8/16/2555

Special Request For mzelda:Aldebaran and I







มันมาอีกแล้ว.........




นี่หล่อนจะต้องทนรำคาญกับเรื่องบ้าๆนี่ไปอีกนานแค่ไหนกัน.........


ใบหน้างามของสตรีเจ้าของเรือนผมสีดำขลับพลันส่อแววอันบอกบุญไม่รับทันทีที่เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเป็นรอบที่40ของวันนี้


.....ให้ตายสิ   หล่อนน่าจะแข็งใจปิดเครื่องไปเลย  หรือไม่ก็ตัดใจเหวี่ยงมันทิ้งไปซะ......

หากแต่หญิงสาวก็รู้ดีกว่านั้น....


ว่าตราบใดที่หล่อนยังต้องติดต่อเรื่องสารพัดงานทั้งเรื่องเรียนและเรื่องอื่นๆด้วย   โทรศัทพ์เครื่องนี้ของหล่อนมันก็ยังคงจำเป็นอยู่


......ดังอีกแล้ว.......



หลังจากถอนหายใจด้วยความเซ็งสุดๆ   หล่อนก็หันไปคว้ามันขึ้นมาแล้วกดปุ่มรับสาย


ไปผุดไปเกิดได้แล้วคนผีทะเล!....   อย่ามาง้องอนซะให้ยาก   ฉันมันตาสว่างแล้วรู้ไว้ด้วย!!!”
เสียงใสที่เริ่มต้นด้วยความกราดเกรี้ยวดังกรอกไปตามสาย


โธ่มีน.....   เห็นใจผมหน่อยเถอะน่า  นี่ผมตามง้อคุณจนถึงขนาดนี้....

หุบปากนะ!!...   เราจบกันแล้ว  และฉันหมายความตามที่พูดจริงๆ   ต่อให้นายง้อให้ตายก็อย่าหวังว่าฉันจะกลับไปเห็นดีเห็นงามในตัวนายอีกเลย  ไอ้คนเจ้าชู้!!”หล่อนจบประโยคด้วยเสียงตวาดดังลั่นอย่างฉุนขาดแล้วตัดสายฉับ  ก่อนจะถอนหายใจอย่างแรงพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเปิดหน้าต่าง


.....ไปลงนรกซะ..    ผู้ชายเฮงซวย.......


หญิงสาว   ผู้ถูกเรียกว่ามีน  ยังคงก่นด่าประณามเขาคนนั้นอีกหลายกระบุงโกย   หากแต่แผนที่ในมือหล่อนก็ทำให้จิตใจอันหดหู่เศร้าหมองถึงกับพองโตขึ้นมาได้


....ถึงอย่างไร   หล่อนก็มาถึงที่นี่แล้ว...   ที่ๆชายคนหนึ่ง  ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรที่มากไปกว่าคนที่เหมาะสม  และคู่ควรกับคำว่า สุภาพบุรุษอย่างแท้จริงพำนักอยู่

ผู้ที่หล่อนจะยอมทำทุกอย่าง   หรือแม้แต่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อให้ได้พบเจอเขาแม้เพียงอึดใจ


ดูจากแผนที่นี้แล้ว   บ้านพักที่หล่อนมาขอเช่าเพียงชั่วระยะเวลาไม่กี่วันหลังนี้  น่าจะเป็นจุดที่อยู่ใกล้ที่อยู่ของเขามากที่สุดแล้ว    และหล่อนก็จะตัดเรื่องรกสมองออกไปแล้วออกไปตามหาเขาอย่างจริงจังเสียที



หญิงสาวเหวี่ยงโทรศัพท์มือถือลงบนโซฟาอย่างไม่ใยดี  แล้วหันไปคว้าเสื้อนอกมาสวม

ถึงแม้ว่าอากาศที่บราซิลนี้จะค่อนข้างร้อนอบอ้าว   ทว่า....   ด้วยไอแดดที่แผดเผาอย่างร้อนแรงนั้นก็ทำให้หล่อนจำต้องยอมทนร้อนด้วยการสวมเสื้อแขนยาว.... 


ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ผิวสวยๆเป็นรอยไหม้เกรียมก็แล้วกันล่ะน่า......




ท่อนแขนเรียวยาวผลักบานประตูหลังบ้านออกไปพร้อมด้วยกระเป๋าสะพายและแผนที่ในมือ  ด้วยหวังจะไปทางลัด  

ดวงตาดำขลับกวาดมองไปทั่วสวนสวยเล็กๆด้านหลังบ้านอย่างตกตะลึง   เมื่อแสงแดดยามบ่ายอาบไล้ดอกไม้ทุกดอกให้และต้นไม้ใบหญ้าและกลายเป็นสีทองอร่าม ในขณะที่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ก็มีร่มเงาไว้ให้พักพิง  ช่างเป็นภาพที่งดงามจับตายิ่งนัก


บานประตูไม้สีทึมๆบานน้อยอันจะเปิดออกไปสู่เบื้องนอกนั้นอยู่ที่มุมขวาของสวน  ใกล้กับโคนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง   เรือนร่างเพรียวบางก้าวเท้ายาวๆไปยังบานประตูอย่างมุ่งมั่นด้วยดวงใจที่พองโตเมื่อตระหนักได้ว่า...


...ทอรัส  อันเดบาลัน...   สุภาพบุรุษร่างใหญ่ผู้ใจดี   ผู้ซึ่งหล่อนอยากจะพบหน้ามานานแสนนานแล้วอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลย....

ดีไม่ดีหล่อนอาจจะได้เดินสวนกับเขาข้างนอกนี่ด้วยซ้ำไป.....



ทว่า...   ทันใดนั้นหญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อสังเกตเห็นสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้น

เมื่อประตูบานน้อยที่ควรจะปิดสนิทอยู่กลับเปิดแง้มเอาไว้เล็กน้อย   ในขณะที่พื้นหญ้านุ่มใต้เท้าหล่อนก็ปรากฏรอยเหยียบย่ำแปลกๆซึ่งไม่ว่าจะดูอย่างไรก็มิใช่รอยเท้าของมนุษย์   มันดูราวกับกีบเท้าของสัตว์ใหญ่บางชนิด   และ.....  ก่อนที่หล่อนจะได้ตระหนักถึงความจริงในข้อนั้น   หูก็พลันแว่วเสียงพ่นลมหายใจฟืดฟาดดังมาจากด้านหลัง


และทันทีที่หันกลับไปมองหญิงสาวก็แทบจะล้มทั้งยืน   เมื่อหล่อนได้พบว่าบัดนี้ตนเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับกระทิงหนุ่มที่สมบูรณ์เต็มวัยตัวหนึ่งในระยะกระชั้นชิด!

และนั่นก็หมายความว่า   มีระยะห่างระหว่างร่างเล็กๆของหล่อนกับร่างใหญ่อันอันหนาบึกบึนของมันเพียงแค่ฝ่ามือเดียว   ใกล้เสียจนกระทั่งหล่อนสามารถจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีอำพันของมันได้เลยทีเดียว


 “ว๊ายยยยยยยยย!!!!”


หล่อนกรีดร้องสุดเสียงด้วยความตกใจสุดชีวิต   พร้อมกับเสียหลักหงายหลังล้มตึงเมื่อพยายามจะวิ่งหนี


ร่างเล็กๆที่กลัวเสียจนตัวสั่นหลับตาปี๋  รอคอยกีบเท้าอันใหญ่มหึมาของมันที่อาจจะกระทืบลงมาบนร่างในนาทีใดนาทีหนึ่ง   หรือที่แย่กว่านั้นก็คือ......   มันอาจจะเกิดนึกอยากขวิดหล่อนเข้าให้ก็ได้   


....คราวนี้แหละ   หล่อนอาจจะได้พบเจอประสบการณ์อันล้ำค่า...

ด้วยการโดนวัวขวิดไส้ทะลักกระเด็นขึ้นไปแขวนอยู่บนกิ่งไม้.......



ทว่า...   เจ้ากระทิงตัวนั้นกลับยืนสงบนิ่ง   อันที่จริงมันดูค่อนข้างจะตระหนกด้วยซ้ำตอนที่ได้ยินเสียงหวีดร้องแหลมของมนุษย์ตัวน้อยตรงหน้า    ดวงตาสีอำพันของมันกำลังจับจ้องหญิงสาวที่นอนกองอยู่ที่พื้นอย่างตื่นๆ   ในขณะที่หญิงสาวซึ่งเริ่มจะได้สติขึ้นมาอีกครั้ง   เพิ่งสังเกตเห็นถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น

เมื่อไม่เพียงแต่มันจะไม่ทำร้ายหล่อน   หากแต่ยังเดินเข้ามาใกล้  แล้วก้มห้วอันใหญ่โตลงมองหล่อนอย่างสนอกสนใจ


เจ้า....   เจ้าเป็นวัวใจดีใช่มั้ยเนี่ย

เสียงใสถามขึ้นอย่างหวาดๆ   พร้อมกับค่อยๆลุกขึ้นยืน  ดวงตาสีดำสนิทที่ยังคงส่อแววไม่ไว้วางใจเขม้นมองร่างอันใหญ่โตมหึมาที่มีขนาดพอฟัดพอเหวี่ยงกับรถยนตร์อย่างตื่นๆ

ในขณะที่กระทิงหนุ่มตัวนั้นยังคงยืนโบกหางไปมาอย่างสบายอกสบายใจ   ก่อนจะหันไปเล็มหญ้าอย่างไม่สนใจกับมนุษย์ตัวเล็กๆตรงหน้าเลย   และนั่นส่งผลให้หญิงสาวได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ก่อนจะนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้....


......มันกำลังจะทำให้หล่อนต้องจ่ายเงินก้อนโตด้วยการกินต้นไม้หมดทั้งสวน!!




นี่!....   หยุดเดี๋ยวนี้นะ

ทันทีที่นึกขึ้นได้เสียงใสก็ดังขึ้นทันที   ทว่า...   เจ้ากระทิงตัวนั้นก็ไม่มีท่าทีว่าจะรู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย  

มันยังคงเล็มหญ้าต่อไปอย่างเก่า   ในขณะที่หล่อนเองก็เริ่มจะใจกล้ามากขึ้น   พร้อมๆกับที่มองเห็นภาพตนเองกำลังกระเป๋าแห้งตอนที่จ่ายค่าเสียหายทั้งหมดให้กับเจ้าของบ้าน


หยุดนะ!!!     ฉันบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้!!!”


....เงียบ...   ไร้การตอบสนองใดๆ....


ก็แน่ล่ะ   หล่อนเองก็ไม่ได้คาดหวังให้วัวตัวหนึ่งฉลาดแสนรู้ถึงเพียงนั้นหรอก  แต่นี่มัน....



ไอ้วัวบ้า!!....  ถ้าแกยังไม่หยุดทำลายทรัพย์สินฉันจะเอาแกไปทำเนื้อย่างบาบิคิว  ได้ยินไหม!!!
หรือว่าอยากจะลงหม้อตุ๋นดีล่ะ  หา!!  เจ้าเนื้อตุ๋น!!....


มิใช่ว่าไม่รักชีวิต   และก็มิใช่ว่าจะไม่กลัวมัน...    แต่ความห่วงใยในสวัสดิภาพของเงินในกระเป๋าสตางค์นั้นมีมากกว่า  

และนั่นทำให้หญิงสาวตัวเล็กๆที่หวังเพียงเพื่อจะได้ตามหาชายในดวงใจคนนั้นแปรสภาพเป็นนักสู้วัวจำเป็นขึ้นมาทันที     เมื่อหล่อนกระโจนขึ้นหลังมันอย่างลืมตายพร้อมกับพยายามฉุดกระชากลากหัวอันใหญ่โตของมันให้เงยขึ้นจากพื้นด้วยการยึดเขาทั้ง2ข้างของมันไว้แน่น


และสุดท้ายเจ้ากระทิงหนุ่มก็ดูจะรู้...   ว่ามนุษย์ตัวน้อยที่กระโจนขึ้นมาบนหลังของมันไม่ต้องการให้มันทำเช่นนี้    มันจึงยอมเงยหน้าขึ้นจากยอดหญ้าในที่สุดอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก   ภายใต้เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของหญิงสาว  


.....ในที่สุด  มันก็ยอมหยุดเสียที.....


หล่อนคิดอย่างโล่งใจ   แต่แล้วทันใดนั้นหญิงสาวได้ตระหนักว่า  ตนเองกำลังนั่งคร่อมอยู่บนหลังของมันซึ่งอยู่ในระดับที่สูงจากพื้นพอสมควรทีเดียว  และก็ยังไม่รู้ว่าจะลงไปได้ยังไง


.....เอาล่ะสิ....   นะ...  นี่มันสูงไม่ใช่เล่นเลยนะนี่.......  


เอ้อ....นี่...   แกย่อตัวลงหน่อยสิ  ฉันลงไม่ได้...พูดไปแล้วก็ต้องนึกขำตัวเอง   ที่พูดจากับวัวตัวหนึ่งราวกับว่ามันเป็นมนุษย์เหมือนๆกัน  

แต่แล้วหล่อนก็ต้องเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจเหลือที่จะกล่าว   เมื่อมันยอมย่อตัวลงให้จริงๆ.....


.....สงสัยคงบังเอิญล่ะมั้ง.....   วัวที่ไหนจะฟังคนพูดรู้เรื่องกันล่ะ......

...แต่อย่างไรก็ดี  มันก็ทำให้หล่อนลงถึงพื้นได้โดยสวัสดิภาพจนได้


เอาละ...   เห็นว่าเจ้าเป็นเด็กดี    ฉันจะหาหญ้ามาให้กินนะหญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีดำที่ลงทุนเดินทางมาจากแดนไกล    ผู้ซึ่งบัดนี้ได้แปรสภาพเป็นคนเลี้ยงวัวจำเป็นไปเสียแล้ว  เมื่อหล่อนรีบกุลีกุจอหาอาหารมาเลี้ยงแขกไม่ได้รับเชิญเป็นการใหญ่    ก่อนที่มันจะเกิดนึกพิศวาสวนสวยของหล่อนเข้าอีก



......................................................


ตะวันคล้อยลับเหลี่ยมทิวเขาไปเสียแล้ว...

เป็นสัญญาณว่าเวลาของหล่อนได้หมดไปอีก1วันแล้ว    และขณะนี้..  วันเวลาของหล่อนที่จะอยู่ในประเทศนี้ก็กำลังจะหมดลง   เช่นเดียวกับแสงแห่งวันที่กำลังค่อยๆจางหายไป...

และเมื่อครบกำหนดแล้ว   ไม่ว่าจะได้พบหรือไม่ได้พบหล่อนก็จำต้องยอมวางมือไปจากที่นี่...



ทั้งๆที่เป็นช่วงเวลาที่ควรจะใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด.....
ทั้งๆที่หล่อนควรจะได้ตามหาคนที่อยากพบ   ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ...

แต่แล้วหล่อนก็กลับต้องมาติดค้างอยู่กับวัวตัวหนึ่ง  ซึ่งไม่ว่าจะทำยังไงมันก็ไม่ยอมออกไปจากสวนของหล่อน   ...ให้ตายสิ   


และถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่ได้จงเกลียดจงชังวัวมาแต่ไหนแต่ไร   แต่ก็มิได้นึกพิศวาสไรมากมายนัก  ทว่า..  


ตอนนี้เจ้าวัวตัวนี้กลับทำให้หล่อนเริ่มจะหมั่นไส้มันขึ้นมาตะหงิดๆเสียแล้ว  

เมื่อมันได้กินจนอิ่มหนำสำราญ  ในขณะที่หล่อนทั้งเมื่อยขบไปทั่วทั้งตัว  มิหนำซ้ำยังคันยิบๆไปหมด  ด้วยแบกหญ้ากองใหญ่เข้ามาให้มันหลายต่อหลายรอบ  ด้วยหวังว่ามันจะไม่ทำให้สวนสวยของหล่อนต้องพังยับเยิน


หญิงสาวถอนหายใจเฮือกอย่างแสนเสียดาย   พลางแหงนมองท้องฟ้ายามเย็นที่กำลังเปลี่ยนจากสีชมพูเรื่อเป็นสีเทา    ในขณะที่ดวงตาสีอำพันดวงใหญ่ของเจ้ากระทิงหนุ่มตัวนั้นกลับจ้องเขม็งมาที่หล่อนเสียจนน่าประหลาด


ทำไมอีกล่ะ..   กินจนอิ่มแล้วยังจะมีปัญหาอีกเรอะหล่อนแหวเข้าให้ด้วยอารมณ์อันขุ่นมัว   แต่แล้วก็พลันนึกแปลกใจ  ที่ดวงตาสีอำพันคู่นั้นยังคงจ้องมองหล่อนตาไม่กระพริบ


ดูๆไป...  เจ้านี่ก็เป็นกระทิงที่สวยเหมือนกันนะ

ถึงตอนนี้หญิงสาวกลับรู้สึกสงบลงได้อย่างน่าประหลาดเมื่อได้จ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น   บัดนี้...  ความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นอย่างมากมายในตอนแรกพลันอันตรธานไปหมด    ร่างเพรียวบางก้าวเข้าไปใกล้เจ้ากระทิงตัวใหญ่ยักษ์  พร้อมกับเอื้อมือขึ้นไปลูบจมูกมันอย่างแผ่วเบา   ก่อนจะรำพึงกับตนเองอย่างแสนเสียดาย


เป็นเพราะแกแท้ๆ..   มาบราซิลคราวนี้ฉันถึงได้ชวดไปเลย   อดได้เจออันเดบารัน  แถมยังต้องมาติดอยู่กับแกอีก



และในนาทีนั้นเอง...

สิ่งที่ไม่คาดฝันก็พลันบังเกิดขึ้น


เมื่ออยู่ๆกระทิงหนุ่มตัวนั้นก็เกิดเปล่งแสงอันสว่างจ้าออกมาเสียจนนัยน์ตาพร่า    และในอึดใจต่อมา  มันก็กลับกลายเป็นชายหนุ่มร่างใหญ่ผิวคล้ำเข้ม   พร้อมด้วยเรืยนผมยาวสีดำที่แผ่กระจายปกคลุมแผ่นหลัง!!




อะ...  อะ...   อันเด...... เสียงใสเอ่ยอย่างตะกุกตะกักทั้งๆที่ยังช็อคค้างอยู่อย่างนั้น   ดวงตากลมโตเบิกกว้างอีกทั้งยังอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้พบเจออยู่ตรงหน้า


ชายหนุ่มเจ้าของนามอันเดบาลัน  ยืดร่างขึ้นเต็มความแกร่งกำยำ   พลางส่งยิ้มอันกว้างขวางให้กับสาวน้อยตรงหน้าที่กำลังตกตะลึงจนหน้าซีด


....แต่อย่างน้อยครั้งนี้หล่อนก็ไม่ได้ถึงกับหงายหลังล้มตึงไปอีกล่ะนะ....




ขอโทษด้วยนะ   ที่ทำให้ตกใจ....   แล้วข้าก็ต้องขอขอบคุณท่านด้วยที่ช่วยให้ข้าได้กลับคืนร่างเดิมเขาเริ่มต้นขึ้นด้วยน้ำเสียงอันทุ้มต่ำกังวาน  และเต็มไปด้วยพลังอำนาจ  


เอ้อ....   คือฉันงงไปหมดแล้วค่ะ หญิงสาวผู้น่าสงสารที่ดูหมือนเพิ่งจะได้สติเอยขึ้นบ้างด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา  ก่อนจะเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าไปด้านข้าง


คืออย่างนี้อันเดบาลันเริ่มต้นอธิบาย

ข้าถูกเพื่อนบ้านซึ่งเป็นแม่มดวูดูสาปให้กลายเป็นวัว  เพราะมีเรื่องถกเถียงกันนิดหน่อย...

โดยที่ข้าก็ต้องทนอยู่ในร่างนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว   และวิธีที่จะถอนคำสาปนั้นที่จริงแล้วก็ง่ายแสนง่าย ถึงตอนนี้  ดวงตาสีอำพันของชายหนุ่มร่างยักษ์พลันจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวตัวเล็กๆตรงหน้านี้อย่างซาบซึ้งใจ


ก็คือ   เมื่อไรก็ตามที่สตรีที่นึกถึงข้า   เอ่ยนามของข้าออกมา...   คำสาปก็จะสูญสลายไปเอง   และนางก็ได้ชี้แนะให้ข้ามาที่นี่ด้วยเพราะหยั่งรู้ว่าท่านจะมา

ดังนั้น  ท่านจึงได้มาพบข้าอยู่ในสวนของท่านยังไงล่ะทอรัสหนุ่มจบประโยค  และท่ามกลางความตกตะลึงของฝ่ายตรงข้าม   ร่างอันใหญ่โตนั้นก็คุกเข่าลงเบื้องหน้าหล่อน   พร้อมกับประสานสายตาเข้ากับหญิงสาวอย่างแน่วแน่



ข้าทราบว่าท่านอยากจะพบข้า   และเวลานี้ข้าก็เป็นหนี้ท่านแล้ว...  

หากท่านประสงค์สิ่งใดจากข้าก็ขอให้บอกมาเถิด   อันเดบาลันผู้นี้พร้อมที่จะให้ท่านได้ทุกอย่าง



ดวงหน้าอันขาวหมดจดของหญิงสาวที่เพิ่งหายจากอาการตกใจเริ่มจะมีสีเลือดมากขึ้น   เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด  พร้อมทั้งประโยคสุดท้ายอันน่าตอบรับเป็นอย่างยิ่งจากชายหนุ่มที่ตนอยากเจอมากที่สุด   ในขณะที่รายการหลายต่อหลายอย่างที่หล่อนอยากจะทำพลันผุดขึ้นมาในหัวสมองอย่างรวดเร็วและมากมายเสียจนยากที่จะตัดสินใจ

แล้วรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ซุกซนก็พลันปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบาง   ก่อนที่หล่อนจะแตะแขนของเขาให้ลุกขึ้น


งั้นก็เข้ามาในบ้านสิคะ


เขาเดินตามหล่อนเข้าไปอย่างว่าง่าย   โดยหญิงสาวเบี่ยงกายหลบให้เจ้าของร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปก่อน  แล้วจึงปิดประตูตามหลัง 

และเรื่องราวทั้งหมดก็มาถึงบทสรุปอย่างที่ควรจะเป็นของมัน...........



~End~



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น