8/16/2555

Special Request For AriesFOO : Rescue Shaka







แซงทัวรี่......

เวลาย่ำรุ่ง


หลังจากค่ำคืนที่ยาวนานอันแสนทรมานได้ผ่านพ้นไป  ดวงตะวันก็เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าอีกครั้งหนึ่งแล้ว  และอีกไม่นานก็จะเริ่มอาบไล้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยแสงสีทองอันอบอุ่น  ปลุกทุกชีวิตบนผืนพิภพที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้น   เพื่อดำเนินชีวิตต่อไป   ทว่า......  


มีอยู่ไม่กี่คน....ที่เพิ่งจะได้ร่วงผล็อยสู่ห้วงนิทรารมย์อย่างเหนื่อยอ่อน...   และอีกไม่กี่คน..   ที่เพิ่งจะได้มีโอกาสทำเรื่องดีๆ..  เรื่องที่เป็นประโยชน์ให้กับตัวเอง  เป็นต้นว่า........  ทำแผล



เหล่าเซนต์แห่งอาเทน่า  มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกจัดอยู่ในประเภทหลังสุด....

ในเมื่อพวกเขาแต่ละคน   ต่างก็มีแต่บาดแผลอันเกิดจากการต่อสู้กับดีมอนกันตามสมควร  มากบ้างน้อยบ้าง   และมันคงจะไม่น่าเป็นห่วงอะไรมากนัก   ถ้าหากว่าพวกเขาจะรู้จักดูแลตัวเองให้ได้รับการเยียวยาอย่างที่ควรจะเป็น  


หากทว่า......



บางคนกลับเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา  กับการที่จะปล่อยทิ้งไว้ให้แผลหายเอง   โดยไม่สนใจจะดูแลตัวเอง....


และปัญหาทั้งหมดมันก็เกิดจากตรงนี้แหละ.....

เมื่อทีมแพทย์จากมูลนิธิแกรนด์ที่ถูกส่งมาประจำ ณ แซงทัวรี่  มีโอกาสได้ฝึกฝนทักษะอื่นๆเพิ่มเติมนอกเหนือจากความถนัดด้านการแพทย์...คือ  การวิ่งร้อยเมตรทำสถิติใหม่ผสมกับเทคนิคการสืบสวนสอบสวนหาเหยื่อที่ปล่อยให้คลาดสายตาไปได้....  อีกแล้ว

ด้วยยังคงมีโกลเซนต์บางคน   ที่ไม่เคยจะนึกพิศวาสกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อหรือผ้าพันแผลเอาเสียเลย   จึงได้จงใจหลบเลี่ยงการที่จะต้องพาตัวเองเข้าไปพบเจอกับสิ่งเหล่านี้   ทั้งๆที่ตัวเองกลับบาดเจ็บสาหัส  และกำลังต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน.....




อย่างเช่น...เวอร์โก  ชากะ   ซึ่งได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย  ในทันทีที่หมอทุกคนได้เห็นสภาพของเขาและก็ตัดสินใจได้ในทันทีว่า....  เขาคือคนไข้หนัก(ใจ)ของหมอ

และมิใยว่าจะตามหาตัวเท่าไรๆก็ไม่พบ   ไม่มีเงาของบุรุษผู้ใกล้เคียงพระเจ้าปรากฏให้เห็น   เเม้แต่ในวิหารสาวพรหมจรรย์


เป็นที่รู้ๆกันอยู่...   ว่าชากะนั้น  เกลียดการมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาสัมผัสตัวเป็นที่สุด  และ.....ที่เกลียดยิ่งกว่านั้นก็คือ  กลิ่นฉุนๆของยาฆ่าเชื้อและยาใส่แผลสารพัดชนิด....




หาไม่เจอจริงๆเหรอ คุณหมอใหญ่ผู้มากอาวุโสที่สุดและเป็นหัวหน้าทีมเอ่ยถามพยาบาลสาว  ทันทีที่หล่อนกลับเข้ามาในห้องในสภาพเหงื่อโทรมกาย  เส้นผมสีดำขลับยาวประบ่าพันกันยุ่งไปทั้งหัวจากการตามหา เหยื่อ  ที่หายตัวไปได้ร่วม2ชั่วโมงแล้ว


ฟูจังถอนหายใจเฮือกพร้อมกับส่ายหน้าอย่างอ่อนล้า  

ที่ไหนๆก็ไม่มีค่ะหมอ....   หาจนฟูจังจะลมจับเสียเองแล้วเนี่ย  น้ำเสียงอันเหนื่อยหน่ายกับสำเนียงการพูดที่แปร่งหูแบบคนเอเชียของพยาบาลสาวผมชี้ฟู   ส่งผลให้เลโอ  ไอโอเรีย   ที่นอนพักอยู่บนเตียงซึ่งไม่ห่างออกไปนักต้องเผยอเปลือกตาขึ้นมอง



....ชากะหนีไปแล้วล่ะสิ 

น้ำเสียงทุ้มต่ำอันทรงอำนาจถามขึ้นอย่างขบขัน   ก่อนที่เจ้าของเรือนร่างอันกำยำบึกบึนจะค่อยๆพยุงกายลุกขึ้นนั่ง    ในสภาพที่มีผ้าพันแผลเต็มตัว  พร้อมทั้งสายระโยงระยางของน้ำเกลือ


เอ้อ....คุณอย่าเพิ่งลุกจะดีกว่านะคะ  เดี๋ยวแผลจะ.. เสียงใสที่เป็นกังวลของหญิงสาวยังไม่ทันจะได้พูดจบดี   ชายหนุ่มก็ขัดขึ้นเสียก่อน


ข้าไม่เป็นไรแล้วล่ะน่า...   ได้ยินว่าพวกเจ้ากำลังตามหาชากะอยู่มิใช่หรือ...โกลเซนต์หนุ่มถาม  พลางเอื้อมมือไปกระชากสายยางสารพัดเส้นออกจากตัว   ท่ามกลางเสียงอุทานอย่างตระหนกระคนไม่พอใจของบรรดาแพทย์และพยาบาล   ก่อนที่เขาจะหันมามองหน้าคนเหล่านั้นอย่างงงๆราวกับไม่รู้สีรู้สาถึงการกระทำของตน   แล้วลุกขึ้นจากเตียง


ต่อให้พวกเจ้าหาชากะเจอ   ก็ไม่มีปัญญาจัดการกับหมอนั่นหรอกน่า...ให้ข้าเองดีกว่า ไอโอเรียจบประโยค   พร้อมกับเดินออกไปจากห้องในสภาพที่สวมเพียงกางเกงขายาวเพียงตัวเดียว   ในขณะที่ร่างกายท่อนบนถูกปกปิดอย่างมิดชิดด้วยผ้าพันแผลสีขาวซึ่งยังคงมีรอยเลือดซึมอยู่ทั่วทั้งตัว   

ทิ้งให้มนุษย์ธรรมดาๆอีก3ชีวิตได้แต่ยืนมองตาปริบๆอย่างมิอาจจะทำอะไรได้   ด้วยมันเกินกำลังที่จะห้ามปราม

.....................................................

เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ใหญ่   ไอโอเรียก็กลับมาพร้อมกับบุรุษหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ยาวที่มีคราบเลือดแห้งกรัง   พร้อมด้วยใบหน้างดงามอันบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์อย่างแรง  เมื่อรู้สึกว่าถูกลากตัวเข้ามาอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ  


แหม....ในที่สุดก็ได้ตัวจนได้นะคะ  เสียงใสของฟูจังดังขึ้นอย่างดีอกดีใจทันทีที่ได้เจอ ตัวต้นเหตุของความโกลาหลของพวกตนตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง  


และทันทีที่ได้กลิ่นสารพัดน้ำยาในห้องนั้น   ชากะก็ถึงกับเบือนหน้าหนีทันที   พร้อมกับตั้งท่าจะหันหลังกลับ..

ทว่า   ด้วยความรวดเร็วและความว่องไวในระดับที่เท่าเทียมกัน   ทำให้โกลเซนต์เวอร์โกหนีไปไหนไม่รอด   เมื่อข้อนิ้วอันแข็งแกร่งของสหายยามยากผู้ทรยศเพื่อนพลันกระชับแน่นอยู่รอบต้นแขน


ปล่อย!...ไอโอเรีย   ไม่เช่นนั้นเจ้ากับข้าออกไปเจอกันตัวๆข้างนอกเลย

เมื่อเห็นได้ชัดว่าพูดดีๆไม่ได้ผล  ชากะจึงหันมาใช้วิธีการขู่  พร้อมกับเร่งคอสโมขึ้นมาทันทีทันใด   ท่ามกลางใบหน้าอันซีดเผือดที่ยืนเรียงสลอนกันอยู่ตรงนั้น   พร้อมด้วยขดเชือกในมือ  ที่พร้อมจะใช้งานได้ทุกเมื่อ


ทว่าราชสีห์หนุ่มกลับยิ้มกว้างอย่างขบขันกับทีท่าอันคิดไม่ถึงของสหาย 

เพื่ออาเทน่า....ชากะ   ....เจ้าจงยอมแต่โดยดีเถิด   ...อาเทน่าเชียวนะ...ถึงตอนนี้  โกลเซนต์หนุ่มแห่งราศีสิงห์พยายามปั้นสีหน้าให้เคร่งขรึมและน่าเชื่อถือที่สุดเท่าที่จะทำได้   ในขณะที่พยายามที่จะไม่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา



เมื่อเจอไม้ตายอันหนักหน่วงเข้าไป.....  ก็ทำให้บุรุษผู้ใกล้เคียงพระเจ้าถึงกับพูดไม่ออก

เรือนร่างสูงสง่าถึงกับถอนหายใจพรืด   ก่อนจะยอมถอดครอธออกแต่โดยดี   เผยให้เห็นร่างกายท่อนบนอันเปล่าเปลือยที่เต็มไปด้วยบาดแผลทั้งเก่าและใหม่   ตลอดจนคราบเลือดสีคล้ำที่แห้งเกรอะกรังติดเต็มตัว  

ในขณะเดียวกับที่ร่างกายท่อนล่างตั้งแต่ช่วงเอวลงไป  ที่สวมกางเกงซึ่งรัดตรึงไปกับลอนสะโพกอันเครียดครัด  และท่อนขายาวกระชับไปด้วยกล้ามเนื้อนั้นก็ทั้งมอมแมมและขาดวิ่น  และแน่นอนว่า...เต็มไปด้วยบาดแผลเช่นกัน



เอาล่ะ....ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงครับ คุณหมอใหญ่จัดแจงสั่งการทันทีที่สบโอกาส   ขณะที่พยาบาลสาวปูผ้าสีขาวสะอาดเตรียมไว้ให้แล้ว   พร้อมกับผ้าอีกผืนหนึ่งพาดอยู่บนท่อนแขนเพื่อใช้คลุมร่าง

อเล็คซ์…..ขอหูฟังและที่วัดความดันด้วยนะ คุณหมอใหญ่หันไปกำชับผู้ช่วยหนุ่ม  พร้อมกับสวมถุงมือยาง  พลางก้าวเข้าไปที่เตียง


แต่ทันใดนั้น...  โทรศัพท์เคลื่อนที่ในกระเป๋ากางเกงก็เกิดดังขึ้นเสียก่อน.......


..........................................................

อะไรนะครับผอ.!   จะให้ผมบินด่วนไปวาติกัน......

แต่ว่าตอนนี้ผมติดภารกิจอยู่ที่กรีซคงไม่..................อะไรนะ!!...ครับ....  ครับๆ
 

เอ้อ....อเล็คซ์....เก็บของด่วนเลย   แล้ววางมือจากทุกอย่างเดี๋ยวนี้!”  น้ำเสียงอันติดจะเข้มงวดของนายแพทย์ใหญ่ดังขึ้น   และนั่นส่งผลให้ผู้ช่วยหนุ่มถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก


เราจะต้องออกบินไปสำนักวาติกันให้ทันวันพรุ่งนี้เพื่อไปสมทบกับศัลยแพทย์อีกทีมหนึ่ง.....ทางมูลนิธิติดต่อมา...ว่าเรามีเคสด่วน!”


ทันทีที่สิ้นเสียงของหัวหน้าทีม   ลูกทีมทั้ง2คนก็รีบกุลีกุจอเก็บรวบรวมข้าวของทันที


อ้อ!....ฟูจัง คุณอยู่ที่นี่ล่ะ 



สาวน้อยในชุดพยาบาลสีขาวสะอาดแทบจะสะดุดล้ม  ทันทีที่ได้ยิน


ผมคิดว่าคุณควรจะอยู่ดูแลพวกเซนต์ที่นี่แหละน้ำเสียงอันติดจะเร่งร้อน  ดูจะเย็นลงบ้างเล็กน้อยเมื่อหันมาบอก

เพราะว่าที่นี่ยังมีคนบาดเจ็บอยู่อีกมาก  และมันคงจะไม่เกินกำลังของคุณไปได้หรอกน่าถึงตอนนี้   คุณหมอใหญ่ตบบ่าฟูจังอย่างให้กำลังใจ   ก่อนจะรีบออกเดินทาง

ทิ้งให้ฟูจังยืนหน้าซีดอยู่เพียงลำพัง  ในขณะที่ชากะกลับมีสีหน้าโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด.....



เจ้าของเรือนกายอันสูงใหญ่ที่สะบักสะบอมขยับลุกขึ้น  พร้อมกับดึงผ้าที่คลุมร่างอยู่มาพันรอบกาย


หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” 

น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนจะเด็ดขาด  ทว่าก็ประหม่าอยู่ในทีดังขึ้นอย่างทันทีทันใด  พร้อมกับดวงหน้าอันงดงามน่ารักของนางฟ้าในชุดสีขาวพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ


และนั่นทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ในสภาพกึ่งเปลือยนึกขันขึ้นมาทันที

อะไรกัน.... ได้โปรดอย่าบอกข้านะ  ว่าถึงแม้จะเหลือเจ้าเพียงคนเดียว  ก็ยังคิดจะสานต่อเรื่องนี้น้ำเสียงอันทุ้มนุ่มถามเสียงแผ่วอย่างเจตนาจะลองใจฝ่ายตรงข้าม   ในขณะที่ใบหน้าอัดงดงามสมบูรณ์แบบนั้นยังคงเรียบเฉย   จะมีก็เพียงรอยยิ้มน้อยๆเท่านั้น


ใช่แล้ว!  ในเมื่อคุณหมอได้กรุณาฝากฝังคุณไว้กับฉัน.....ฉันก็จะจัดการให้แน่ใจ  ว่าทั่วตัวคุณจะต้องได้รับการรักษาเยียวยาค่ะ ฟูจังตะโกนดังลั่น  ด้วยใบหน้าที่แดงกว่าเก่า  พร้อมกับหยิบถุงมือยางมาสวมอย่างรวดเร็วแล้วย่างสามขุมเข้าไป


เอาล่ะค่ะ   คุณจะไม่นอนลงก็ได้แต่ว่า  ขอให้ยอมอยู่นิ่งๆสักพักก็แล้วกันหล่อนบอกพร้อมกับเทน้ำยาล้างแผลลงบนก้อนสำลี



เอาล่ะ....ที่สุดท้ายแล้ว  ก้มลงมาทีค่ะ  ตรงคอคุณน่ะ พยาบาลสาวบอกพร้อมกับชะเง้อมองรอยกัดน่ากลัวที่ลำคอชายหนุ่มอย่างสยดสยอง   ทว่า...  ด้วยความสูงเพียงแค่160เซนติเมตร  ทำให้หล่อนต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะยืดร่างขึ้นเพื่อให้มองเห็น


สงสัยจะต้องปัดผมคุณออกไปให้พ้นๆก่อน...   โทษนะคะ

หล่อนเอ่ยพลางถือวิสาสะเอื้อมมือปัดปอยผมของเขาไปอีกทางหนึ่ง  ในขณะที่ชายหนุ่มยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีด้วยการโน้มร่างต่ำลง  เพื่อให้หล่อนทำงานได้สะดวกขึ้น   จนกระทั่งลมหายใจอันร้อนผ่าวของเขาเป่ารดอยู่ที่ริมหูของฝ่ายตรงข้าม


เป็นอะไรไป  มือไม้สั่นไปหมด....หนาวหรือน้ำเสียงอันอ่อนโยนถามขึ้นที่ข้างหู  ยิ่งทำให้ฟูจังยิ่งสั่นมากกว่าเก่า   หล่อนจึงแก้เขินด้วยการโป๊ะผ้ากอซลงไปบนปากแผลเต็มแรง....   ชากะผู้น่าสงสารถึงกับสะดุ้งเฮือก


โอ๊ะ!!...   ขอโทษนะคะ  เผลอหนักมือไปหน่อย  หล่อนบอกพร้อมกับถอยออกมาเมื่อทำแผลเสร็จเรียบร้อย


ไม่เป็นไรหรอก...ขอบใจมากนะหนูน้อย  โกลเซนต์หนุ่มเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ที่บัดนี้มีแต่ผ้าพันแผลเต็มตัวเช่นเดียวกับคนอื่นๆเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล  

ทว่า..  คำขอบคุณของเขากลับทำให้สาวน้อยตรงหน้าจะยิ้มก็ไม่ใช่จะโมโหก็ไม่เชิง


เอ้อ...คือ  ฉันอายุ21แล้วนะคะ หล่อนบอกอ้อมแอ้มด้วยใบหน้าแดงก่ำ   ส่งผลให้ชากะถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง  พร้อมด้วยสีหน้าตกใจ

อภัยให้ข้าด้วย  ...ถ้าไม่ได้ฟังจากปากเจ้า  ข้าก็คงนึกไม่ถึงว่าเจ้าจะอ่อนกว่าข้าเพียง6ปีเท่านั้น
ชายหนุ่มเอ่ยปากพร้อมกับก้มศีรษะน้อยๆเป็นเชิงขอโทษ  


ถ้างั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน 

ชายหนุ่มคว้ามือหล่อนไปจุมพิตอย่างแผ่วเบาและรวดเร็วครั้งหนึ่ง   พร้อมกับลืมตาขึ้น    เผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าใสคู่งามที่เต็มไปด้วยพลังดึงดูดอันแรงกล้า...


ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ค่อยชอบกลิ่นน้ำยาพวกนี้นัก  แต่ก็ต้องขอขอบใจเจ้ามาก   เพราะ...
มันคงจะช่วยให้ข้าหายเป็นปรกติได้เร็วขึ้น   ก่อนที่จะต้องไปรับบทหลักในฟิคเรื่องต่อไป 

ยังไม่ทันได้ฟังชากะพูดจนจบประโยค  นางฟ้าในชุดขาวก็หงายหลังล้มตึงลงไปเสียก่อน  
  

บุรุษผู้ใกล้เคียงพระเข้าจึงได้แต่ยักไหล่น้อยๆแล้วก้าวเข้าไปหลังฉากแต่งตัว  ก่อนจะหันไปคว้าเสื้อเชิร์ตมาสวมพร้อมทั้งติดกระดุมเสื้ออย่างรวดเร็ว  ตามด้วยเนคไทสีดำมันวาวเส้นยาว   กางเกงสแลคและเสื้อสูทตัวนอกสีกรมท่าเข้าชุดกันราคาแพงระยับที่ตัดเย็บด้วยฝีมืออันประณีต



อ้าว!...ชากะ  ได้เวลาแล้วหรือนี่ น้ำเสียงอันทุ้มกังวานของสหายรักอย่างอารีเอส  มูดังขึ้นทันทีที่เจ้าตัวพาร่างอันยับเยินในสภาพใกล้เคียงกันผ่านประตูห้องเข้ามา

โกลเซนต์เวอร์โกหันมาพยักหน้าให้อย่างไวๆครั้งหนึ่ง   แล้วหันกลับไปมองกระจกพลางจัดเนคไทให้เข้าที่

จวนแล้วล่ะ....   แต่ว่าครั้งนี้.. ฟิคของข้าไม่เหมือนกับของเจ้าหรอกนะมู   อย่างน้อย...แม่เสือสาวของข้าก็ร้ายเอาเรื่องอยู่ล่ะ


มูยิ้มขันกับท่าทีอันหวาดหวั่นของสหาย 

แต่มันก็คงจะไม่เกินความสามารถของเจ้าหรอกกระมัง... 
อย่างไรก็ดีข้าเชื่อมือเจ้านะ  ว่าจะกำราบหล่อนได้อยู่หมัด


และข้าเองก็หวังให้เป็นเช่นนั้น เจ้าของเรือนร่างสูงสง่า  ที่บัดนี้อยู่ในชุดสูทสีกรมท่ายืดร่างขึ้นเต็มความสูงเพรียว พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอันมุ่งมั่นและเต็มไปด้วยความคาดหวัง...



~End~

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น