8/01/2555

Special Bodyguard 1


อังกฤษ

กุมภาพันธ์, 1888


รถม้าแบบหรูหราคันหนึ่งวิ่งไปตามทางดินลูกรังแถบชานเมืองอย่างไม่เร่งร้อน   ภายในคือผู้โดยสารหนึ่งคน..  บุรุษหนุ่มเรือนร่างเพรียวบางในชุดสูทเข้ารูปสีขาวรับกันกับเกศาสีเงินนั่งเอนหลังอิงเบาะกำมะหยี่หนานุ่มพลางปรายตามองทิวทัศน์เบื้องนอก   นัยน์ตาสีตะกั่วฉายแววไม่สบอารมณ์  


ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์...   ชื่อนี้ช่างแสลงใจเขานัก   

เขา..  ชาร์ล  เกรย์   ผู้นำสารขององค์ราชินี    นึกอยากจะเขี่ยเจ้าเด็กเหลือขอนั่นออกไปให้พ้นจากตำแหน่งเต็มทีแล้ว  

ขุนนางร้ายตัวกระเปี๊ยกกับท่าทางหยิ่งผยองไม่แคร์ผู้ใด    และแววไม่ยี่หระในดวงตาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวนั้นคือสูตรสำเร็จของความขวางหูขวางตาซึ่งรวมอยู่ในตัวเอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์อย่างลงตัว   ช่างเป็นเด็กไม่เจียมตัวที่น่ารังเกียจอะไรอย่างนี้..  และทั้งๆที่เขาเคยมีโอกาสที่จะกำจัดมันทิ้งเมื่อครั้งที่องค์ราชินีมีรับสั่งให้เจ้าเด็กนั่นจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อรับรองอาคันตุกะจากต่างแดน  ...จอร์น  วอน  ซีเมนต์ที่คฤหาสน์   ทว่าก็กลับลงมือจัดการไม่สำเร็จ..   สุดท้ายคดีนั้นก็คลี่คลายลงเพราะการปรากฏตัวของบาทหลวงนักสืบจอมจุ้นคนหนึ่ง   น่าเสียดาย..  ทั้งๆที่อีกนิดเดียวก็จะกำจัดเด็กนั่นได้แล้วเชียว   

ทว่าดูเหมือนสวรรค์ยังเมตตาให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่ง   ชาร์ล  เกรย์นั่งกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในรถม้าหลังจากที่เพิ่งยื่นจดหมายฉบับใหม่ให้กับท่านเอิร์ลตัวน้อยถึงมือ   เพราะมั่นใจว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เจ้าเด็กนั่นจะสามารถชูคอทำยโสโอหังอยู่ในตำแหน่งได้    เขาไม่รู้ว่าองค์ราชินีทรงคิดอะไรอยู่จึงได้มอบหมายภารกิจเช่นนั้นมาให้   แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ..   พ่อบ้านขององค์ราชินียกมือปิดปากหัวเราะคิกคัก    เพราะมั่นใจว่าคราวนี้สมญาสุนัขรับใช้ราชินีคงจะต้องกลายเป็นอดีตแน่ๆ   ..แทบจะรอไม่ไหวเลยเชียว

“แล้วผมจะรอจับคุณด้วยมือตัวเอง..  ท่านเอิร์ล”

และจะคอยเฝ้าดู..  จนกว่าชื่อของคุณจะถูกลบเลือนไปจากหน้าประวัติศาสตร์


.............................................

“นายน้อย..”

เซบาสเตียน   มิคาเอลลิสไม่อาจรักษาอาการสงบนิ่งไว้ได้   เมื่อเห็นผู้เป็นนายวางจดหมายลงบนโต๊ะทำงานพร้อมถอนหายใจ   ชิเอลเอนร่างพิงพนักเก้าอี้พลางหลับตาลง   เด็กหนุ่มไม่สนใจจะตอบสนองต่อเสียงเรียกเมื่อครู่เมื่อหัวสมองยังคงขบคิดถึงเนื้อความในจดหมายที่เพิ่งได้รับ

...ดูเหมือนครั้งนี้องค์ราชินีคงจะอยากกำจัดเขาเสียแล้วกระมัง..

เพราะหากไม่ใช่    ภารกิจเช่นนี้คงไม่...


“ไม่มีอะไรที่ผมจะทำเพื่อคุณไม่ได้  ..คุณก็รู้นะขอรับ”  เสียงทุ้มนุ่มของพ่อบ้านหนุ่มดึงสติผู้เป็นนายให้กลับมา    เอิร์ลน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์เงยหน้าขึ้นสบสายตาคนสนิท    รอยยิ้มเย็นชาปรากฏอยู่บนริมฝีปากพร้อมกับยื่นจดหมายให้อ่าน

“ฉันรู้  เซบาสเตียน..  แต่ครั้งนี้ถึงจะเป็นนายก็ยังไม่แน่ว่าจะทำได้สำเร็จ”

นัยน์ตาสีเลือดทอประกายเข้มขึ้นเมื่อได้เห็นข้อความในจดหมาย   เซบาสเตียนยืนนิ่งพลางรับรู้ได้ถึงเจตนาแอบแฝงบางประการที่มาพร้อมกับภารกิจครั้งนี้   ใครบางคนกำลังคิดกำจัดนายน้อยของเขา   ซึ่งหากไม่ใช่พ่อบ้านขององค์ราชินีก็คงเป็นตัวพระนางเองนั่นแหละ    จึงได้คิดมอบหมายภารกิจซึ่งเป็นไปไม่ได้เช่นนี้ให้   แต่ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใด..  ในพจนานุกรมของพ่อบ้านแฟนธอมไฮด์ก็ไม่เคยมีคำว่าทำไม่ได้

“ดูเหมือนจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลสินะขอรับ   ภารกิจเช่นนี้..  กับคนธรรมดาแล้วไม่ว่าอย่างไรก็คงทำไม่สำเร็จแน่ๆ”

“ก็แน่ละ..   ฉันจะไปวิ่งรอบโลกเพื่อตามสืบสายการขนส่งยาเสพติดที่จะเข้ามายังอังกฤษ   พร้อมทั้งทำลายเส้นทางขนส่งทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวภายในเวลาสามวันได้ยังไง” ถึงกระนั้นชิเอลก็เพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ   ในเมื่อเห็นๆอยู่ว่ามันเป็นไปไม่ได้    ร้อนใจไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

“แล้วขณะเดียวกันในระหว่างสามวันนี้นายน้อยก็ยังต้องไปสืบหากุญแจโกดังเก็บยาเสพติด   ที่เก็บติดตัวท่านเคาท์ฝรั่งเศสคนนั้นอีกด้วย”


ท่านเคาท์ฝรั่งเศสคนที่ว่านั้นก็คือ  เรมงด์ที่สิบเจ็ด   เคาท์แห่งตูลูสผู้ซึ่งหน้าฉากคือขุนนางจากทางตอนใต้ของฝรั่งเศสผู้เป็นเจ้าของธุรกิจค้าไวน์รายใหญ่    ทว่าฉากหลังนั้นคือพ่อค้าความตายที่พร้อมจะแลกเปลี่ยนเงินตรากับสินค้าผิดกฎหมายทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์   อาวุธ  หรือแม้กระทั่งยาเสพติด    แต่แล้วภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เช่นนี้กลับถูกโยนเข้าใส่เจ้านายของเขาแบบชนิดไม่ทันได้ตั้งตัว   ซึ่งก็เท่ากับเป็นการโยนปัญหาทั้งหมดลงมาบนบ่าของพ่อบ้านปีศาจเช่นเขาด้วย   เซบาสเตียนนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา

“อันที่จริงผมก็สามารถไปจัดการธุระทุกอย่างให้นายน้อยได้ภายในสามวันนะขอรับ   แต่ว่าผมไม่อาจจะอยู่สองที่ได้ในเวลาเดียวกัน   ถึงแม้จะเป็นปีศาจก็เถอะ”

“ถ้าเช่นนั้นรับคำสั่ง..  เซบาสเตียน   ฉันขอสั่งให้นายไปจัดการเรื่องเส้นทางการขนส่งยาเสพติดให้เสร็จสิ้นภายในสามวัน   ส่วนเรื่องท่านเคาท์นั่นฉันจะจัดการด้วยตัวเอง”

“ขอรับ  นายท่าน    ..แต่ว่า..” เซบาสเตียนค้อมกายรับบัญชา   ทว่าก็ยังอดกังวลไม่ได้

“ผมยังไม่วางใจที่จะให้คุณไปโดยลำพัง   เห็นทีครั้งนี้คงจะต้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่สามเสียแล้ว”

“บุคคลที่สาม...”

พ่อบ้านปีศาจยืดกายขึ้นยืนตรงก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้เจ้านายตัวน้อยแล้วกระซิบที่ริมหู

“คนผู้นั้นก็คือ...”








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น