“เอ๋..
ท่านเอิร์ลกับคุณพ่อบ้าน
วันนี้ลมอะไรหอบมากันนะ ฮี่ ฮี่
ฮี่~”
ภายในร้านแคบๆที่มืดสลัว
ผู้นำน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์ต้องสะกดกลั้นความต้องการที่จะอาละวาดใส่พ่อบ้านคนสนิทอย่างเต็มที่ หลังจากที่ทั้งคู่ถกเถียงกันมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากคฤหาสน์เรื่องที่เซบาสเตียนตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่น่าไว้วางใจที่สุดเช่นนี้ ชิเอลวางสีหน้าเรียบเฉยพลางจ้องมองฝาโลงศพใบหนึ่งที่ตั้งอยู่ชิดริมผนังค่อยๆเลื่อนออกช้าๆอย่างซังกะตาย ให้ตายเถอะ..
ถึงแม้จะไม่ได้เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกแต่คนๆนี้ก็ยังอดทำให้เขารู้สึกขนลุกไม่ได้ เจ้าสัปเหร่อนั่น.. หรือโซเซ
จะเรียกอะไรก็ตามแต่เขาไม่อยากจะสนใจ
ค่อยๆคืบคลานออกมาจากโลงศพเหมือนผีลืมหลุม ท่านเอิร์ลน้อยเม้มริมฝีปากแน่นขณะจับจ้องใบหน้าซีดขาวและรอยแผลเป็นหน้าเกลียดที่กำลังแสยะยิ้มแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“คุณสัปเหร่อ..”
เด็กหนุ่มกระแอมเบาๆในลำคอ
“ที่จริงคนที่มีธุระกับนายคือเซบาสเตียนต่างหาก คือ..”
“ผมจะมาขอความช่วยเหลือจากคุณน่ะครับ” พ่อบ้านแฟนธอมไฮฟ์เป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน
เซบาสเตียนก้าวออกมาข้างหน้าขณะที่เจ้านายตัวน้อยยังพูดค้างอยู่อย่างนั้น
“พอดีนายน้อยได้รับภารกิจใหม่จากองค์ราชินี คือว่า..”
“ฮี่ ฮี่ ฮี่ ..ในที่สุดท่านเอิร์ลก็ไปขวางหูขวางตาใครบางคนจนได้สินะ”
สัปเหร่อหัวเราะเสียงแหลมเล็กราวกับความเดือดร้อนของผู้อื่นเป็นของตลกขบขันจนน้ำลายหยดหนึ่งไหลย้อยออกมาที่มุมปาก หากชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์กลับนิ่งเฉยไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนอง ถึงแม้ว่าโซเซจะเป็นแหล่งข่าวกรองที่เชื่อถือได้อย่างแน่นอน ทว่าอุปนิสัยนั้นกลับยากที่จะเอาแน่เอานอน.. บางครั้งถึงขั้นไม่น่าเข้าใกล้ แต่สำหรับความสามารถในการทำหน้าที่แทนเซบาสเตียนเป็นเวลาสามวันนั้นเขาเองก็ยังสงสัยอยู่ หนุ่มน้อยชำเลืองมองพ่อบ้านประจำตัวที่ยืนอยู่เคียงข้างอย่างไม่สบอารมณ์
เซบาสเตียนกำลังเล่ารายละเอียดภารกิจในอีกสามวันข้างหน้าให้สัปเหร่อฟังอย่างเป็นการเป็นงาน
“ครับ..
และในระหว่างสามวันนี้ซึ่งผมไม่อยู่ก็อยากจะขอให้คุณช่วยทำหน้าที่เป็นองค์รักษ์ของนายน้อยแทนผมที รวมทั้ง..
เป็นเพื่อนนายน้อยไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงรับรองท่านเคาท์คนที่ว่าด้วย”
“งั้นเอามาสิ..
เอาไอ้นั่นมาให้โซเซก่อน แล้วจะให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
ค่าตอบแทนตามธรรมเนียมของสัปเหร่อโซเซก็คือ เรื่องขำขันแบบฮาสุดขั้วที่เจ้าตัวชื่นชอบนักหนาจนเข้าขั้นเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งที่สองนายบ่าวต่างรู้ดีอยู่แก่ใจแล้ว
เซบาสเตียนก้มศีรษะลงนิดหนึ่งพร้อมกับทาบฝ่ามือเข้ากับหน้าอก
“ผมสัญญาว่าจะเตรียมเรื่องตลกที่สุดในสามโลกมาให้คุณเลย แต่ว่าตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว..”
พ่อบ้านปีศาจส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะโค้งคำนับ
“เอาเป็นว่าจะเล่าให้ฟังหลังจากเสร็จงานก็แล้วกันนะครับ”
เอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์ทำได้เพียงยกมือขึ้นขยี้ตา เมื่อการจากไปอย่างรวดเร็วของเซบาสเตียนทำให้ฝุ่นละอองกับเศษขี้เถ้าในร้านของสัปเหร่อฟุ้งกระจายไปหมด
หนุ่มน้อยซึ่งเป็นภูมิแพ้อยู่แต่เดิมจึงถึงกับจามติดๆกันเป็นชุดพลางนึกก่นด่าพ่อบ้านตัวดีไปด้วย ขณะที่องค์รักษ์จำเป็นยืนโยกตัวไปมาพลางหัวเราะฮี่ๆอย่างแสนจะขบขัน
“อะไรล่ะ..” ชิเอลถามอย่างอารมณ์เสีย
เพียงแค่คิดว่าจะต้องถูกผูกติดอยู่กับตัวบ้านี่ถึงสามวันเต็มๆก็แทบอยากจะผูกคอตายแล้ว ทว่าความเป็นจริงยังยากยิ่งกว่า.. เมื่อตนคงไม่พ้นต้องมาทนรับอุปนิสัยคุ้มดีคุ้มร้ายจากพ่อบ้านชั่วคราวด้วย
และขณะที่ท่านเอิร์ลน้อยกำลังคิดว่าน่าจะยอมเสี่ยงตายไปทำงานคนเดียวจะดีกว่า
ฝ่ามือขาวซีดพร้อมด้วยเล็บยาวโค้งสีดำก็วางทาบลงมาบนบ่า
“ฮี่ ฮี่ ฮี่~
อย่าโมโหไปเลยน่า..
โซเซรับปากคุณพ่อบ้านแล้วว่าจะดูแลท่านเอิร์ลให้ก็ต้องดูแล
จะไม่ปล่อยให้ท่านเอิร์ลต้องเสี่ยงตายหรอก”
“เฮ้อ.. เอาเถอะ” ชิเอลถอนหายใจยาว
“ฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากนายนักหรอก”
“อ๊ะๆ ไม่ได้สิ”
อุ้งมือใหญ่คว้าต้นแขนหนุ่มน้อยขณะที่เจ้าตัวกำลังจะหันหลังเดินออกจากร้านเอาไว้ทันท่วงที
โซเซยังคงฉีกยิ้มแบบโรคจิตให้ใครต่อใครหวาดผวาเล่น ทว่าชิเอลกลับรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแตกต่างออกไปจากเดิม
“ถึงจะเห็นโซเซเป็นแบบนี้แต่ก็ไว้ใจได้นะ ท่านเอิร์ลมานั่งที่นี่ก่อน.. อย่าเพิ่งหนีไปไหน เดี๋ยวโซเซจะยกน้ำชามาให้”
สัปเหร่อเดินหายเข้าไปหลังร้านครู่หนึ่งก็กลับออกมาพร้อมถ้วยชาและของขบเคี้ยวตามแบบฉบับ
“รอประเดี๋ยว..
โซเซขอเวลาไปเตรียมตัวเก็บข้าวของสักยี่สิบนาที
แล้วหลังจากนั้นก็เป็นอันพร้อมสำหรับภารกิจสำคัญ ~ฮี่ ฮี่ ฮี่”
เมื่อไม่มีทางเลือกชิเอลก็จำต้องทรุดตัวลงนั่งบนฝาโลงใบหนึ่งอย่างซังกะตาย พร้อมกับถ้วยชาซึ่งเจ้าของร้านนำโถแก้วทดลองเก่าๆมาดัดแปลงใหม่
ทั้งดูไม่น่าไว้ใจและไม่ถูกสุขลักษณะเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเจ้าคุกกี้รูปกระดูกในโถใส่เถ้ากระดูกนั่น
ทว่าเวลาผ่านไปแล้วร่วมชั่วโมงท่านเอิร์ลน้อยก็ยังไม่อาจทำใจหยิบคุกกี้ขึ้นมาใส่ปากได้ ขณะที่ถ้วยชาซึ่งเย็นชืดแล้ววางอยู่ข้างตัวทั้งๆที่เพิ่งจะจิบไปเพียงครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น ชิเอลกำลังอารมณ์เสีย.. เจ้าสัปเหร่อนั่นมัวทำบ้าอะไรอยู่
เลยยี่สิบนาทีมาตั้งนานแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาเลย คงไม่ใช่ว่าเปลี่ยนใจแล้วหรอกนะ
ทว่าขณะที่กำลังจะขยับลุกขึ้นด้วยหมดความอดทนนั้นประตูหลังร้านก็แง้มออก เผยให้เห็นใครบางคนที่ทำให้ชิเอลถึงกับตกตะลึง
“ขอโทษด้วยที่ต้องให้รอ”
ไม่มีเสียงตอบจากเอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์
ชิเอลได้แต่เบิกตาค้างยืนจ้องสิ่งที่ควรจะเป็นสัปเหร่อโรคจิต ..องครักษ์จำเป็นของเขา ทว่าโซเซหายไปไหน แล้วหมอนี่เป็นใครกัน... ด้วยความสูงที่ไล่เลี่ยกับโซเซ บุรุษผู้นี้แต่งกายเรียบร้อยไม่มีที่ติ ชุดทักสิโด้ชายยาวไตล์โกธิคสีดำเดินดิ้นเงินเส้นเล็กๆในเนื้อผ้าตัดกับผิวขาวจัดยิ่งขับให้เขาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ร่างสูงยืนอกผายไหล่ผึ่ง ใบหน้ายาวเรียวเชิดขึ้นอวดจมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากซึ่งประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ทว่ากลับซ่อนดวงตาอยู่หลังปอยผมสีเงินยาวเรียบลื่นปรกใบหน้า ขณะที่ด้านหลังทิ้งชายยาวสลวยระสะโพกสอบเพรียว
“สะ.. สัปเหร่อล่ะ หายไปไหน”
ท่านเอิร์ลน้อยได้แต่หันรีหันขวางอย่างทำอะไรไม่ถูก แต่ขณะที่กำลังคิดจะตามเข้าไปหลังร้านเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับโซเซ เสียงหัวเราะแผ่วๆที่ฟังเหมือนคุ้นหูหากก็กลับไม่คุ้นเคยดังขึ้นใกล้ตัว
“ท่านเอิร์ลนี่ทำตลกเป็นด้วยหรือ
ไม่เคยทราบมาก่อนเลย
ทั้งๆที่โซเซก็ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว
ยังจะเข้าไปหาทำไมอีก”
“อะไรนะ!!”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น