อา.. เจ็บเหลือเกิน
..นางกำลังจะตายแล้ว
..ต้องตายแน่ๆ..
เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังลอดออกมาจากบ้านไม้หลังน้อย ขณะที่ภายในตัวบ้านซึ่งมีอยู่เพียงห้องเดียวนั้นมีสตรีอยู่สามนางกำลังยุ่งกับการทำหน้าที่ของตน คนแรกคือหญิงสาววัยประมาณสามสิบต้นๆในชุดกิโมโนสีน้ำเงินเข้มที่เพิ่งจะยกอ่างน้ำร้อนเข้ามาพร้อมด้วยผ้าสะอาดอีกหลายผืน
ถัดมาคือท่านป้า..
หญิงชราข้างบ้านซึ่งปกติมีอาชีพหลักคือขายของกระจุกกระจิกอยู่กับบ้านของตนเอง เป็นต้นว่ารองเท้าสานหรือหมวกฟาง แต่กลับที่มีอาชีพเสริมที่ไม่ว่ายังไงก็ดูไม่เกี่ยวกับการค้าขายเลยสักนิด แต่ยังไงก็ตาม.. ทั้งสองคนซึ่งเป็นแม่ลูกกันต่างก็รู้หน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดีเหมือนเคยทำเรื่องเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว พวกเขามีสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง ..ราวกับการทำคลอดให้ใครสักคนนั้นง่ายดายพอๆกับการนั่งสานหมวก
“สาวน้อย.. นี่เป็นเรื่องที่ในชีวิตของลูกผู้หญิงทุกคนล้วนต้องเคยผ่านกันทั้งนั้นแหละ
เข้มแข็งเอาไว้ ข้ารู้เจ้าทำได้”
เสียงแหบพร่าด้วยความสูงวัยของแม่เฒ่าปลอบโยนอย่างนุ่มนวล ขณะที่ผู้เป็นบุตรสาวถือผ้าสะอาดคอยซับเหงื่อบนใบหน้าให้กับคนที่สามซึ่งกำลังจะทำหน้าที่เป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ ..คือนางเอง.. ทว่านางกลับตอบแทนความห่วงใยของสตรีทั้งสองด้วยเสียงครางต่ำๆอย่างเจ็บปวด จิสึรุ
..หรือฮาราดะ จิสึรุจิกปลายเล็บเข้ากับผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดที่ราวกับกำลังฉีกกระชากร่างกายนางออกเป็นชิ้นๆ
ใบหน้าซึ่งซีดขาวพอๆกับกิโมโนตัวในที่สวมอยู่บนร่างเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำตา ร่างงามพร้อมด้วยครรภ์กลมใหญ่บิดกายอย่างทุรนทุรายเพื่อต่อสู้กับความทุกข์ทรมานภายใต้การดูแลประคับประคองของสตรีสองแม่ลูกซึ่งช่วยกันจับแขนขานางให้อยู่กับที่ทาง
นางกำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส..
เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องกันมาสิบหกชั่วโมงแล้ว
และเพราะเหตุนั้นสมองของจิสึรุจึงไม่แจ่มใสพอที่จะตั้งสติเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังทำอยู่ได้ดีนัก เวลานี้นางแทบจะไม่รับรู้ความเป็นไปรอบๆตัวแล้วนอกจากเรื่องที่ว่า..
เจ้าตัวน้อยที่นางอุ้มท้องอยู่ถึงเก้าเดือนเศษกำลังจะออกมาดูโลกอยู่ในไม่ช้านี้แล้ว และในฐานะแม่.. จิสึรุจำเป็นต้องอดทนกับความเจ็บปวดซึ่งไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไรนี้ไปเรื่อยๆ หญิงสาวหอบหายใจแรงจนสะท้านไปทั้งร่างเมื่ออาการเจ็บซึ่งเป็นเหมือนสัญญาณเตือนเริ่มขึ้นอีกครั้ง นัยน์ตาซึ่งชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดน้ำช้อนขึ้นมองใบหน้าเหี่ยวย่น ริมฝีปากเม้มแน่น ความอดทนใกล้จะขาดผึงเต็มที
“เอ้า!
ลองอีกครั้ง ทำตามที่ข้าบอกนะ
หนึ่ง.. สอง.. เบ่ง!”
“อ๊า!!...”
และเสียงกรีดร้องที่ดังออกมาถึงระเบียงทางเดินด้านนอกก็กำลังจะทำให้ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งหมดความอดทนเช่นกัน จอกสุราในมือถูกขว้างลงกับพื้นจนแตกกระจาย
ขณะที่สหายร่วมดื่มตอนกลางวันแสกๆอีกสองคนต้องรีบยื้อยุดฉุดกระชากเจ้าตัวให้อยู่กับที่
“จิสึรุ! ปล่อย.. ปล่อยข้า!!”
“ใจเย็นๆน่า
นางยังไม่เป็นไรหรอก”
นาคาคุระ
ชิมปาจิต้องใช้ความอดทนและเรี่ยวแรงมากกว่าปกติในการบังคับเพื่อนรักให้อยู่เป็นที่เป็นทาง หัวหน้าหน่วยที่สองแห่งกลุ่มชินเซ็นโผเข้าล็อคแขนอีกฝ่ายจากด้านหลังแล้วลากตัวกลับมาที่ระเบียงบ้าน ขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งซึ่งก็หน้าซีดพอๆกันกระโจนเข้าร่วมวงตะลุมบอนครั้งนี้อย่างไม่คิดอะไรทั้งสิ้น
โทโด เฮย์สุเกะถึงกับได้แผล
..หนุ่มน้อยเลียริมฝีปากที่ห้อเลือดจากการโดนศอกกระแทกเข้าให้อย่างจัง ตอนที่โถมเข้ากอดเอวคนสติแตกที่กำลังฮึดฮัดสะบัดทุกคนให้พ้นตัวพร้อมด้วยเสียงคำรามลั่น
“ปล่อย! เมียข้ากำลังจะตาย..”
“เจ้าโง่! จิสึรุไม่เป็นไรหรอกน่า
แต่ถ้าเจ้ายังไม่เลิกแหกปากร้องโวยวายแบบนี้นางจะเป็นห่วงนะ” อีกครั้งที่ชิมปาจิต้องตะโกนกรอกหูเพื่อนผู้ซึ่งไม่อยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะฟังอะไรทั้งสิ้น
ฮาราดะ ซาโนสุเกะไม่อาจสงบใจได้อีกแล้ว เมื่อสิบหกชั่วโมงเต็มที่เขาต้องทนฟังเสียงภรรยากรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอยู่ในบ้าน สิบหกชั่วโมงเต็มที่ต้องอดทนสงบจิตใจไม่ให้ลุกขึ้นวิ่งพรวดพราดเข้าไปในนั้นแล้วทำ.. ชายหนุ่มถอนหายใจ ..เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเข้าไปได้แล้วจะทำอะไรต่อ บางทีความคิดที่ว่าเขาน่าจะปาดคอตนเองทิ้งเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราวนั้นก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน และเจ้าพวกนี้ก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาต้องทรมานใจเพียงใด เมื่อพบว่านอกจากจะทำให้จิสึรุต้องเป็นแบบนี้แล้วตนเองก็ไม่อาจทำอะไรเพื่อนางได้เลย
และเสียงร่ำไห้ราวกับจะขาดใจของนางก็กำลังจะฆ่าเขาทั้งเป็น
“ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า”
เฮย์สุเกะหันไปสบตากับสหายอีกคนอย่างเซ็งชีวิต เมื่อพบว่าฤทธิ์สุรากำลังทำให้ซาโนสุเกะเริ่มคร่ำครวญอีกแล้ว พวกตนถูกตามตัวมาที่นี่เพื่ออยู่เป็นเพื่อนดื่มเหล้ามาตั้งแต่สองวันก่อนด้วยหวังว่ามันอาจทำให้คนที่กำลังจะได้ลูกคนแรกสงบจิตใจลงได้บ้าง ทว่าเห็นได้ชัดว่าแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย และถ้ากลับไปแล้วไม่โดนท่านรองฮิจิคาตะฆ่าตายหรือถูกสั่งให้คว้างท้องล่ะก็.. ทั้งคู่ก็อาจตายเพราะดื่มเหล้ามากเกินไป.. หรือไม่ก็ขำจนขาดใจตาย แต่ที่จริงก็ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก.. ใช่ว่าซาโนสุเกะจะเป็นคนช่างคร่ำครวญนี่นะ นิสัยเวลาปกติของเจ้าหมอนี่เป็นยังไงก็รู้ๆกันอยู่ มีเพียงช่วงเวลานี้เท่านั้นเองที่ดูราวกับหัวหน้าหน่วยที่สิบแห่งกลุ่มชินเซ็นจะมีอาการเหมือนถูกผีผู้หญิงเจ้าน้ำตาเข้าสิงแล้วก็ได้แต่โทษตัวเองไปเสียหมดทุกเรื่อง
“ไม่ควรเลย... ข้าไม่ควร”
ฮาราดะ ซาโนสุเกะถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงหวีดร้องของจิสึรุดังออกมาจากในบ้านอีก ชายหนุ่มคว้าขวดเหล้าไปจากมือเพื่อนแล้วกระดกเข้าปากแบบรวดเดียวหมด ก่อนจะซบใบหน้าเข้ากับฝ่ามือตนเองอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป
“จิสึรุ.. ข้าขอโทษ
ข้าจะไม่มีวันแตะต้องเจ้าอีกเลย
หากรู้ว่าเจ้าจะต้องเป็นแบบนี้ข้าจะไม่..”
“อ๊า... เจ็บ!!”
เสียงนั้นทำให้ขวดเหล้าหลุดจากมือชายหนุ่มก่อนร่วงลงพื้นแตกกระจาย ชิมปาจิกับเฮย์สุเกะได้แต่มองเศษขวดที่แตกไม่มีชิ้นดีด้วยความเสียดาย
พร้อมๆกับลงความเห็นว่าคงทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว เมื่อซาโนสุเกะขยับกายลงจากระเบียงที่ตั้งวงกันอยู่แล้วเดินหายเข้าไปในทุ่งดอกไม้ที่อยู่เลยจากตัวบ้านออกไปด้วยอาการเหมือนคนหัวใจสลาย..
ทั้งๆที่ภรรยาสุดที่รักก็ยังไม่ตายเสียหน่อย
และเชื่อได้เลยว่าท่าทางเช่นนั้นของเขาจะกลายเป็นหัวข้อให้เพื่อนอีกสองคนที่เหลือเก็บไปเล่าเพื่อความสนุกสนานได้อีกนานแสนนาน ดูท่าตำนานอันแกร่งกล้าของบุรุษอย่างของฮาราดะ ซาโนสุเกะคงจะมีจุดด่างพร้อยไปตลอดกาลเสียแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ.. เพื่อนทั้งคน
จะไม่ให้ห่วงก็ดูกระไรอยู่
“ปล่อยไปอย่างนี้จะดีหรือชิมปาซัง”
ชิมปาจิได้แต่ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมา
บอกตามตรงว่าเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแบบไหนถึงจะดี เพราะนี่เป็นครั้งแรกสำหรับเขาเช่นกันที่ได้รู้ว่าเสียงหวีดร้องของสตรีที่กำลังจะคลอดลูกไม่เพียงแต่จะทำให้คนที่เป็นสามีแทบเป็นบ้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพวกตนด้วย
..แบบนี้ให้ติดเกาะ
หลงป่า หรือติดอยู่กลางสนามรบที่ไหนสักแห่งยังจะดีเสียกว่าเลย
“ช่างเถอะ..
เดี๋ยวก็คงกลับมาเองนั่นล่ะ”
สามชั่วโมงผ่านไป.. ท่ามกลางบรรยากาศการรอคอยอย่างเคร่งเครียดของบุรุษทั้งสองที่ยังคงร่ำสุรากันต่อไปโดยปราศจากบทสนทนา
ขณะที่เสียงจากภายในบ้านก็ยังคงดังออกมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ ชิมปาจิยกมือขึ้นนวดคลึงขมับตนเองพลางตั้งสติ เนื่องจากซาโนสุเกะซึ่งควรจะอยู่ที่นี่เพื่อเป็นหลักก็ได้สติแตกจนกู่ไม่กลับไปคนหนึ่งแล้ว และไม่ต้องหวังพึ่งอีกคนที่เหลือ ..เขาเห็นแล้วว่าเจ้าเฮย์สุเกะที่นั่งทำตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้มาตั้งแต่หลายชั่วโมงก่อนคงไม่มีปัญญาทำอะไรได้หากว่าเกิดเหตุอันไม่คาดคิดขึ้น ดังนั้นก็คงจะเหลือเขาเพียงคนเดียวในเวลานี้
แต่แล้วการรอคอยอย่างอดทนก็จบสิ้นลงในที่สุด.. เสียงร้องไห้ของทารกที่แว่วออกมาจากข้างในทำให้ชายหนุ่มทั้งสองที่นั่งอยู่ที่ระเบียงนอกบ้านมีสีหน้าแช่มชื่นทันตาเห็น ต่างคนต่างก็ผุดลุกขึ้นยืนพร้อมๆกัน
“ไปตามซาโนะมาเร็ว!”
โทโด เฮย์สุเกะกระโจนลงจากระเบียงก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบเสียอีก
หนุ่มน้อยยังไปได้ไม่ไกลนักก็เห็นซาโนสุเกะเดินสวนกลับมาเสียก่อน
“ซาโนะซัง!!”
สีหน้าแตกตื่นของเด็กหนุ่มทำให้ซาโนสุเกะหายเมาเป็นปลิดทิ้ง และไม่ต้องรอให้ใครมาบอกก็รู้ว่าการรอคอยที่แสนทุกข์ทรมานของตนสิ้นสุดลงแล้ว ..ลูกของเขากับจิสึรุ.. ชายหนุ่มรู้เพียงว่าหัวใจตนเองเต้นกระหน่ำราวกับรัวกลองขณะที่วิ่งกลับไปที่บ้าน เขากำลังจะกระชากบานประตูเปิดออกขณะที่หมอตำแยเดินสวนออกมาพร้อมด้วยถังไม้และผ้าสกปรก
“เข้าไปดูลูกชายของเจ้าได้แล้ว
แต่อย่าเพิ่งส่งเสียงดังอีกล่ะ..”
..ลูกชาย...
นาทีนั้นฮาราดะ
ซาโนสุเกะได้ยินแต่เพียงแค่คำว่าลูกชายเท่านั้น
ชายหนุ่มมิได้สนใจถ้อยคำที่ราวกับตำหนิกลายๆเรื่องที่ตนส่งเสียงเอะอะเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หรือแม้แต่จะสังเกตเห็นแววติเตียนในสายตาของสตรีสูงวัยเลยแม้แต่น้อย
เขาก้าวเข้าไปในห้องด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก.. ราวกับตัวเบาโหวง ราวกับไม่ได้กำลังยืนอยู่บนขาของตนเอง
ขณะที่สายตาจับจ้องเพียงร่างแบบบางที่นอนอยู่บนที่นอนพร้อมด้วยห่อผ้าเล็กๆในอ้อมแขน
“จิ.. จิสึรุ”
ถึงแม้จะอ่อนเพลียสักเพียงใดทว่านางก็ยังคงยิ้มให้เขา และเป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ซึ้งถึงความยากลำบากของการเป็นสตรี ซาโนสุเกะแตะหลังมือเข้ากับเรียวแก้มคนรักอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น เมื่อภาพภรรยาคนงามที่กำลังนอนตะแคงขณะที่โอบอุ้มลูกน้อยให้ดื่มนมจากอกนั้นทำให้เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก ชายหนุ่มสูดหายใจแรงพร้อมกับกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่ความชื้นที่ขอบตาก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากนาง
“เป็นเด็กผู้ชายค่ะ”
“ข้ารู้.. ขอบใจมากนะ” มือใหญ่ที่สั่นระริกขยับเข้าไปใกล้ด้วยหวังจะแตะต้องเรือนผมสีเข้มของลูก ทว่าทารกน้อยทั้งตัวเล็กและบอบบางเหลือเกิน และเพราะเหตุนั้นซาโนสุเกะจึงชักมือออกกลางครัน
มิใช่ว่าไม่อยากแตะต้อง
แต่..
“ข้า.. กะแรงตัวเองไม่ถูก กลัวจะทำให้เขาเจ็บ”
ชายหนุ่มพูดอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงเมื่อสังเกตเห็นแววสงสัยในดวงตาของจิสึรุ หญิงสาวประคองลูกออกจากอกเมื่อกินอิ่มแล้วก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองเขา และภาพทรวงอกงามสล้างพร้อมด้วยยอดถันสีชมพูแก่ที่ปรากฏต่อสายตาก็ส่งผลให้เขาปากคอแห้งผากขึ้นมาทันที ซาโนสุเกะสะบัดศีรษะเพื่อขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านในหัว ขณะที่จิสึรุมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“แต่ถึงอย่างนั้น.. ซาโนะซังจะไม่อุ้มแกสักนิดเลยหรือคะ
ถึงจะไม่คุ้นเคย
แต่ข้าก็เชื่อว่าเราทุกคนย่อมต้องมีครั้งแรกด้วยกันทั้งนั้น ..จริงมั้ยคะ”
คำพูดเรียบๆของภรรยาทำให้เขาจนด้วยเหตุผล ซาโนสุเกะยอมให้ผู้ช่วยหมอตำแยวางร่างเล็กกระจ้อยร่อยลงในอ้อมแขนตนเองในที่สุด พลางตั้งใจฟังคำแนะนำในการอุ้มเด็กทารกแบบถูกวิธีจากผู้ที่มีประสบการณ์ด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะพบว่าตนเองตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้เข้าให้แล้วโดยไม่รู้ตัว.. ทั้งๆที่อีกฝ่ายยังไม่ทันลืมตาเลยแท้ๆ
“คัทสึมิ..”
“อะไรนะคะ” จิสึรุถามขึ้นด้วยไม่แน่ใจว่าสามีกำลังหมายถึงสิ่งใด
“ชื่อของเจ้าหนูนี่..
ฮาราดะ คัทสึมิ”
ครั้งนี้ซาโนสุเกะเงยหน้าขึ้นบอกนางอย่างชัดถ้อยชัดคำพร้อมด้วยความภาคภูมิใจที่ปรากฏอยู่ในแววตา และสีหน้าท่าทางที่ตื่นเต้นราวกับเด็กๆกับการมีเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนนั้นก็อยู่ในสายตาของจิสึรุโดยตลอด นางยิ้ม..
เมื่อภาพของพ่อลูกคู่นี้ทำให้นางถึงกับน้ำตาคลอ
ใครจะคาดคิดว่าบุรุษที่จับแต่อาวุธมาเกือบตลอดชีวิตเช่นเขาจะสามารถโอบอุ้มทารกได้อย่างอ่อนโยนถึงเพียงนี้ ทว่าปาฏิหาริย์นี้ก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ.. ฮาราดะ
ซาโนสุเกะดูจะปรับตัวได้ในชั่วพริบตา
เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวหลงกังวลไปเกินกว่าเหตุจริงๆ
เพราะคงไม่มีใครอีกแล้วที่จะปกป้องคุ้มครองเด็กคนนี้ได้ดีไปกว่าเขา
จิสึรุปิดเปลือกตาลงด้วยความอ่อนเพลีย
นางตั้งใจว่าจะนอนพักสักครู่หนึ่งขณะที่หูยังคงแว่วเสียงแขกทั้งสอง.. นาคาคุระซังและเฮย์สุเกะคุงกำลังแสดงความยินดีและหยอกล้อคนที่เพิ่งได้เป็นคุณพ่อหมาดๆอยู่ที่หน้าบ้าน
“เห็นไหมล่ะ..
ข้าบอกเจ้าแล้วว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย”
ชิมปาจิยื่นหน้าเข้ามาใกล้พลางก้มลงมองทารกในอ้อมแขนเพื่อน
“สรุปว่าตอนนี้ข้ากลายเป็นลุงไปเรียบร้อยแล้วสินะ” เขาเกาศีรษะอย่างเซ็งๆขณะที่หนุ่มน้อยอีกคนชะโงกตัวเข้ามาดูสมาชิกใหม่ด้วยคน
“ข้าว่าเจ้าหนูนี่หน้าคล้ายจิสึรุนะ
ดูคิ้วนี่สิ” เฮย์สุเกะออกความเห็นพร้อมกับชี้ไปที่ใบหน้ากลมเล็ก จากนั้นก็ยิ้มแยกเขี้ยว
“การที่ไม่เหมือนซาโนะซังก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเขาแล้วล่ะ”
“เฮ้.. ซาโนะ..
แล้วจริงรึเปล่าที่เจ้าจะไม่มีวันแตะต้องเมียตัวเองอีกแล้วน่ะ”
ฮาราดะ ซาโนสุเกะถึงกับสะอึก หัวหน้าหน่วยสิบรีบหันไปปิดประตูบ้านก่อนจะทำหน้าเครียด ช่างน่าขันเหลือเกินที่เขาเกิดจะกลัวภรรยามาได้ยินเข้าในเวลานี้
ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่ตนเองนั่นล่ะเป็นฝ่ายส่งเสียงดังเสียจนแทบจะได้ยินไปทั้งหมู่บ้าน
“ก็.. ตอนนั้นข้าเป็นห่วงนางนี่หว่า
แต่พอเห็นว่าจิสึรุปลอดภัยข้าก็โล่งใจ ส่วนเรื่องอื่นๆก็ค่อยดูกันอีกทีนั่นล่ะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วพลางทำเป็นไม่เห็นรอยยิ้มล้อเลียนของสหาย
ในเมื่อซาโนสุเกะรู้ดีอยู่แก่ใจ.. ว่าการเก็บไม้เก็บมือให้ห่างจากจิสึรุน่ะเป็นเรื่องที่ยากพอๆกับการทำให้ชิมปาจิกลายเป็นคนสุขุมเยือกเย็นเลยเชียว
“เฮ้.. ไอ้เสือ.. ทำหน้าอย่างนี้อย่าบอกนะว่าเจ้าตั้งใจจะมีลูกอีกเป็นฝูงน่ะ
จะยังไงก็น่าจะสงสารจิสึรุบ้าง”
“ยังหรอก.. ข้าตั้งใจจริงๆนะว่าจะเลี้ยงลูกคนนี้ให้ดีเสียก่อน
คิดว่าข้ากับจิสึรุคงจะใส่ใจกับคุณภาพมากกว่าปริมาณน่ะ”
ใช่..
ในเวลานี้เขาคิดจริงๆว่าขอเพียงมีนางอยู่เคียงข้างพร้อมลูกน้อย..
ซาโนสุเกะก็ไม่ต้องการอะไรอีก
เพียงเท่านี้ชีวิตเขาก็คงจะมีความสุขอย่างแท้จริงแล้ว
ทว่า...
……………………………….
สี่ปีผ่านไป...
เขาชักจะไม่มีความสุขเสียแล้ว..
อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก
จิสึรุกับคัทสึมิก็ยังคงอยู่เคียงข้างเขาเช่นเดียวกับเมื่อก่อน และปัญหาก็เริ่มจากตรงนั้นแหละ เมื่อภรรยาคนงามมัวแต่ขลุกอยู่กับลูกชายเพียงคนเดียวเสียจนไม่มีเวลาใส่ใจเขาเหมือนเคย ซาโนสุเกะยอมรับว่านางเป็นแม่ซึ่งเพียบพร้อมไม่มีที่ติที่เลี้ยงดูพยานรักของทั้งคู่ให้เติบโตแข็งแรงและเฉลียวฉลาดปานนี้ แต่อย่างน้อยนางก็น่าจะผละมาดูแลเขาบ้าง ..อันที่จริงจิสึรุก็ไม่ได้ทอดทิ้งเขาเสียทีเดียวหรอก นางเพียงแค่สนใจลูกมากกว่าเท่านั้นเอง แล้วจะไม่ให้เขาน้อยใจงั้นหรือ
แน่นอนอยู่แล้วว่าซาโนสุเกะย่อมรักลูกเหนือสิ่งอื่นใด.. แต่ถึงอย่างไรก็ยังอยากจะมีเวลาส่วนตัวกับภรรยาด้วยเหมือนกัน
ชายหนุ่มเอนหลังพิงโคนต้นไม้ขณะที่เฝ้ามองสองแม่ลูกวิ่งไล่จับกันอยู่กลางทุ่งดอกไม้ เรือนร่างแบบบางในชุดกิโมโนสีเขียวสดที่เริงร่าอยู่ภายใต้แสงตะวันนั้นงามจับตาเสียจนเขานึกอยากจะมีนางอยู่ใกล้ๆ อยากจะรู้สึกถึงสัมผัสจากมือนุ่มยามที่ลูบไล้อยู่บนแผ่นอกเขา อยากจะรวบตัวนางเข้ามากอดแนบชิดแล้วสูดกลิ่นกายหอมละมุน และนาทีนั้นเองที่แผนการสารพันผุดขึ้นในหัว
“เฮ้..
เรามาเล่นซ่อนหากันดีกว่า
ใครอยากเล่นมาทางนี้เร็ว!”
ยังไม่ทันขาดคำร่างกลมป้อมก็กระโจนเข้าสู่อ้อมแขนที่อ้ากว้างของเขา ซาโนสุเกะหัวเราะเสียงดังขณะที่ชูร่างเด็กน้อยขึ้นเหนือศีรษะ
นัยน์ตาสีน้ำตาลทองเปล่งประกายแวววาวด้วยความพึงพอใจกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของลูก ขณะที่จิสึรุเดินเข้ามาใกล้
“ท่านพ่อขอรับ..
ไหนว่าจะเล่นซ่อนหากับข้า”
“ต้องเล่นสิเจ้า
แต่ว่า..” เขาหอมแก้มเจ้าตัวยุ่งฟอดใหญ่ก่อนจะวางลงกับพื้น
“ในตาแรกเจ้าจะต้องเป็นฝ่ายปิดตาก่อน ส่วนพ่อกับแม่จะไปหาที่ซ่อนกัน
เมื่อนับหนึ่งถึงร้อยแล้วจึงจะเปิดตาได้นะ ห้ามเล่นโกง
ตกลงมั้ย”
“ขอรับ! ท่านพ่อเองก็ห้ามโกงหนีไปซ่อนในที่ๆข้าหาไม่เจอนะขอรับ” ฮาราดะ คัทสึมิปิดตาแล้วหมุนตัวเข้าหาโคนต้นไม้ทันที
และเมื่อเสียงเล็กๆเริ่มนับหนึ่งซาโนสุเกะก็ดึงแขนภรรยาให้ออกวิ่ง
“มาไกลขนาดนี้เดี๋ยวลูกก็หาไม่เจอกันพอดี คัทสึมิจะใจเสียเอานะคะ”
จิสึรุยังพูดไม่ทันขาดคำก็มีอันถูกฉุดให้ล้มลงกลางทุ่งดอกไม้เสียก่อน หญิงสาวหวีดร้องเบาๆเมื่อล้มทับลงไปบนร่างของสามีเต็มแรงขณะที่วงแขนแกร่งโอบกระชับรอบร่าง
เขากักตัวนางไว้ในอ้อมอกก่อนจะขโมยหอมแก้มนางพร้อมด้วยเสียงหัวเราะแผ่วๆอย่างได้ใจ
“ซาโนะซัง!”
ซาโนสุเกะไม่สนใจน้ำเสียงตัดพ้อต่อว่าของภรรยา ชายหนุ่มโอบเอวบางไว้แน่นส่วนมืออีกข้างรั้งศีรษะนางให้ก้มลงขณะที่ตนเองยกศีรษะขึ้นแล้วแนบริมฝีปากเข้าหา จากนั้นก็พลิกกายลงให้จิสึรุเป็นฝ่ายอยู่ด้านล่างแล้วทำให้นางมึนงงไปกับรสจูบที่เร่าร้อนรุนแรงจนตั้งตัวไม่ติด
“คนบ้า!
..ทำอะไรอย่างนี้นะ”
“ใช่สิ.. เจ้าทำให้ข้าหลงรักเสียจนแทบบ้าแล้ว
ดังนั้นได้เวลารับผิดชอบแล้วนะ
ข้ารู้สึกว่าคัทสึมิคงจะเบื่อที่ต้องเล่นคนเดียวอยู่เรื่อย เจ้าว่ามั้ย”
“แต่ข้าอยู่กับลูกตลอดนะ”
“ก็นั่นแหละที่เจ้าทำไม่ถูกน่ะ”
ทว่าจิสึรุไม่มีโอกาสได้ทำความเข้าใจอะไรมากนักเมื่อวินาทีต่อมานางก็ถูกจู่โจมอีกครั้ง
ซาโนสุเกะไม่ปล่อยให้ภรรยาสาวมีเวลาพักหายใจเลย ด้วยตั้งใจอย่างเต็มที่ว่าจะจัดการสำเร็จโทษนางฐานที่ทอดทิ้งเขา ทว่ายังไม่ทันไรสองหนุ่มสาวก็มีอันต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆก็มีน้ำหนักโถมทับลงมาบนร่าง
คัทสึมิกระโจนเข้าใส่แผ่นหลังบิดาเต็มแรงทันทีที่เจอตัว เล่นเอาจุกเสียจนแทบหายใจไม่ออก
และซาโนสุเกะก็จำไม่ได้จริงๆว่าเคยสอนลูกให้หัดทำตัวเป็นก้างขวางคอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“เจอแล้ว!” เด็กน้อยร้องตะโกนอย่างดีอกดีใจโดยหารู้ไม่ว่าอาจชะตาขาดได้ง่ายๆ ส่วนคนเป็นพ่อก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างสุดแสนเซ็งขณะที่พลิกกายลงจากร่างภรรยา
“นับครบร้อยแล้วหรือ..
ทำไมไวจริง”
“ครบแล้วขอรับ
..แต่ท่านพ่อโกงข้านี่นา”
ซาโนสุเกะยกมือขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลแดงของลูกชายก่อนจะถาม
“พ่อโกงเจ้าที่ไหนกัน”
“ก็ท่านพ่อให้ท่านแม่มาหลบอยู่ใต้ร่าง แบบนี้ก็โกงสิขอรับ”
คำพูดและแววตาอันแสนไร้เดียงสาของลูกทำให้จิสึรุเขินจนใบหน้าแดงก่ำ นางเม้มริมฝีปากแน่นพลางทุบต้นแขนสามีเต็มแรง ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนี พลางตั้งใจว่าจะไม่พูดจากับคนหน้าไม่อายไปตลอดทั้งวันที่เหลืออยู่เลยเชียว
ดีไม่ดีอาจจะรวมถึงคืนนี้ด้วย
ทว่าคนหน้าไม่อายที่ว่ากลับมิได้รู้สึกเดือดร้อนใจ.. ซาโนสุเกะอุ้มลูกไว้ในวงแขนพลางปล่อยให้ภรรยาที่กำลังงอนเดินล่วงหน้าไปก่อนแล้วกระซิบกระซาบแบบพอให้ได้ยินแค่สองคน
“คัทสึมิ..
อยากจะมีเพื่อนเล่นซ่อนหาเพิ่มอีกสักคนรึเปล่าลูก”
เขายิ้มเมื่ออีกฝ่ายผงกศีรษะอย่างไม่แน่ใจนัก คัทสึมิทำหน้างง.. ด้วยไม่รู้ว่าบิดาหมายถึงอะไร และกำลังจะหาเพื่อนจากไหนมาเล่นกับตน ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยปากถามชายหนุ่มก็พูดขึ้นเสียก่อน
“ถ้าเช่นนั้นให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดระหว่างลูกผู้ชายนะ อย่าให้แม่รู้เด็ดขาด ตกลงมั้ย”
“แล้วพ่อจะลองถามแม่ดู..
แต่ว่าคงต้องใช้เวลานานนิดหน่อยถึงจะรู้เรื่อง
ระหว่างที่พ่อกำลังถามแม่ เจ้าพอจะเล่นอยู่แถวๆนี้โดยไม่ต้องให้พ่อแม่เป็นห่วงสักพักได้หรือไม่”
~End~
next: Memory of Saito Hajime
บอกกล่าว: นี่เป็นซีรีย์เล็กๆที่เกิดจากรีเควสของคนอ่านว่าอยากจะเห็นหนุ่มๆชินเซ็นจาก One side of memories ตอนที่มีลูก ซึ่งจริงๆเเล้วคนที่ได้รับการรีเควสคือซาโนะ กับฮาจิเมะเท่านั้น เเต่เอาเป็นว่าถ้ามูนดรอปไม่ขี้เกียจจนเกินไปก็อาจจะมีของคนที่เหลือตามมา ให้อ่านกันด้วยนะคะ^ ^
อร้าาาาาาาา
ตอบลบปลื้มอ่า ปลิ้ม
อ่านไป ขำไป ขำไปก็ขำมา หัวเราะไม่หยุด หุบยิ้มไม่ได้เลยอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ ฮาอ่ะ
ซาโนะ น่าร้ากกกกม้าก คุณมูนเล่นมาแต่ละประเด็นนี่กระแทกจิตใจอย่างแรก ฮ่าๆๆๆๆๆ
โถๆๆ นั่งฟังตั้งนาน สมควรจะคร่ำครวญล่ะนะนั่น โอ๊ยฮาอ่ะค่ะ ฮาเพราะเค้าน่ารักมากเลยนี่หล่ะ ชินปาจิกะเฮยสุเกะจะขำจนขาดใจเหรอค่ะ คนอ่านนี่หล่ะค่ะที่ขำจนขาดใจก่อน โอ๊ย ฮาจนน้ำตาใหลเลยอ่า
ถ้าเทียบกับเวลาปกติที่ซาโนะนั่นหลีไปหมด นี่หล่ะนาเวลามีลูกนี่คนละเรื่อง คิดถูกที่ขอรีเควสไปฮ่าๆๆๆ
ยังจะมีหึงลูกด้วย น่านเค้าชอบมากเลยประเด็นนี้ อันนี้ถูกใจมากค่ะ ชอบอ่าชอบ และก็ยังไม่ทิ้งลายซาโนะที่หลุดไปหมดช่วงต้นเรื่อง อารมณ์ว่ากู้ชื่อกลับคืนสินะฮ่าๆๆๆ
โอ้ยยย ฮาอ่ะค่ะ ไม่ไหวแล้ว
แหมถ้าเอาคัทสึมิไปวิ่งเล่นในฐานกลุ่มชินเซ็น ตาย หนุ่มๆที่เหลือเลี้ยงเด็ก แค่คิดก็ขำแล้วววว
เค้าจารอไซโตนะค้า ซาโนะสุเกะนี่พอจะคิดได้ว่าเป็นอาการตอบโต้ทั่วไป(ที่น่ารักฮ่าๆๆๆ) แต่ไซโตนี่เดาไม่ออกเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆๆ
ขอบคุณที่เขียนให้คนอ่านชุ่มชื่นหัวใจขนาดนี้ค่ะ อร้ายยยย เพ้อไปแล้วฮ่าๆๆๆ
ส่วนเรื่องติชม หาที่ที่แปลกไม่เจอเลยค่ะ เนื้อเรื่องกำลังลื่นดีมากเลยล่ะค่า
#1 By Yushi_Res on 2011-11-14 19:06
---------------------------------------------
รู้สึกจะเม้นยาวขึ้นทุกทีนะเนี่ยฮ่าๆๆๆ
#2 By Yushi_Res on 2011-11-14 19:09
-------------------------------------------
ยาวก็ไม่เป็นไรค่ะ ที่จริงมูนชอบอ่านคอมเม้นยาวๆนะ เพราะรู้สึกว่ามันมีอะไรหลายๆอย่างให้เก็บมาใส่ใจมากกว่าเม้นสั้นๆ2บรรทัดจบ
ตอนเเรกเเอบกลัวเล็กๆว่าโทนเรื่องเเบบนี้จะฮารึเปล่า เเล้วมันจะดูแปลกเเยกไปจากซีรีย์ที่เเล้วมั้ย เเต่พอได้รู้ว่าคนรีเควสชอบใจมูนก็ดีใจเเล้วค่ะ
ซาโนสุเกะเป็นคนที่ค่อนข้างไวไฟในความคิดมูน เเถมยังมักจะเเสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาด้วย ดังนั้นภาพอีตานี่คร่ำครวญด้วยความเป็นห่วงจิสึรุเลยลอยมาเขเ้าหัวพอดีเลย 555 เเล้วผลก็เลยออกมาเป็นว่าเค้ายอมไม่เเตะต้องจิสึรุอีกเลยก็ได้ถ้ามันทำให้ สุดที่รักต้องเป็นเเบบนี้
ปล.. จากรีเควสของคุณYushi_Res ทำให้มูนนึกอยากจะลองเขียนซีนนี้ของอีก3หนุ่มที่เหลือด้วย ว่าเเต่มีใครอยากจะอ่านบ้างมั้ยคะ
ปล2.. ถ้าหากมีคนอยากอ่าน เเนวฮาเล็กๆอย่างนี้จะดีมั้ย หรืออยากได้ซีเรียสเต็มร้อยดี ขอคำเเนะนำหน่อยจ้า
#3 By ~Moondrop~ on 2011-11-14 19:38
-------------------------------------------
คนรีเควสยกมือด้วยได้มั้ย555
ชิรานุอีนี่ท่าทางน่าสนุกนะค่ะ 55
คาซามะก็น่าลุ้น ท่านรองยิ่งไปกันใหญ่
ส่วนแนวเรื่อง ตอบมะได้อ่ะค่ะ เอาเป็นว่า เอาแบบอันนี้อ่ะน่ารักดี55ชอบๆ
#4 By Yushi_Res on 2011-11-15 22:12
--------------------------------------------
โอเคค่ะ^ ^
ถ้ามีคนอยากอ่านก็จะเขียนมาให้อ่านกันจ้า
ตอนนี้กำลังคิดว่าของไซโตอาจจะหน้าตาคล้ายๆกับเรื่องเเรกนี่เเหละ คือคาบเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ได้ลูกคนเเรก ยังไงก็รอชมนะคะ
#5 By ~Moondrop~ on 2011-11-16 14:31
-------------------------------------------
จารออย่างใจจดใจจ่อเลยล่ะค่า
#6 By Yushi_Res on 2011-11-16 19:28
จารออย่างใจจดใจจ่อเลยล่ะค่า
ตอบลบ#7 By Yushi_Res on 2011-11-16 19:31
-------------------------------------------
น่ารักอ๊ํะ!!!!!!
ต้องยอมรับว่า เป็นเนื้อเรื่องที่ปะติดปะต่อกันได้ลงตัวจริงๆค่ะ รู้สึกชื่นชมมากนะจุดนี้
ส่วนภาษาในตอนที่บรรยายการคลอดลูก TT{}TT
เอาซะคนอ่านอย่างข้าพเจ้ารู้สึกกลัวจริงๆเหมือนกัน
เลยไม่เเปลกใจที่ซาโนะซังจะเป็นเเบบนี้
เเต่ก็ได้ชินปาจิ กับ เฮสึเกะมาเป็นตัวชงบรรกาศเลยดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่(นี้กลัวอะไร??) ชอบตรงที่บอกว่าจะไม่เเตะต้องภรรยอีก พออ่านเเล้วรู้สึกเเบบว่า เเหม~ กล้าพูดเนอะ พูดเเบบนี้เผลอๆลูกเป็นโหลเเน่~
พออ่านมาจนจบก็อยากจะหัวเราะลั่นๆอีกซักที อยากจะเย้ยซาโนะซังกับคำพูดตัวเองเหลือเกิน ว่า ไหนละจะไม่เเตะต้องหึงได้กระทั้งลูก เเถมยังเจ้าคิดซะอีก เเผนร้ายนะ!!
ปะติดปะต่อเรื่องในภาคนี้กับภาคที่เเ้ล้วได้สวยมากจริงๆค่ะ นิสัยที่หื่น เอ๊ย ตะล่อมตะหลอกยังอยู่ชัดเจนมาก จนดูเหมือนว่าจะเป็นภาพของซาโนะที่ข้าพเจ้าคงจะติดตาไปอีกนาน
ปล.อ่านเม้นตัวเองทวนกลับไป ทำไมไม่พูดถึงความอบอุ่นของซาโนะซังเลยล่ะ =[]=
ปลล.ขออภัยที่ไม่ได้ ล็อกอินค่ะ
#8 By Hisai~na chan (58.11.46.128) on 2011-11-30 03:53
-------------------------------------------
ไม่ได้ล็อคอินก็ไ่ม่เป็นไรค่ะ^ ^
นั่นสิน้า ที่จริงซาโนะก็ไม่ได้หื่นอย่างเดียวสักหน่อย ยังมีฉากที่เขาอุ้มลูก+ความตื่นตันใจที่เห็นหน้าลูกเป็นครั้งเเรกด้วย เเต่ไม่มีใครพูดถึงตรงนั้นเลย ทุกคนกลับพูดเป็นเสียนงเดียวกันว่าหื่น T T สงสัยมูนจะต้องเเก้ไขให้เขามีฉากที่อ่อนโยนมากกว่านี้(ถ้ามีโอกาสเขียน เรื่องใหม่ที่มีซาโนะเป็นตัวเอกอีกนะ)
เรื่องที่อีตานี่ร้องตะัโกนปาวๆว่าจะไม่เเตะต้องจิสึรุอีกเเล้วเป็นอะไร ที่มูนมองว่าคนอ่านน่าจะต้องเเอบขำ เพราะเอาเข้าจริงซาโนะไม่มีทางทำได้เลย สรุปเเล้วไอ้ที่พูดนั้นมันก็เเค่อารมณ์ห่วงเมียเเบบชั่ววูบ+สำนึกผิดเเบบ ชั่วคราวมากกว่า เพราะสุดท้ายซาโนะก็คงกระโจนใส่จิสึรุอีกอยู่ดี
ส่วนการปะติดปะต่อเนื้อเรื่องตอนนี้กับตอนที่เเล้วนั้น มูนดรอปตั้งใจไว้ว่าจะให้เป็นเหตุการณ์ที่มีระยะเวลาห่างกันราวๆ7-8เดือน
ยังเคยคิดเอาไว้เล่นๆเลยว่าถ้าหากจะเขียนให้ออกเเนวโรเเมนติกเเบบหวั่น ไหววูบวาบหน่อยก็ยังน่าจะทำได้เลยนะเนี่ย เพราะจากเรื่องเดิมทั้ง2คนมีความสัมพันธ์กันเพียงครั้งเดียวจิสึรุก็ตั้ง ท้อง เเละจากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรกันอีกเลยจนกระทั่งหลังคลอดซึ่งก็ต้องรอให้นางเอก เเข็งเเรงดีเสียก่อน น่าคิดว่าความรู้สึกซึ่งยังไม่สมบูรณ์ในฐานะสามีภรรยาของ2คนนี้จะเป็นยังไง เเละการมีสัมพันธ์กันเป็นครั้งที่2หลังจากที่ทั้งคู่มีลูกด้วยกันเเล้วจ ะเกิดขึ้นภายใต้ความรู้สึกเเบบไหน
เเต่เอาเข้าจริงถ้าจะเขียนเเนวนี้คงต้องติดป้ายเตือน18+ละมั้ง 555 ><
#9 By ~Moondrop~ on 2011-12-01 08:52
-------------------------------------------
เอ่อ...ฮาราดะซัง
จะเจ้าเล่ห์ไปไหนคะ
โถ่เอ้ยคัทสึมิหนูน้อย เพื่อนที่ว่านั้นคงจะเป็นน้องหนูนั้นแหล่ะ =w=;;
ลูกก็ไสซื่อจังเลยนะ อดขำไม่ได้เลยทีเดียว
สนุกมากๆเลยค่ะ ^^
#10 By ][ZuiZen-:-Mukuyo][ on 2012-02-19 22:42
--------------------------------------------
ดีใจที่ชอบค่ะ
ที่ซาโนะเป็นอย่างนี้เพราะคนเเต่งรู้สึกว่าบุคลิคเค้าไม่ใช่พวกซื่อๆ นิ่งๆน่ะ ไม่ว่าจะดูจากอนิเม หรือกระทั่งเพลงจบของova ซึ่งมันต่างออกไปจากคาเเรคเตอร์ของคนอื่นๆนั้นบอกชัดมากเลย ถึงตัวตนของเจ้าหมอนี่
#11 By ~Moondrop~ on 2012-02-20 12:46
-------------------------------------------
ตอนต้นเรื่องแอบขำซาโนะอ่ะ ตอนคลอดซาโนะคลั่งจนฉุดไม่อยู่แล้ว 5555
พอลูกเริ่มโต ซาโนะก็ดันหึงลูก กร๊ากกก
พอบอกจะไม่แตะภรรยาอีก ไม่แน่อาจมาเป็นโหล ฮา
อยากเห็นของโซจิซะแล้วสิ เห็นป่วนเลี้ยงต้อยลูกสาวของชาวบ้านไปทั่ว
#12 By ♪ ๐PoupeE๐ ♪ on 2012-03-11 20:03
--------------------------------------------
ที่โซจิเลี้ยงลูกคนนั้นคนนี้ เพราะมูนไม่ได้เเต่งเนื้อเรื่องของเค้า ทั้งๆที่จริงๆก็เเอบอยากเขียนนะ
เเต่ก็มาลงท้ายกับโซจิจากเรื่อง "พีซ เมคเกอร์" ที่เขียนออกมาเป็นเรื่องยาว เเต่ก็เพิ่งไปได้ 2 ตอนเท่านั้น คือเรื่อง "ทิวาอสูร" ถ้าสนใจลองเเวะไปอ่านได้นะคะ
Read more: http://moon-drop.exteen.com/#axzz21PmdgQb0 http://moon-drop.exteen.com/20111114/hakuouki-fic-precious-memories-memory-of-harada-sanosuke#ixzz22DtkKKAy
Under Creative Commons License: Attribution