“ผมอยู่นี่.. ท่านเอิร์ล เพียงแค่เปลี่ยนชุดนิดๆหน่อยๆก็ถึงกับจำไม่ได้เชียวหรือ”
ผู้นำน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์ยังยืนนิ่ง
การพูดด้วยโทนเสียงสูงๆต่ำสลับกันแบบนี้..
ใช่สัปเหร่อนั่นจริงๆ ทว่าสำเนียงการพูด การเลือกใช้คำ หรือแม้กระทั่งวิธีการหัวเราะกลับแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
คนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าตนนี้ไม่ว่าจะดูยังไงก็ไม่น่า...
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมนายไม่ทำตัวเหมือนเดิม”
คำถามห้วนสั้นของหนุ่มน้อยสะกิดรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าอีกฝ่ายให้กว้างขึ้น ทว่าโซเซในเวลานี้กลับกลายเป็นคนละคนกับที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง เมื่อปราศจากหมวกที่สวมใส่อยู่เป็นประจำก็ทำให้แลเห็นรูปศีรษะกลมสวยได้ชัดเจนขึ้น ถึงแม้ว่าดวงตาทั้งสองจะยังคงถูกปกปิดไว้ด้วยปอยผมด้านหน้า
ทว่าเรือนผมสีเงินยาวซึ่งปกติเจ้าตัวแทบจะไม่เคยสาง กลับหวีจนเรียบลื่นเป็นประกายทิ้งตัวยาวระสะโพก และด้วยความที่โซเซไม่ได้สวมชุดคลุมตัวโคร่งเช่นทุกครั้ง
จึงเผยให้เห็นท่อนขายาวตรงภายใต้กางเกงแสลคสีเดียวกับตัวเสื้อ
ชิเอลไม่เข้าใจว่าสัปเหร่อทำให้รอยแผลเป็นน่าเกลียดที่ทาบลึกอยู่บนใบหน้าหายไปได้อย่างไร เพราะการปราศจากรอยแผลยิ่งทำให้อีกฝ่ายแลดูแปลกแยกเป็นคนละคนมากขึ้น นอกจากนี้ยังไม่มีเสียงหัวเราะฮี่ๆน่าขนลุกขนพอง ไม่มีการฉีกยิ้มกว้างจนน้ำลายไหลย้อยออกมาถึงมุมปาก และยิ่งไม่มีอาการขยับโยกตัวไปมาเหมือนคนจิตไม่ปกติ ชิเอลเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มในชุดทักสิโด้ชายยาวซึ่งพาดเสื้อคลุมสีเดียวกันไว้บนท่อนแขน ที่กำลังยืนตัวตรงพร้อมด้วยเสียงหัวเราะเบาๆแบบขึ้นจมูกอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง และถึงแม้จะมองไม่เห็น.. ทว่าก็รู้สึกได้ว่าประกายตาคมวาวหลังม่านผมนั่นกำลังจ้องมองตนอย่างสนอกสนใจ
“ผมจะสอนอะไรให้อย่างนะ
อย่าด่วนตัดสินคนจากภายนอก
และเพียงเพราะว่าผมทำตัวบ้าๆบอๆเช่นนั้น ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นบ้า.. ท่านเอิร์ล”
โซเซมิได้ตอบคำถาม
หากกลับเดินเข้ามาใกล้แล้วแตะปลายนิ้วเข้าที่ปลายคางเด็กหนุ่ม และเป็นอีกครั้งที่ชิเอลต้องเบิกตาโตอย่างประหลาดใจ เมื่อพบว่าแม้แต่เล็บมือซึ่งเคยดำยาวก็ยังตัดสั้นอย่างประณีตและเป็นสีชมพูระเรื่อแลดูสะอาดสะอ้าน พร้อมด้วยกลิ่นโคโลญหอมจางๆที่ลอยมาแตะจมูก
...คนๆนี้
แม้แต่การใช้คำแทนตัวก็ยังเปลี่ยน....
“แสดงว่านายไม่เคยคิดจะทำตัวให้ดูดีทั้งๆที่ทำได้เลยสินะ แม้แต่คำพูดคำจาของนายก็ยังเปลี่ยนไปขนาดนี้ ..ทำไม..”
“นั่นเพราะทุกวันที่ผ่านมาผมต้องทำงานอยู่กับคนตาย มันเป็นงานที่ค่อนข้างกินแรงและเลอะเทอะจึงไม่ได้ใส่ใจจะแต่งตัวอะไรนัก
แต่เวลานี้ผมเป็นองค์รักษ์ของคุณ
ในเมื่อคุณพ่อบ้านไว้วางใจในตัวผม
..โซเซก็จะทำให้แน่ใจว่าไม่ผิดหวัง”
“ช่างเถอะๆ”
เอิร์ลหนุ่มน้อยตัดบทก่อนจะหันกายไปยังประตูทางออก
“ ถ้างั้นเราก็ไปกันได้แล้ว รถม้ารออยู่ข้างนอก”
……………………………….
“นายมีหน้าที่เพียงแค่จัดเตรียมเสื้อผ้าให้ฉันก็พอแล้ว
ส่วนเรื่องการปรนนิบัติรับใช้ยกให้เป็นหน้าที่ของทานากะ”
ผู้นำน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์ผายมือไปยังพ่อบ้านอาวุโสซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง พลางแนะนำสมาชิกคนอื่นๆให้รู้จัก ชิเอลซึ่งนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ยกขาขึ้นไขว่ห้างพลางเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ขณะจับตาดูปฏิกิริยาที่บรรดาคนรับใช้มีต่อพ่อบ้านชั่วคราวของตน ทว่าดูเหมือนจะไม่มีใครเอะใจเลยสักคนว่ากำลังยืนคุยอยู่กับคนที่มีนิสัยแปลกประหลาดที่สุดในโลก เมื่อโซเซได้แสดงให้เห็นถึงมารยาททางสังคมที่เหลือเชื่อ
ซึ่งทำให้ท่านเอิร์ลต้องส่ายหน้าอย่างไม่อยากเชื่ออีกครั้ง
“ถ้าเช่นนั้น
..ผมจะจัดเตรียมเสื้อผ้าสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้เอาไว้ให้นะครับ”
ชิเอลมิได้ตอบคำ เวลานี้ภายในห้องทำงานเหลือเพียงเขาและท่านเอิร์ลตัวน้อยที่ยืนหันหลังให้อยู่ที่ริมหน้าต่างเท่านั้น โซเซเผยรอยยิ้มบางๆให้กับท่าทีที่ดูเหมือนกับยังรับไม่ได้ของเด็กหนุ่ม
และก่อนที่ชิเอลจะทันรู้สึกตัว
องค์รักษ์เฉพาะกิจก็มาหยุดยืนอยู่ที่ด้านหลังแล้วก้มหน้าลงมาแทบชิดจนกระทั่งลมหายใจผ่าวร้อนเป่ารดซอกคอ
“ท่านเอิร์ล ..ยังไม่หายตกใจอีกหรือ”
หนุ่มน้อยถึงกับสะดุ้งเฮือก ชิเอลรีบหันหลังกลับพร้อมกับกระถดกายถอยไปก้าวหนึ่งก่อนจะกระแอมแล้ววางมาดเข้ม
“คะ.. ใครว่าฉันตกใจ ก็แค่..
ไม่เคยชินกับตัวนายที่เป็นแบบนี้เท่านั้น”
“อ้อ..”
เสียงหัวเราะขึ้นจมูกดังขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นภายในสามวันนี้เราคงจะทำความคุ้นเคยกันได้ไม่ยาก
และอันที่จริงเรื่องการตกแต่งให้สวยงามก็เป็นงานถนัดของโซเซอยู่แล้ว
รับรองว่าคืนนี้ท่านเอิร์ลจะต้องดูดีไม่มีที่ติอย่างแน่นอน”
สัปเหร่อพูดทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะออกไปจากห้อง
และเมื่อถึงเวลาแต่งตัวเตรียมจะออกไปงานเลี้ยงตอนค่ำ
ท่านเอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์ก็เพิ่งจะได้รับรู้ความจริงอีกอย่างหนึ่ง ..โซเซไม่ได้มีดีแค่ราคาคุย
แน่นอนว่าเสื้อผ้าที่ถูกพ่อบ้านจำเป็นจัดเตรียมมาให้ถึงห้องนอนนั้นดูดีไม่มีที่ติ ทว่าทันทีที่ได้เห็นชิเอลก็แทบเป็นลม
เขาไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าตนเองจะต้องมาทำเรื่องอัปยศซ้ำสองด้วยการแต่งกายเป็นสตรีเช่นนี้ ดังนั้นเจ้านายตัวน้อยจึงคัดค้านหัวชนฝา
“ไม่!!
เอามันออกไปให้พ้น!
ฉันจะไม่ยอมแต่งตัวเป็นผู้หญิงอีกแล้ว
พอกันที!!”
ชิเอลกระถดตัวหนีเสื้อคอร์เซทในมือสัปเหร่ออย่างเอาเป็นเอาตาย
นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจ้องมองเครื่องรัดทรงสำหรับสตรีด้วยความหวาดหวั่นอย่างแท้จริง และชุดผ้าชีฟองสีขาวบริสุทธิ์ประดับด้วยริบบิ้นกับผ้าลูกไม้ราคาแพงจากฝรั่งเศสซึ่งวางพาดอยู่ที่ปลายเตียงก็ยังย้ำเตือนถึงเหตุการณ์น่าคลื่นไส้ในระหว่างการตามสืบคดีแจค เดอะ
ริปเปอร์ ที่ไม่ว่านึกขึ้นได้เมื่อไรก็มีแต่ความขยะแขยง
“ถ้าหากท่านเอิร์ลอยากจะตามสืบคดีนี้จริงก็ไม่ควรเรื่องมาก” โซเซถอนหายใจก่อนจะพูดเตือนสติ
“คงไม่ปฏิเสธใช่ไหมครับ
ว่าการอยู่ในสภาพผู้หญิงจะทำให้คุณสามารถทำงานและเข้าไปใกล้ชิดตัวเป้าหมายได้ง่ายกว่าอยู่ในร่างของผู้ชาย และที่สำคัญ...”
พ่อบ้านจำเป็นชูอุปกรณ์ประกอบการแปลงโฉมที่เพิ่งทำเสร็จหมาดๆให้ดู ส่งผลให้ท่านเอิร์ลน้อยยิ่งหน้าซีดกว่าเดิม
ชิเอลยกมือที่สั่นระริกขึ้นชี้ไปที่แผ่นหนังบางๆซึ่งมีหน้าตาคล้ายสรีระของผู้หญิงด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“นะ.. นั่นมันอะไรน่ะ หน้าอกเรอะ!!
ฉันไม่มีวันยอมใส่ไอ้ของบ้าๆแบบนี้แน่!”
สิ่งที่อยู่ในมือของโซเซในเวลานี้ก็คือแผ่นหนังซึ่งได้รับการตกแต่งจนมีสีสันกลมกลืนไปกับสีผิวของเด็กหนุ่ม มันมีลักษณะเป็นผิวหนังเทียมตั้งแต่ช่วงลำคอลงไปจนกระทั่งถึงบั้นเอว ซึ่งเมื่อนำมาทาบเข้ากับร่างกายแล้วก็จะติดล็อคให้แน่นด้วยตะขอโลหะตัวเล็กๆทั้งหมดสามจุดด้วยกัน โดยสัปเหร่อได้ทำเป็นสร้อยเพชรรูปหยดน้ำร้อยรัดไปบนริบบิ้นกำมะหยี่ประดับลูกไม้สีดำซึ่งมีตะขอติดด้านหลัง กับอีกสองแห่งคือสายรัดเส้นบางๆที่แผ่นหลังและรอบเอว
และจะทำให้ผู้สวมใส่ดูมีหน้าอกหน้าใจเช่นเดียวกับสตรีทุกประการ
“ชุดที่ผมเตรียมไว้ให้ค่อนข้างจะเน้นเนินอกอวบอิ่มยั่วสายตา ดังนั้นสิ่งนี้จะช่วยให้ท่านเอิร์ลดูเหมือนเด็กสาวจริงๆ ไม่ใช่แบบครึ่งๆกลางๆที่แบนเป็นไม้กระดานเหมือนคราวที่แล้ว”
“ฮึ่ม.. แบนเป็นไม้กระดานแล้วจะทำไม! ยังไงฉันก็ไม่ใช่..”
“ผมมีหน้าที่ซึ่งจะต้องดูแลให้คุณทำงานจนสำเร็จ ตามที่รับปากไว้กับคุณพ่อบ้าน”
โซเซขัดคออย่างไม่สนใจ พลางสาวเท้าเข้าไปอีกก้าวหนึ่งพร้อมด้วยเสื้อคอร์เซท
นัยน์ตาคมวาวมองลอดปอยผมไปยังร่างเล็กๆที่ขยับหนีไปจนติดมุมห้องอย่างมาดมั่น
“ดังนั้นโซเซมีทางเลือกให้สองทาง
ท่านเอิร์ลสะดวกใจจะให้ผมจับเปลื้องผ้าแล้วสวมชุดนี้ให้ หรือจะให้ความร่วมมือแต่โดยดีล่ะครับ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น