8/01/2555

Special Bodyguard 5



“นายก็เลิกยั่วโมโหฉันสักทีสิ”ชิเอลสะบัดหน้าหนีทันทีที่จบคำ   ตามด้วยการโค้งคารวะน้อยๆจากสัปเหร่อ  

โซเซยังคงอารมณ์ดีเป็นปกติขณะที่เฝ้ามองดูสีสันจากอารมณ์ความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม   ออร่าหลายหลากสีที่แผ่รัศมีออกมาจากร่างเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้าตนนี้ผันแปรไปตามแรงอารมณ์ ..มองแล้วเพลินตาดีจริง   เพราะเหตุนี้แหละอดีตยมทูตมือพระกาฬผู้เคยตัดสินคุณงามความดีบุคคลสำคัญของโลกมานับไม่ถ้วนอย่างเขาจึงไม่ค่อยชอบไปไหนไกลจากอาณาจักรของของมนุษย์นัก   เพราะมนุษย์นั้นน่าสนใจอย่างนี้เอง..  ถึงแม้จะมีช่วงชีวิตแสนสั้นทว่าพวกเขาก็มีเสียงหัวเราะ   และมันทำให้เขา..  ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่มานานกว่าใครๆไม่ต้องรู้สึกว่าโลกนี้น่าเบื่อหน่ายจนเกินไป   ยิ่งกว่านั้นร้อยปีที่ผ่านมานี้เขายังได้ค้นพบว่าการหัวเราะช่วยเติมเต็มช่องว่างของช่วงชีวิตอันยาวนานได้ดีที่สุดอีกด้วย   ดังนั้นเรื่องขำขันจึงมีคุณค่าสำหรับโซเซเพราะเหตุนี้

“ฮึ ฮึ..  อารมณ์ร้อนจริงนะครับมายเลดี้”  องค์รักษ์หนุ่มก้มศีรษะเล็กน้อยพลางขยับปีกหมวกทรงสูงเป็นเชิงขออภัย   ก่อนจะพูดอย่างเป็นการเป็นงาน

“สถานที่ซึ่งเรากำลังมุ่งหน้าไป..  เป็นคฤหาสน์ของท่านเซอร์โอลิเวอร์   ดัดเลย์  แฮสติ้ง   ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่คุ้นเคยกับท่านเคาท์เรมงด์เป็นอย่างดี   ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าตัวท่านเซอร์เองก็อาจจะมีส่วนรู้เห็นในเรื่องผิดกฏหมายด้วย”  โซเซหยุดพูดพลางจับจ้องสีหน้าเย็นชาของท่านเอิร์ลน้อย  

“ในเมื่อรู้เช่นนี้แล้วคุณคิดจะทำยังไงต่อไปล่ะครับ”

“ถ้าสืบจนรู้แล้วว่าผิดจริงก็เก็บมันทั้งคู่นั่นแหละ   แต่ไหนๆฉันก็แต่งตัวแบบนี้แล้วคงไม่พ้นเรื่องเปลืองตัวอีกนั่นล่ะ  ถึงยังไงฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆอยู่แล้วล่ะนะ   แต่ถ้าหากถึงที่สุดแล้วล่ะก็..”

“ด้วยสีหน้าท่าทางแบบนั้นน่ะหรือครับ   ที่จะดึงดูดสายตาบุรุษได้น่ะ
โซเซไม่อยากจะทำให้ท่านเอิร์ลโมโหอีกหรอกนะ   แต่แววตาเชือดเฉือนกับวาจาแข็งกระด้างเช่นนั้นน่ะไม่มีผู้ชายสติดีๆหน้าไหนอยากจะเข้าใกล้หรอก”

องค์รักษ์หนุ่มส่งเสียงหัวเราะเบาๆพร้อมกับหยิบตลับเครื่องสำอางเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อ   แล้วกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายชะโงกหน้าเข้ามาใกล้   มือใหญ่หมุนฝาตลับให้เปิดออกพร้อมกับแตะปลายพู่กันกลมมนลงบนผงฝุ่นสีกุหลาบแก่ที่บรรจุอยู่ภายใน   แล้วบรรจงไล้เบาๆไปบนแก้มเนียนใสของเด็กหนุ่ม   ตามด้วยที่หน้าผาก  ลำคอ   และร่องอกอิ่มซึ่งดูเหมือนจริงจนน่าตกใจ  

“เฮ้ย!  นี่มัน..” เด็กหนุ่มอดร้องโวยวายมิได้   ด้วยความรู้สึกจั๊กกะจี้ยามถูกโลมไล้ด้วยปลายพู่กันไม่ใช่สิ่งเคยคุ้น

“จุ๊ๆ   อย่าเพิ่งพูด..  เดี๋ยวสีเข้าปากแล้วลิปสติกจะเลอะหมด   อีกอย่างนะครับ..” นิ้วเรียวยาวเชยปลายคางหนุ่มน้อยให้เงยขึ้นพลางเอียงคอมอง “เลิกสักทีเถอะไอ้น้ำเสียงห้วนๆสั้นๆแบบนั้นน่ะ   จะปลอมตัวทั้งทีคุณมีปัญญาทำได้เท่านี้เองหรือ   ท่านเอิร์ล”

“ชิ..”

“ไหน   เอียงแก้มขวามาอีกหน่อย..  ที่จริงโซเซถนัดมากนะเรื่องการแต่งหน้าน่ะ   ยิ่งผิวพรรณของมนุษย์ที่ยังมีลมหายใจอยู่น่ะค่อนข้างจะเป็นสีชมพูสวยอยู่แล้ว   ตกแต่งอีกนิดๆหน่อยๆก็ดูดีไม่มีที่ติ  
แต่ถึงแม้ตอนนี้ท่านเอิร์ลจะดูเป็นสาวน้อยวัยแรกแย้มที่มีสุขภาพดีด้วยสีกุหลาบเรื่อๆที่พวงแก้ม   แต่จำไว้นะครับ..”  พ่อบ้านจำเป็นเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์วายร้ายออกมา   ขณะที่เก็บตลับเครื่องสำอางใส่กระเป๋า

“ไม่ว่าการแต่งหน้าหรือเสื้อผ้าแพรพรรณจะเลอเลิศปานใดแต่ก็ล้วนเป็นเพียงแค่เปลืองนอก   ความงามที่แท้จริงน่ะจะต้องมาจากภายใน”

“รู้แล้วน่า   นายนี่ก็พูดมาก..” ชิเอลชะงักกลางครันเมื่อรู้สึกว่ารถม้าหยุดนิ่งสนิทในที่สุด   หนุ่มน้อยชำเลืองมองแสงไฟและภาพความสับสนวุ่นวายภายนอกหน้าต่างพลางจับชายกระโปรงเตรียมจะลุกขึ้น   ขณะที่องค์รักษ์หนุ่มเป็นฝ่ายเปิดประตูรถลงไปก่อน

“ถึงแล้ว..  เชิญครับ”

ฝ่ามือใหญ่ซึ่งสวมถุงมือหนังสีดำมันวาวยื่นมารอรับอยู่ที่ประตูรถม้าเสร็จสรรพ   รอคอยให้สาวน้อยจับเพื่อพยุงกาย   และเมื่ออยู่ต่อหน้าใครต่อใครชิเอล   แฟนธอมไฮฟ์ก็จำต้องสวมวิญญาณเด็กสาวแรกรุ่นอย่างไม่มีทางเลี่ยง    ใบหน้าหวานอมยิ้มละไมยามที่ส่งมือให้กับองค์รักษ์ขณะที่อีกข้างรวบชายกระโปรงขึ้นแล้วก้าวเท้าลงจากรถ

“กรุณาเกาะแขนผมไว้นะครับ  มายเลดี้” จู่ๆน้ำเสียงสูงๆต่ำๆก็เอ่ยออกมาเป็นภาษารัสเซียชัดถ้อยชัดคำ   ทำให้เอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์ต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ   แต่ถึงแม้จะถลึงตามองสักกี่ครั้งโซเซก็ไม่มีท่าทีว่าจะเฉลยอะไรออกมาเลยชิเอลจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามแต่โดยดี    

ท่านเอิร์ลน้อยในรูปลักษณ์สตรียอมให้พ่อบ้านผมสีเงินพาเดินไปจนถึงทางเข้าโถงรับรองของคฤหาสน์ในที่สุด   เด็กหนุ่มก้มศีรษะลงเล็กน้อยด้วยกลัวจะถูกคนจำได้   ขณะที่บุรุษที่อยู่เคียงข้างก้มลงกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับหัวหน้าคนรับใช้ที่มารอต้อนรับ  

เลดี้วาเลนติน่า  วาซีเลฟและผู้ติดตาม” สิ้นเสียงขานชื่อ   สายตาแทบทุกคู่ในห้องโถงก็พุ่งมายังผู้มาใหม่ทั้งสองแทบจะพร้อมเพรียงกัน  

ภาพเด็กสาววัยแรกรุ่นในชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์นั้นโดดเด่นสะดุดตานัก   ผ้าชีฟองสีขาวบางเบาซึ่งซ้อนทับกันหลายชั้นจนบานออกนั้นดูราวกับกลีบกุหลาบ   ขณะที่ริบบิ้นและกุหลาบขาวซึ่งแซมอยู่บนเรือนผมสีมิดไนท์บลูที่ม้วนเป็นลอนน้อยๆแล้วปล่อยให้ยาวสยายเคลียแผ่นหลังนั้นดูงดงามแปลกตา   ทว่าก็ยังไม่เท่าดวงหน้ารูปไข่ที่เผยนัยน์ตาสีน้ำเงินลึกล้ำดุจมหาสมุทรเพียงข้างเดียว   กับจมูกเชิดงอนและริมฝีปากสีชมพูระเรื่อซึ่งงดงามลงตัวไม่มีที่ติ   ลำคอระหงประดับด้วยแถบริบบิ้นกำมะหยี่สีดำและเพชรรูปหยดน้ำเม็ดโตที่ส่องประกายแวววาวล้อแสงไฟ   รับกันกับชุดเปิดบ่าตามสมัยนิยมซึ่งประดับด้วยริบบิ้นลายริ้วขาวดำและผ้าลูกไม้สีเดียวกันกับชุดที่สวม   อวดลาดไหล่และเนินอกขาวสล้างที่รอวันผลิงามกับเอวเล็กกลมกลึง   และนั่นคือภาพของสาวน้อยวัยแรกแย้มที่มีอำนาจสะกดสายตาบุรุษให้ตะลึงค้างได้อย่างไม่ยากเย็น

เยื้องไปด้านหลังคือสุภาพบุรุษหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเงินยาวระต้นขาในมาดของครูประจำบ้าน..  โซเซค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อรอรับคำสั่งจากนายสาว   ชุดราตรีสโมสรที่อยู่บนร่างเป็นไปตามประเพณีนิยม    ทักสิโด้สีดำแบบชายยาวพร้อมด้วยหมวกทรงสูงนั้นดูพอดีเหมาะเจาะกับเรือนร่างสง่าผึ่งผายซึ่งอวดบ่ากว้าง   สะโพกสอบและช่วงชายาวตรงสมบูรณ์แบบ   องค์รักษ์เฉพาะกิจลอบยิ้มบางๆขณะที่สังเกตปฏิกิริยาของบรรดาแขกเหรื่อที่มีต่อชิเอล   เห็นได้ชัดว่าปลาหลายตัวเข้ามาติดเบ็ดอย่างง่ายดายโดยที่ท่านเอิร์ลน้อยยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยด้วยซ้ำ   มิเสียแรงที่อุตส่าห์ล่อหลอกให้ยอมแต่งตัวเช่นนี้


...เห็นทีงานนี้คงจะง่ายดายกว่าที่คิดกระมัง

จะเหลือก็เพียงมารยาหญิง..  ซึ่งไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะงัดอะไรออกมาใช้เท่านั้น






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น