นี่.....
คุณครับ....
คุณเคยเชื่อมั้ยว่าปาฎิหาริย์น่ะ.. มีจริง
และมันก็เกิดขึ้นแล้วกับคนอย่างผม...
คนที่ไม่เคยมีแสงสว่างอะไรในชีวิตนอกจากความมืดมนที่ห้อมล้อมอยู่รอบกาย กับวันคืนที่ต้องสูดหายใจเอาแต่กลิ่นของความตาย และความเลวร้ายของสิ่งที่เรียกว่า มนุษย์
เข้ามาเก็บไว้เต็มปอดเสียจนแทบกระอัก
วันคืนที่เฝ้าแต่ทำงานงกๆอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพียงเพื่อเป็นบรรณาการแด่จ้าวแห่งยมโลกมานานแสนนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ในเมื่อสถานที่แห่งนี้ไม่เคยมีแสงสว่างใดๆส่องลงมาถึง ไม่เคยมีสายลมพาให้สดชื่น ไม่เคยมีทิวทัศน์อันสวยงามอันใดรึแม้กระทั่งเสียงนกร้อง...
แต่แล้ววันหนึ่งผมก็กลับพบว่ามีแสงสว่างส่องผ่านเข้ามาในชีวิตอันเงียบเหงา ขับไล่ความมืดมนในหัวใจออกไปแล้วแทนที่ด้วยความอบอุ่น ความหวัง ความดีงาม
และใช่... รวมถึงความรักด้วย
แต่ปีแล้วปีเล่าแห่งการเฝ้ารอและอดทนทำให้ผมเกือบจะท้อถอย เมื่อคนๆนั้น ไม่สิ..
เรียกอย่างนั้นดูจะเป็นการอาจเอื้อมและเสียมารยาทไปหน่อย.. ในเมื่อ“ท่านผู้นั้น”ช่างอยู่สูงเหลือเกิน และนั่นก็ทำให้ผมต้องยอมรับอย่างไม่เต็มใจนัก ว่าคนอย่างบัลรอค รูเน่ไม่สมควรบังอาจคิดฝันใฝ่ในตัวของท่านการูด้า ไออาคอส
และหากใครมารู้เข้าล่ะก็มีหวังเป็นขี้ปากแน่ๆ
ทว่าก็ยังดูเหมือนโชคจะเข้าข้างผมเมื่อในที่สุดเราก็มีโอกาสได้อยู่กันตามลำพัง ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆในสถานการณ์ซึ่งไม่โสภานักที่ลูกน้องหน้าโง่ของผม.. เจ้ามารูคิโน่ดันเผลอเรอซุ่มซ่ามขังลืมเราทั้งคู่เอาไว้ในห้องเก็บเครื่องทรงของท่านฮาเดส
และเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มขึ้นจากตรงนั้น.....
.......................................................
“อ๊ะ!! ให้ตายสิ”
น้ำเสียงนุ่มน่าฟังร้องขึ้นอย่างหงุดหงิด
ร่างเพรียวบางในชุดเซอร์พลีซพญาครุทจำต้องก้าวถอยห่างออกมาจากบานประตูสูงเสียดฟ้าอย่างอับจนสิ้นหนทาง เมื่อรัศมีคอสโมสีม่วงเข้มที่ราวกับจะทำหน้าที่เป็นทวารบาลนั้นมิใช่สิ่งที่จะหาญกล้าต่อกรได้เลย
“ก็ท่านไม่ควรเสี่ยงเลยนี่ครับ!”
การูด้า
ไออาคอสหันมาชำเลืองมองบริวารของสหายแวบหนึ่งก่อนจะตวัดสายตากลับไปยังบาดแผลบนหลังมือของตน
หากผู้ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันกลับก้าวเข้ามาใกล้พร้อมด้วยความห่วงใยที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าขาวซีด
“ถึงแม้จะเป็นท่าน ผู้เป็นหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งยมโลกก็มิอาจจะต้านทานพลังคอสโมของท่านฮาเดสที่มีไว้เพื่อจัดการกับผู้บุกรุกได้หรอกนะครับ”
“เป็นเพราะลูกน้องโง่เง่าของเจ้าแท้ๆเชียว”
ผู้พิพากษาแห่งยมโลกค้อมศีรษะลงอย่างขออภัยต่อความผิดพลาดของสเปคเตอร์ใต้บังคับบัญชาก่อนจะถือวิสาสะเข้าไปใกล้ไออาคอสแล้วก้มลงดูบาดแผล
“แล้วข้าจะจัดการลงโทษเจ้านั่นอย่างสาสมในภายหลังครับท่าน
แต่ตอนนี้ขอให้ข้าได้ดูบาดแผลของท่านสักนิดเถอะ”
นัยน์ตาม่วงอ่อนเปล่งประกายอย่างดีใจระคนคาดไม่ถึง เมื่อฝ่ายตรงข้ามยอมส่งมือมาให้แต่โดยดี รูเน่ฉีกกระชากชายเสื้อคลุมตัวยาวของตนออกเป็นริ้วๆ พลางประคองข้อมือสีน้ำผึ้งเอาไว้ในมืออย่างแผ่วเบาทะนุถนอมราวกับว่ามันจะแตกหักได้โดยง่าย
ก่อนจะลงมือเช็ดเลือดออกจากบาดแผลอย่างเบามือแล้วจึงพันทับด้วยผ้าสะอาด ขณะเดียวกันก็อดสงสัยมิได้ว่าเหตุใดข้อมือเล็กๆกับผิวพรรณเนียนละเอียดเช่นนี้ จึงสามารถกุมอำนาจแห่งยมโลกได้ถึงหนึ่งในสามกันหนอ
“ขอบใจนะ”
ไออาคอสเอ่ยเสียงนุ่มพลางชักมือกลับแล้วเบือนหน้าไปอีกทางหนึ่ง และเพียงเท่านั้น... ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่บัลรอค
รูเน่รู้สึกว่าหัวใจพองโตอย่างมีชีวิตชีวาที่สุด เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าชีวิตนี้มีค่าและช่างดีเหลือเกินที่ได้เกิดมา ทว่ามันยังไม่อาจเทียบได้กับสัญญาณบางอย่างที่ตนสัมผัสได้จากดวงตาสีไพลินคู่งามนั้น
....ท่านไออาคอส หรือว่าท่านจะ..
“เจ้ามีความรับผิดชอบดีมาก แล้วข้าจะบอกมีนอสนายเจ้าให้ตบรางวัลให้”
“มิได้ขอรับ.. ข้าทำไปด้วยความเต็มใจยิ่งไม่ได้คาดหวังสิ่งใดตอบแทน
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือในขณะนี้เราจะมีอากาศหายใจอีกนานแค่ไหนกัน กว่าที่จะมีใครสักคนรู้สึกถึงความผิดปกติและมาช่วยเรา”
บรรยากาศภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆที่มิได้กว้างขวางนักแปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อทั้งสองคนต่างก็ตระหนักดีว่าไม่ว่าจะพยายามเท่าไรก็มิอาจเอาชนะคอสโมอันยิ่งใหญ่ซึ่งผนึกอยู่ที่บานประตูได้ และยิ่งกระวนกระวายมากเท่าใดอ็อกซิเจนที่มีอยู่เพียงน้อยนิดก็จะยิ่งถูกผลาญไวขึ้นเท่านั้น
“เราคงได้แต่รอเท่านั้น ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว” ไออาคอสจบประโยคพลางถอนหายใจแผ่วเบาแล้วทรุดกายลงนั่ง
.....หรือว่าข้า ผู้เป็นหนึ่งในสามขุนพลแห่งยมโลกจะต้องมาสิ้นชื่อในสถานที่อย่างนี้หรือ....
“ท่านไออาคอสอย่าได้กังวลไปเลยครับ หากว่าถึงที่สุดจริงๆแล้วล่ะก็... ข้าก็ยินดีจะมอบให้ท่านได้แม้กระทั่งลมหายใจสุดท้าย”
“จะ.. เจ้าพูดอะไรน่ะ”
ใบหน้าคมเข้มที่หันกลับมาอย่างกะทันหันมีอันต้องเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นอีก
เมื่อสายตาพลันสบประสานกันและกันอย่างไม่ได้เจตนา การูด้า
ไออาคอสถึงกับกระถดกายถอยหลังไปจนชิดกำแพงด้วยความตกใจ
ยามที่สเปคเตอร์ต่ำศักดิ์กว่ากระทำการอันจาบจ้วงด้วยการยกหลังมือที่พันผ้าของตนขึ้นจุมพิต
“บังอาจนัก!!..”
“เพราะข้านี้เฝ้ามองแต่เพียงท่านมานานแสนนานแล้ว อย่าว่าแต่ลมหายใจเลย ยิ่งกว่านี้ข้าก็ยอมได้เพื่อท่านไม่ว่าท่านจะด่าว่าข้าอย่างไรก็ตาม
เพราะเราสองคนอาจมิได้ออกไปจากที่นี่อีกเลยก็เป็นได้”
พริบตานั้นอาการฮึดฮัดจากร่างตรงหน้าก็ดูจะผ่อนคลายลงในทันที
ไออาคอสได้เเต่เม้มริมฝีปากแน่นพลางหรุบสายตาลงมองหลังมือของตนอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ในเมื่อสิ่งที่รูเน่พูดคือความจริงที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ในขณะนี้
มากเท่าๆกับที่ความรู้สึกบางอย่างพลุ่งพล่านขึ้นมาจากภายใน
...บางอย่างที่จำต้องเก็บซ่อนไว้มาเนิ่นนาน.....
“เจ้าน่ะ... อย่าลงโทษลูกน้องมากนักล่ะ”
บัลรอค
รูเน่ต้องกระพริบตาด้วยความงุนงงพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้อีกนิดหนึ่ง
“ท่านว่าอะไรนะครับ”
“ข้าบอกว่าเจ้าน่ะ..
ถ้ารอดออกไปได้ก็อย่าลงโทษลูกน้องให้รุนแรงนัก เพราะข้าก็พอจะรู้กิตติศัพท์ความเฉียบขาดของเจ้าดีอยู่นะ”
ประโยคสุดท้ายจากริมฝีปากนุ่ม เรียกรอยยิ้มให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าผู้พิพากษาแห่งยมโลกได้ และก็ช่างเป็นเรื่องอัศจรรย์เหลือเชื่อในความคิดของไออาคอสที่คนอย่างรูเน่ ผู้คร่ำเคร่งอยู่กับงานการมากมายเสียจนแทบไม่เคยพูดคุยกับใครจะยิ้มเป็น แถมยังเป็นรอยยิ้มที่งดงามชวนมองเสียด้วย
“ยังคงเป็นท่านที่โอบอ้อมอารีย์ไม่เคยเปลี่ยนนะครับ”
รูเน่ยังคงยิ้มพลางจ้องมองใบหน้าที่กำลังแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นมาอีกครั้งด้วยดวงตาพราวระยับอย่างตั้งอกตั้งใจ ก่อนจะก้มศีรษะลงในที่สุด
“ในเมื่อเป็นความประสงค์ของท่านข้าก็ยินดีปฏิบัติตาม แต่มีข้อแลกเปลี่ยน..”
“อะไรกัน!
ผู้น้อยอย่างเจ้าน่ะหรือจะหาญกล้ามาขอต่อรองกับข้า..”
ร่างเพรียวในชุดเซอร์พลีซการูด้าสะบัดหน้าพรืดอย่างไม่พอใจก่อนยันกายเตรียมจะลุกขึ้น
หากข้อมือที่ทรงพลังกว่ากลับยื้อยุดฉุดให้อยู่กับที่
ทว่าสิ่งที่ตรึงร่างไออาคอสเอาไว้ได้อย่างแท้จริงนั้นกลับมิใช่พละกำลังอันน้อยนิดจากสเปคเตอร์ระดับต่ำเช่นบัลรอค รูเน่
หากแต่เป็นประกายตาคมวาวคู่นั้นต่างหากที่ราวกับจะมีอำนาจสะกดความเคลื่อนไหว
“ก็ในเมื่อท่านไม่ใช่นายของข้าโดยตรง ดังนั้นข้าจึงมีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนี้ได้
ท่านไออาคอส...
ถ้าหากโชคดีรอดออกไปจากที่นี่ได้ข้าขอฟังคำตอบจากท่านจะได้รึไม่”
“คำตอบอะไรกัน ข้าไม่เห็นรู้เรื่อง”
รูเน่ไล้ปลายนิ้วเรียวยาวเคลียแก้มเนียนพร้อมด้วยรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก
“คำตอบซึ่งท่านเองก็ทราบดีอยู่แก่ใจแต่กลับปิดบังเอาไว้นั่นล่ะครับ ข้าอยากจะฟังจากปากของท่าน”
ขุนพลแห่งยมโลกเม้มปากแน่น ขณะที่เรียวคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด พลางชั่งใจถึงผลได้ผลเสียอีกร้อยแปดประการ
“แต่เราอาจไม่ได้ออกไปอีกเลยก็เป็นได้ ข้าจะบอกเจ้าเลยก็แล้วกัน คือข้า...”
.....................................................
ท้องฟ้าสีแดงช่างสดใส.....
กลิ่นอายแห่งความตายและความแห้งแล้งอันปราศจากชีวิตชีวา
ตลอดจนบรรยากาศทึมๆมืดสลัวที่เคยนึกเบื่อหน่าย
ทว่าเวลานี้ทุกอย่างรอบกายล้วนสวยงามน่ามอง... เพียงเพราะคำพูดประโยคเดียวแท้ๆที่ทำให้โลกของผมเปลี่ยนไป ตลอดกาล....
ครับ...
ปาฏิหาริย์น่ะ... มีจริงๆด้วย
~End~
รูเน่ และไออาคอสฉบับไม่คาดฝัน
ตอบลบความรักในยมโลก โอ้...ช่างเป็นโลกกึ่งสีชมพูโดยแท้ค่ามูนซัง ทำให้ยมโลกที่มีแต่ความมืดมิดและเหน็บหนาว มีสีสัน และอบอุ่นขึ้นเยอะเลย ><
เจิม...คนแรกฮะ
#1 By Aries on 2008-09-04 16:31
---------------------------------------------
อ่ะ ลงเร็วดีจังเลยครับมูนจัง ขอบคุณมากๆครับที่แต่งให้ ^ ^
แต่ห้องเก็บของมันมีระบบป้องกันพังด้วยเหรอเนี้ย
ดูเหมือนว่านู๋ไอจะยินดีที่ติดแหง่กกับรูเน่ด้วยเนอะ
ตกลงก็ไม่รั่วจริงๆสินะ นึกแล้วเชียวว่ามูนจังรั่วไม่เก่ง
ถ้าเป็นฟิคผมนู๋ไอคงจะงอแง จนต้องยืดหน้ากระดาษไป 2-3 หน้าword แล้ว
แต่ว่าเรื่องกล่อง cbox นั้นผมลงไม่ได้ซะทีน่ะสิ
ไว้เจอมูนจังค่อยปรึกษานะ
#2 By Nafkung on 2008-09-04 19:44
--------------------------------------------
มากรี๊ดกับหัวบลอคทั่นช่าค่า!!!!
วี้ดดดดด พี่แนนขา ฟูจังเลือดแม่ยกพลุ่งพล่าน อยากว่างมานอนอ่านจริงจริ๊ง ทั่นช่าที่รักขา
ช่วงนี้วุ่นวายและนอนน้อยอย่างสาหัสจริงๆ ค่ะพี่แนน อยากไปมีตย่อยอีกจัง แต่จะมีบุญได้ไปไหมน้อ สงสัยต้องรอปิดเทอมละเง้อ (ได้ข่าวว่าปิดสองอาทิตย์?? โอ้โน่ว)
มาส่งเสียงทักทายว่ายังไหวอยู่ค่ะ confused smile ไม่ได้อ่านฟิคพี่แนนนานมากเลย ฟูจังขอโทษจริงๆ นะคะ แง้!
#3 By ฟูจัง~* on 2008-09-04 21:48
--------------------------------------------
อุกรีีดอ่านแล้วอิ๊อ๊างมากค่ะ >///<
ปกติหนูไอของนาฟจะหวานน่ารักเสียจนเราลืมตัวจริงของเค้าไปเลยแต่เรื่อง นี้ดูไออาคอสนิสัยคล้ายๆต้นฉบับจริงเลยค่ะ ส่วนรูเน่ก็รุกจนน่าตกใจ (อ้าวก็เรื่องสั้นถ้าไม่รุกเรื่องก็ไม่เดินใช่มั้ยคะ)
จบแฮปปี้ดีค่ะอ่านแล้วสบายใจbig smile
Read more: http://moon-drop.exteen.com/#axzz21PmdgQb0 http://moon-drop.exteen.com/20080903/special-request-for-nafkong-miracle#ixzz22aKOlitQ
Under Creative Commons License: Attribution
หวานมากเลยค่ะ ภาษาก็ดีมากๆด้วย^^
ตอบลบsuigintou-darkdoll ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 08:06:02 pm »
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=9416.0
สนุกดีค่ะ
แต่ดำเนินเรื่องเร็วไปรึเปล่าอ่ะ
ชอบประโยชน์นี้มากเลย
“ท่านไออาคอสอย่าได้กังวลไปเลยครับ หากว่าถึงที่สุดจริงๆแล้วล่ะก็... ข้าก็ยินดีจะมอบให้ท่านได้แม้กระทั่งลมหายใจสุดท้าย”
ฟังแล้วจะละลาย
ภาษาที่ใช่ก็ดีมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับฟิกหวานๆน่ะ
xclover4x ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 08:18:57 pm
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=9416.0
อ้างถึง
“สนุกดีค่ะ
แต่ดำเนินเรื่องเร็วไปรึเปล่าอ่ะ”
น้อมรับคำติชมค่ะ เเต่ที่จำเป็นต้องเร่งให้ไปไวขนาดนี้เพราะว่านี่คือฟิครีเควสจากเพื่อน ก็เลยไม่ค่อยอยากปล่อยให้ยาวยืดเยื้อมากนักค่ะ ผลก็เลยออกมาดูจะไวไปหน่อย^ ^
moondrop ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 11:06:27 pm
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=9416.0
สุดยอดเลยครับคุณมูน
เเล้วผมจะมีวันเขียนฟิคเป็นของตัวเองไม่เนี่ย
ถึงผมเขียนก็คงจะไม่สนุก
aries mu ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 08:26:41 pm
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=9416.0
คุณมูนกลายเป็ฯสาววายไปเเล้วจริงๆด้วย=[]=!!!
เเต่ยังไงผมก็จะตามอ่านทุกเรื่องครับ orz ฟิคคุณมูนสนุกมากเลยครับอ่านเเล้วทำให้เบลอไปได้ช่วยนึงเลย
ถ้าจะดียังไงรบกวนต่อน้องเซเลซิสด้วยนะครับ^^
YorU ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 09:25:26 pm
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=9416.0
ว้าย ๆๆๆๆๆ สนุกจังเลย กรี๊ดๆๆๆ นี่นั่งอ่านไปก็ยิ้มไปเลยนะเนี่ย แต่งเก่งจังเลยค่ะ เริ่ดเลย สนุกจนหาคำมาบรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ได้
แต่งอีกนะคะ ชอบๆๆๆๆ
ตั้งใจเรียนนะคะ สู้ ๆ นี่เราก็ไปเรียนเหมือนกัน การบ้านกองท่วมหัวเลย แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย
จะรออ่านเรื่องที่คุณ moondrop แต่งอีกนะคะ
eugenespecial ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2009, 01:29:47 pm
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=9416.0