อังกฤษ
กุมภาพันธ์, 1888
รถม้าแบบหรูหราคันหนึ่งวิ่งไปตามทางดินลูกรังแถบชานเมืองอย่างไม่เร่งร้อน ภายในคือผู้โดยสารหนึ่งคน.. บุรุษหนุ่มเรือนร่างเพรียวบางในชุดสูทเข้ารูปสีขาวรับกันกับเกศาสีเงินนั่งเอนหลังอิงเบาะกำมะหยี่หนานุ่มพลางปรายตามองทิวทัศน์เบื้องนอก นัยน์ตาสีตะกั่วฉายแววไม่สบอารมณ์
ชิเอล แฟนธอมไฮฟ์... ชื่อนี้ช่างแสลงใจเขานัก
เขา.. ชาร์ล เกรย์
ผู้นำสารขององค์ราชินี นึกอยากจะเขี่ยเจ้าเด็กเหลือขอนั่นออกไปให้พ้นจากตำแหน่งเต็มทีแล้ว
ขุนนางร้ายตัวกระเปี๊ยกกับท่าทางหยิ่งผยองไม่แคร์ผู้ใด และแววไม่ยี่หระในดวงตาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวนั้นคือสูตรสำเร็จของความขวางหูขวางตาซึ่งรวมอยู่ในตัวเอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์อย่างลงตัว ช่างเป็นเด็กไม่เจียมตัวที่น่ารังเกียจอะไรอย่างนี้.. และทั้งๆที่เขาเคยมีโอกาสที่จะกำจัดมันทิ้งเมื่อครั้งที่องค์ราชินีมีรับสั่งให้เจ้าเด็กนั่นจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อรับรองอาคันตุกะจากต่างแดน ...จอร์น
วอน ซีเมนต์ที่คฤหาสน์ ทว่าก็กลับลงมือจัดการไม่สำเร็จ..
สุดท้ายคดีนั้นก็คลี่คลายลงเพราะการปรากฏตัวของบาทหลวงนักสืบจอมจุ้นคนหนึ่ง น่าเสียดาย..
ทั้งๆที่อีกนิดเดียวก็จะกำจัดเด็กนั่นได้แล้วเชียว
ทว่าดูเหมือนสวรรค์ยังเมตตาให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่ง ชาร์ล
เกรย์นั่งกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในรถม้าหลังจากที่เพิ่งยื่นจดหมายฉบับใหม่ให้กับท่านเอิร์ลตัวน้อยถึงมือ
เพราะมั่นใจว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เจ้าเด็กนั่นจะสามารถชูคอทำยโสโอหังอยู่ในตำแหน่งได้ เขาไม่รู้ว่าองค์ราชินีทรงคิดอะไรอยู่จึงได้มอบหมายภารกิจเช่นนั้นมาให้ แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ.. พ่อบ้านขององค์ราชินียกมือปิดปากหัวเราะคิกคัก เพราะมั่นใจว่าคราวนี้สมญาสุนัขรับใช้ราชินีคงจะต้องกลายเป็นอดีตแน่ๆ
..แทบจะรอไม่ไหวเลยเชียว
“แล้วผมจะรอจับคุณด้วยมือตัวเอง..
ท่านเอิร์ล”
และจะคอยเฝ้าดู.. จนกว่าชื่อของคุณจะถูกลบเลือนไปจากหน้าประวัติศาสตร์
.............................................
“นายน้อย..”
เซบาสเตียน มิคาเอลลิสไม่อาจรักษาอาการสงบนิ่งไว้ได้ เมื่อเห็นผู้เป็นนายวางจดหมายลงบนโต๊ะทำงานพร้อมถอนหายใจ ชิเอลเอนร่างพิงพนักเก้าอี้พลางหลับตาลง เด็กหนุ่มไม่สนใจจะตอบสนองต่อเสียงเรียกเมื่อครู่เมื่อหัวสมองยังคงขบคิดถึงเนื้อความในจดหมายที่เพิ่งได้รับ
...ดูเหมือนครั้งนี้องค์ราชินีคงจะอยากกำจัดเขาเสียแล้วกระมัง..
เพราะหากไม่ใช่ ภารกิจเช่นนี้คงไม่...
“ไม่มีอะไรที่ผมจะทำเพื่อคุณไม่ได้
..คุณก็รู้นะขอรับ” เสียงทุ้มนุ่มของพ่อบ้านหนุ่มดึงสติผู้เป็นนายให้กลับมา
เอิร์ลน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์เงยหน้าขึ้นสบสายตาคนสนิท
รอยยิ้มเย็นชาปรากฏอยู่บนริมฝีปากพร้อมกับยื่นจดหมายให้อ่าน
“ฉันรู้ เซบาสเตียน.. แต่ครั้งนี้ถึงจะเป็นนายก็ยังไม่แน่ว่าจะทำได้สำเร็จ”
นัยน์ตาสีเลือดทอประกายเข้มขึ้นเมื่อได้เห็นข้อความในจดหมาย
เซบาสเตียนยืนนิ่งพลางรับรู้ได้ถึงเจตนาแอบแฝงบางประการที่มาพร้อมกับภารกิจครั้งนี้ ใครบางคนกำลังคิดกำจัดนายน้อยของเขา ซึ่งหากไม่ใช่พ่อบ้านขององค์ราชินีก็คงเป็นตัวพระนางเองนั่นแหละ
จึงได้คิดมอบหมายภารกิจซึ่งเป็นไปไม่ได้เช่นนี้ให้ แต่ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใด.. ในพจนานุกรมของพ่อบ้านแฟนธอมไฮด์ก็ไม่เคยมีคำว่าทำไม่ได้
“ดูเหมือนจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลสินะขอรับ ภารกิจเช่นนี้.. กับคนธรรมดาแล้วไม่ว่าอย่างไรก็คงทำไม่สำเร็จแน่ๆ”
“ก็แน่ละ..
ฉันจะไปวิ่งรอบโลกเพื่อตามสืบสายการขนส่งยาเสพติดที่จะเข้ามายังอังกฤษ พร้อมทั้งทำลายเส้นทางขนส่งทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวภายในเวลาสามวันได้ยังไง”
ถึงกระนั้นชิเอลก็เพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
ในเมื่อเห็นๆอยู่ว่ามันเป็นไปไม่ได้
ร้อนใจไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
“แล้วขณะเดียวกันในระหว่างสามวันนี้นายน้อยก็ยังต้องไปสืบหากุญแจโกดังเก็บยาเสพติด ที่เก็บติดตัวท่านเคาท์ฝรั่งเศสคนนั้นอีกด้วย”
ท่านเคาท์ฝรั่งเศสคนที่ว่านั้นก็คือ
เรมงด์ที่สิบเจ็ด เคาท์แห่งตูลูสผู้ซึ่งหน้าฉากคือขุนนางจากทางตอนใต้ของฝรั่งเศสผู้เป็นเจ้าของธุรกิจค้าไวน์รายใหญ่ ทว่าฉากหลังนั้นคือพ่อค้าความตายที่พร้อมจะแลกเปลี่ยนเงินตรากับสินค้าผิดกฎหมายทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ อาวุธ
หรือแม้กระทั่งยาเสพติด
แต่แล้วภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เช่นนี้กลับถูกโยนเข้าใส่เจ้านายของเขาแบบชนิดไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งก็เท่ากับเป็นการโยนปัญหาทั้งหมดลงมาบนบ่าของพ่อบ้านปีศาจเช่นเขาด้วย เซบาสเตียนนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา
“อันที่จริงผมก็สามารถไปจัดการธุระทุกอย่างให้นายน้อยได้ภายในสามวันนะขอรับ แต่ว่าผมไม่อาจจะอยู่สองที่ได้ในเวลาเดียวกัน ถึงแม้จะเป็นปีศาจก็เถอะ”
“ถ้าเช่นนั้นรับคำสั่ง..
เซบาสเตียน
ฉันขอสั่งให้นายไปจัดการเรื่องเส้นทางการขนส่งยาเสพติดให้เสร็จสิ้นภายในสามวัน
ส่วนเรื่องท่านเคาท์นั่นฉันจะจัดการด้วยตัวเอง”
“ขอรับ นายท่าน ..แต่ว่า..” เซบาสเตียนค้อมกายรับบัญชา ทว่าก็ยังอดกังวลไม่ได้
“ผมยังไม่วางใจที่จะให้คุณไปโดยลำพัง เห็นทีครั้งนี้คงจะต้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่สามเสียแล้ว”
“บุคคลที่สาม...”
พ่อบ้านปีศาจยืดกายขึ้นยืนตรงก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้เจ้านายตัวน้อยแล้วกระซิบที่ริมหู
“คนผู้นั้นก็คือ...”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น