8/01/2555

Special Bodyguard 4


ชิเอลส่ายหัวดิก   เมื่อไม่ว่าทางไหนก็หนีไม่พ้นการถูกทำให้เป็นตัวตลกเช่นนี้แล้ว..   จะให้ยอมง่ายๆก็คงใช่ที่   เจ้านายตัวน้อยตัดสินใจเบี่ยงกายหนีเงื้อมือพ่อบ้านเฉพาะกิจได้อย่างฉิวเฉียด   ร่างเล็กบางผลักอกอีกฝ่ายเต็มแรงแล้วกระโจนข้ามเตียงนอนไปที่ประตูห้องที่เปิดอ้าอยู่อย่างแคล่วคล่องว่องไว   ขณะที่สัปเหร่อยังคงยิ้มอย่างใจเย็นพลางกระดิกนิ้วชี้เบาๆครั้งหนึ่ง   พริบตานั้นบานประตูไม้ขัดมันก็กระแทกปิดเต็มแรง  แล้วหนทางหนีเพียงหนึ่งเดียวก็ถูกปิดกั้นไปโดยปริยาย   ทำให้เขาต้องหันกลับมาประจันหน้ากับองค์รักษ์จำเป็นพร้อมด้วยเสียงตวาดลั่น  


“หยุดนะ  นี่คือคำสั่ง!

ทว่าโซเซกลับไม่สนใจน้ำเสียงห้วนสั้น    พ่อบ้านหนุ่มมีเพียงเสียงหัวเราะแผ่วๆพร้อมกับเข้าถึงตัวหนุ่มน้อยได้อย่างไม่ยากเย็น   อุ้งมือใหญ่ยึดต้นแขนอีกฝ่ายไว้แน่นขณะที่อีกข้างปลดเปลื้องเสื้อคลุมตัวนอกออกจากร่าง   ตามด้วยเสื้อเชิร์ตและเสื้อผ้าส่วนอื่นๆที่เหลือ

“ผมไม่ใช่คุณพ่อบ้านแสนดีคนที่ท่านเอิร์ลมีพันธะสัญญาด้วยนะครับ   คำสั่งเช่นนั้นใช้กับผมไม่ได้หรอก”  น้ำเสียงแสดงความขบขันที่สูงๆต่ำๆสลับกันราวเสียงดนตรีนั้นยิ่งทำให้นายน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์อารมณ์เสียมากขึ้น    ชิเอลกระชากกางเกงขึ้นมาคลุมสะโพกตนเองพลางปัดมือใหญ่ขาวซีดออกไปให้พ้นตัว

“อย่ามาแตะต้องฉัน ไม่งั้นจะฆ่าให้ตาย!!”  

  
ครั้งนี้โซเซจำต้องยอมรามือเมื่อหนุ่มน้อยถึงกับล้วงปืนพกออกมาขู่พร้อมด้วยสีหน้าเครียดขมึงจริงจัง      รอยยิ้มบนเรียวปากองค์รักษ์หนุ่มคลายลงบ้างเล็กน้อย   เมื่อเห็นอยู่ว่าทั้งที่ตัวนิดเดียวแท้ๆหากท่านเอิร์ลน้อยผู้นี้ก็กลับพยศเอาการ..  น่าสนใจ   น่าสนใจจริงๆ    ทว่าดูท่าทางเขาคงต้องเพลาๆการยั่วโมโหอีกฝ่ายลงสักหน่อยแล้ว   ถึงแม้ว่าอาวุธที่มนุษย์ทำขึ้นจะแทบไม่ระคายผิวสิ่งมีชีวิตอย่างเขา  แต่ก็ยังไม่อยากจะถูกเกลียดขี้หน้าตั้งแต่วันแรกที่อยู่ด้วยกันเช่นนี้หรอก

“เอาละ..  ไม่ใส่ก็ไม่ใส่”   โซเซถอนหายใจพลางยกมือขึ้นยอมแพ้     

“เพราะถึงยังไงผมก็ไม่เคยเห็นดีเห็นงามกับการที่คุณยอมสวมปลอกคอเพื่อราชินีอยู่แล้ว” มีเสียงดีดนิ้วดังขึ้นครั้งหนึ่ง   แล้วประตูห้องก็เปิดออก  “เพียงแต่ผมอดขันไม่ได้ที่สุนัขเฝ้ายามตัวเล็กๆตัวนี้เคยทำเรื่องห้าวหาญมาแล้วมากมาย” พ่อบ้านจำเป็นแสร้งถอนหายใจแล้วถอยหลังไป
   
“คมเขี้ยวเล็กๆในปากท่านเอิร์ลน่ะเคยลิ้มรสเลือดตามคำสั่งมากี่รายแล้ว   แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็กลับกลัวกระโปรงแค่ตัวเดียว” น้ำเสียงกึ่งขันกึ่งเยาะเย้ยส่งผลให้ชิเอลยิ่งโมโห

“นายว่าไงนะ!” หนุ่มน้อยเริ่มรู้สึกถึงโทสะซึ่งแล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆเมื่อถูกสบประมาท

“หรือว่าโซเซพูดอะไรผิดไป”  รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาวจัดอีกรอบ  “อันที่จริงท่านเอิร์ลไม่จำเป็นต้องแสดงความจงรักภัคดีต่อเธอคนนั้นจนถึงขนาดยอมลดศักดิ์ศรีของตนเองเลย   มันไม่คุ้มกันหรอก    ดังนั้นผมว่า..”

“ตระกูลเราถวายความจงรักภัคดีด้วยการรับหน้าที่นี้สืบต่อกันมาหลายรุ่นแล้ว
ถ้าเพื่อเธอผู้นั้นแล้วแค่กระโปรงตัวรึสองตัว..  มันจะอะไรนักหนา”

สุดท้ายท่านเอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์ก็ติดกับเข้าอย่างจัง   ด้วยถึงแม้จะวางมาดเป็นผู้นำตระกูลสักเพียงใดแต่ก็ยังคงเป็นเด็กวัยเพียงสิบสามปีเท่านั้น   และนั่นก็ส่งผลให้นัยน์ตาคมที่ซ่อนอยู่หลังปอยผมสีเงินทอประกายวาวขึ้น   แต่กระนั้นโซเซก็ยังคงทำทีเป็นส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย   พร้อมกับก้มตัวลงรวบชุดประโปรงที่วางพาดอยู่ที่ปลายเตียงขึ้นมาม้วนเป็นก้อนกลมๆในวงแขนแล้วเตรียมจะเดินออกไปจากห้อง

“เดี๋ยว!!

“แล้วท่านเอิร์ลจะยอมลดตัวมาสวมกระโปรงนี่เพื่อเธอจริงๆน่ะหรือ   ยอมทิ้งศักดิ์ศรีได้ถึงเพียงนี้   ช่างสมเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์จริงๆ”  ในสภาพที่ยังหันหลังให้กับคนที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง   รอยยิ้มบนเรียวปากพ่อบ้านหนุ่มดูจะกว้างขึ้น   เมื่อเห็นได้ชัดว่าท่านเอิร์ลน้อยตกหลุมพรางในที่สุด  

“เอามาเถอะน่า!



................................................

“เอาล่ะ   ถ้าเช่นนั้นผมก็จะดำเนินรอยตามสถานะที่คุณพ่อบ้านเคยเป็น
เมื่ออยู่ต่อหน้าแขกเหรื่อผมคือคุณครูส่วนตัวของคุณ    ตกลงตามนั้นนะครับ..   มายเลดี้”


หลังจากที่ต้องทำใจสวมชุดกระโปรงขาวยาวฟูฟ่อง   ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์ก็อยู่ในสภาพซึ่งใกล้เคียงกับระเบิดเวลา   ขณะที่องค์รักษ์หนุ่มผมสีเงินก็ดูจะขยันจุดชนวนเสียจริง   ท่านเอิร์ลน้อยทำเป็นไม่สนใจด้วยการเสมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้า   ถึงแม้บรรยากาศสลัวยามเย็นกับอาการโคลงน้อยๆยามที่รถวิ่งพอจะทำให้โทสะคลายลงบ้าง   แต่น่าโมโหนัก..  เจ้าสัปเหร่อนี่จงใจกลั่นแกล้งเขาแน่ๆ   ชิเอลรู้สึกว่าภายใต้ท่าทีสุภาพเรียบร้อยไม่มีที่ตินั้นได้ซุกซ่อนความความร้ายกาจเอาไว้อย่างมิดชิดทีเดียว   เมื่อครู่ตอนที่ช่วยเขาแต่งตัวก็เช่นกัน ..ที่เจ้านี่สะกดกลั้นความขบขันเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน   ฝากไว้ก่อนเถอะ   ถ้าหากไม่ติดว่าเขายังต้องใช้ประโยชน์จากโซเซในฐานะองค์รักษ์แล้วล่ะก็    เห็นทีคงอดใจไม่ไหวถีบหน้าเจ้าหมอนี่กระเด็นตกรถไปนานแล้ว   และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลานี้เขาจึงไม่อยากหันกลับไปมองอีกฝ่ายบ่อยนัก  

“มายเลดี้..”

...ฮึ่ม..  จะกวนใจอะไรนักหนานะ..

แล้วยังคำเรียกหาที่ระคายหูนั่นอีก..  มายเลดี้   มายเลดี้
ฝากไว้ก่อนเถอะเจ้าบ้า...

“นายไม่มีหัวคิดเองรึไง!

ท่าทางหงุดหงิดจนออกนอกหน้าของท่านเอิร์ลน้อยส่งผลให้พ่อบ้านจำเป็นอดยิ้มขันไม่ได้   ทั้งๆที่คิดว่าตนเองประเมินอุปนิสัยประมุขแห่งแฟนธอมไฮฟ์มาดีพอแล้ว   ทว่าเมื่อได้เห็นยามที่สูญเสียการควบคุมตนเองเช่นนี้แล้วก็ให้รู้สึกว่าน่าสนใจนัก   จริงๆแล้วตั้งแต่รู้จักกันมาเด็กคนนี้ทำให้เขาประหลาดใจมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว   และนั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โซเซยอมตกปากรับคำเซบาสเตียน   ทำหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยให้กับเจ้านายที่แสนสำคัญยิ่งของปีศาจตนนั้น   เขาสนใจอยากรู้นัก..  ว่าเพราะอะไรมนุษย์คนหนึ่งจึงได้ดึงดูดความสนใจของปีศาจได้ถึงเพียงนี้   ความขุ่นเคืองของอีกฝ่ายทำให้สัปเหร่อหัวเราะออกมาเบาๆ


“ถ้าเช่นนั้นเป็นคู่รักจะดีกว่าไหมครับ   ผมจะได้ติดตามคุณไปทุกที่เสมือนเงาตามตัว”

นั่นปะไร..  เขาสาบานได้ว่าเห็นเปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากนัยน์ตาสีน้ำเงินกลมโตของหนุ่มน้อยที่นั่งอยู่บนเบาะตรงข้ามเลยเชียว   หลังจากสารพัดการกระทำตั้งแต่ช่วงเย็นที่ดั่งจะยั่วโมโหเด็กหนุ่มแล้ว   โซเซก็มิได้ถือสาท่าทางที่เหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อของท่านเอิร์ลน้อยสักเท่าไหร่   เมื่อเวลานี้ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์ซ่อนเรือนร่างเพรียวบางไว้ภายใต้อาภรณ์ขาวพิสุทธิ์แบบสตรีที่เปิดเผยผิวกายชวนมองให้ยากจะละสายตา   เขาคำนวณไว้ไม่พลาดจริงๆ   ..ด้วยสภาพเช่นนี้คงยากที่จะมีบุรุษคนใดกล้าปฏิเสธ   หากสาวน้อยนางนี้จะเข้าไปปฏิสัมพันธ์ด้วย  

“คืนนี้คุณดูดีมาก..  โซเซเชื่อว่าเป้าหมายของท่านเอิร์ลคงอยู่ไม่ไกลแล้ว   ถ้าเพียงแต่คุณจะเลิกทำหน้าแบบนั้นนะครับ”





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น