไหล่ ส่งผลให้คาน่อนต้องตัดสินใจลงมือก่อนจะถูกรวบหัวรวบหาง
เจมินี่คนน้องกระแทกส้นเท้าลงบนปลายเท้าซึ่งปราศจากรองเท้าของพี่ชายก่อนจะบิดตัวฟันศอกเต็มแรงเข้าที่ลิ้นปี่หวังให้ฝ่ายตรงข้ามลงไปชักดิ้นชักงอ
และมันได้ผลเป็นที่น่าพอใจเมื่อวงแขนพี่ชายคลายออกในที่สุด ซากะถึงกับตัวงอ ทว่าก็ยังไม่วายตัดพ้อต่อว่า
“ใจร้าย! เหตุใดเจ้าจึงเย็นชากับข้านัก ทั้งๆที่ข้าเป็นเด็กดี อุตส่าห์อดกลั้นแถมเก็บไม้เก็บมือไว้กับตัวยอมนอนนิ่งๆอยู่ในอ้อมแขนเจ้าในฟิคเรื่องล่าสุด
ทั้งที่เจ้าก็รู้ว่าข้าชอบเวลาที่ได้กอดเจ้ามากแค่ไหน…” เจมินี่คนพี่พิราบรำพันหวังเรียกคะแนนสงสาร
ทว่ากลับไม่มีวี่แววความสงสารอยู่บนใบหน้าน้องชาย.. เขาไม่มีเวลาถึงเพียงนั้น เมื่อคาน่อนต้องกระโจนหลบอ้อมกอดมฤตยูที่ไล่ต้อนตนไปทั่วห้องรับแขกก่อนจะตัดสินใจเผ่นหนีขึ้นไปชั้นบนของบ้าน
“เป็นเด็กดีรึ!
..คิดว่าข้าไม่ทันรู้ตัวหรือไรว่าตอนนั้นเจ้าแอบจับก้นข้าตั้งหลายหน ไอ้พี่บ้า!!”
…ข้าวของไม่ต้องเก็บกันล่ะ
เอาชีวิตรอดไว้ก่อนดีกว่า…
ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปในห้องนอนตนเองโดยมีพี่ชายไล่กวดมาติดๆ
ก่อนจะตัดสินใจกระโจนพรวดเดียวถึงหน้าต่างแล้วพยายามจะปีนลงไป แต่แล้วก็กลับไปไม่รอด
“จับได้แล้ว!”
….อาเทน่าช่วยด้วยยยย…..
“อย่าาาา!!
เมื่อเจอไม้นี้เข้าแม้แต่ปีศาจจอมโฉดชั่วก็ยังต้องกรีดร้องราวกับอิสตรี ทว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็คงไม่เป็นผล
ดีไม่ดีอาจเป็นการยั่วยุให้เจ้าปีศาจจอมเฮี้ยนนี่ยิ่งกระตือรือล้นที่จะจัดการกับตน คาน่อนซึ่งอับจนสิ้นหนทางจึงตัดสินใจหมุนร่างกลับมาเผชิญหน้ากับพี่ชายก่อนจะปล่อยหมัดความไวแสงกระแทกกึ่งปากกึ่งจมูกของซากะ เรียกโลหิตสดๆให้ไหลปรี่ออกมาเป็นรางวัล ทว่าคนเจ็บตัวกลับไม่ถือโทษโกรธเคือง ซากะปาดเลือดออกจากใบหน้าอย่างไม่แยแส
แขนข้างที่ว่างยังคงกอดน้องไว้แน่นก่อนจะจับให้นั่งลงบนตัก
“เห็นรึไม่ว่าข้ายินดีรับหมัดแห่งความรักของเจ้าอย่างเต็มใจโดยไม่คิดจะหลีกหนีไปไหน ข้าไม่เคยปริปากบ่นยามที่เจ้ารังแกข้า และยามที่เจ้าร้องไห้โยเยเป็นทารกข้าก็พยายามปกป้องเจ้าเสมอมา”
“ข้าร้องไห้โยเยตอนไหนกัน!
ตั้งแต่จำความได้ข้าต้องหนีเอาตัวรอดจากการถูกเจ้าไล่จับกดมากี่ครั้ง นั่นน่ะหรือคือ ‘การปกป้อง’ ของเจ้า สมควรรึไม่ที่ข้าจะเรียกเลือดจากเจ้า”
แทนที่จะเห็นใจคาน่อนกลับยิ่งบันดาลโทสะ
เมื่อบุรุษผู้ทรงคุณธรรม
ผู้กล้าแห่งอาเทน่าแท้จริงแล้วเป็นโรคติดน้องเข้ากระแสเลือด หมดทางเยียวยารักษา
“แล้วข้าเคยรังแกเจ้าตอนไหนมิทราบ
ลองตอบมาให้ชื่นใจหน่อยซิ ท่านพี่!!” แฝดคนน้องจงใจกระแทกเสียงตรงคำสุดท้าย ก่อนจะต้องใจหายวาบเมื่อพี่ชายมีสีหน้าสลดลง ซากะปล่อยมือจากน้องชายก่อนจะดันหลังให้ยืนขึ้นพลางนั่งก้มหน้านิ่ง
อากัปกิริยาของพี่ชายทำให้คาน่อนหัวใจกระตุกวูบด้วยความสงสาร
“ข้าไม่เคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้นเลยนะ
เราสองพี่น้องอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันก็จริงแต่กลับไม่ค่อยมีเวลาว่างตรงกันเลย”
ซากะรำพึงแผ่วเบา
นัยน์ตาสีน้ำเงินฉายแววเศร้าเสียจนคนเป็นน้องต้องเมินหน้าหนี
“ข้าก็เพียงแค่อยากจะมีเจ้าอยู่ข้างกายเหมือนครั้งที่เรายังเด็ก แต่การที่เจ้าเอาแต่หลบหน้าข้าทำให้ข้าเจ็บปวด
และรู้สึกเหมือนไม่เป็นที่ต้องการ
ข้าเหงา..
ข้าคิดถึงเจ้า แต่ทุกครั้งที่เจ้าออกไปจากบ้านของเราข้าก็ทำได้เพียงเฝ้ามองว่าเมื่อไรเจ้าจะกลับมา
แล้วยังจะถามอีกหรือว่าเจ้ารังแกข้าตรงไหน จะให้ข้าตอบเจ้าอย่างไรดีล่ะในเมื่อเจ้าทำให้ข้าปวดร้าวไปทั้งหัวใจอย่างนี้”
คาน่อนตะลึงงันกับคำพูดเปิดอกที่พี่ชายไม่เคยแพร่งพรายให้รู้ จริงดังที่ซากะบอก.. เขาพยายามหลบหน้าพี่ชายตลอดมาโดยหารู้ไม่ว่าพี่เพียงต้องการจะมีเขาอยู่เคียงข้าง แล้วเขาทำร้ายพี่ชายตนเองถึงเพียงนี้ได้อย่างไร..
เขาน่าจะ..
“ซากะ ข้าเสียใจจริงๆ” คาน่อนดึงพี่ชายให้ลุกขึ้นยืนและสวมกอดแน่น ขณะที่หัวใจฉาบด้วยความรู้สึกผิด
“ข้ามีเจ้าเป็นพี่ชายเพียงคนเดียว
ทว่ากลับไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของเจ้าเลย ยกโทษให้ข้าด้วย” ชายหนุ่มจบคำพร้อมกับซบใบหน้าลงกับบ่ากว้าง
พลางรู้สึกถึงวงแขนอบอุ่นที่สวมกอดตนแนบแน่น นัยน์ตาสีครามเบิกโพลง
..นะ... นี่.. มันชักจะแน่นเกินไปแล้ว..
“ซากะ?”
แฝดผู้พี่หัวเราะเสียงต่ำๆอยู่ในลำคอก่อนจะขัดขาน้องชายจนหงายหลังล้มลงบนเตียงนอนทั้งคู่
“ข้าไม่เคยถือโทษโกรธเจ้า
จริงๆนะ “ ซากะบรรจงจุมพิตหน้าผากก่อนจะพลิกตัวนอนหงายกะทันหัน ส่งผลให้คาน่อนกลายเป็นฝ่ายทาบทับอยู่เบื้องบน เพราะกำลังตกตะลึง.. สมองจึงไม่สั่งการ
ทำให้เจมินี่คนน้องไม่ทันรู้ตัวว่าเสียทีเข้าแล้ว
“ในเมื่อเจ้าชอบคิดว่าข้าจะกดเจ้าอยู่ฝ่ายเดียว เพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจข้าจะยอมให้เจ้าเป็นฝ่ายอยู่ข้างบนก็แล้วกัน”
นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มงดงามแปรเปลี่ยนเป็นสีเลือดในนาทีที่คาน่อนรู้ตัวว่าสายเสียแล้ว
“มามะ แมวน้อยของข้า เข้าใจความรู้สึกของข้าแล้วมิใช่หรือ ว่าข้าอยากอยู่ในกายเจ้ามากที่สุด
อย่าดิ้นสิ..
เจ้าน่ะน่ารักที่สุดรู้มั้ย....”
“เมื่อกี้เจ้าไม่ได้พูดอย่างนี้นี่!!
อยู่เคียงข้างกายกับอยู่ในกายมันคนละเรื่องกันนะเฟ้ย! ไอ้พี่บ้า!!!
ม่ายยยยยยย!!!”
ในเมื่อทุกคนในแซงทัวรี่กำลังเฉลิมฉลองกันอยู่ที่วิหารเคียวโก จึงไม่มีใครเลย.. ที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนเย็นเยียบจับใจนั้น และก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดในขึ้นค่ำคืนอันเงียบสงบ
ณ แผ่นดินแห่งทวยเทพ
End
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น