8/01/2555

Diabolic Obligation 9 ~ พันธนาการชั่วนิรันดร์


ชิเอลไม่ได้สนใจพ่อบ้านปีศาจอีก    ถึงแม้คำพูดของเซบาสเตียนจะชวนให้นึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่ตนหมดสติไป    ทว่าตั้งแต่กลับมาถึงคฤหาสน์นายน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์ก็เอาแต่ขบคิดถึงเรื่องพันธกิจปีศาจที่เกิดขึ้นระหว่างพวกตน    นัยน์ตาสีทับทิมเผลอมองตามร่างสูงสง่าในชุดพ่อบ้านที่กำลังตระเตรียมทั้งน้ำอาบและชุดนอนให้   พลางมองเลยผ่านไปถึงทางเดินในอนาคตของตนที่ปราศจากเซบาสเตียน   มิคาเอลลิส

หนุ่มน้อยถอนหายใจอีกครั้ง..  เมื่อคิดว่าคงจะเป็นไปได้ยากและคงต้องใช้เวลาปรับตัวให้ชินกับการไม่มีพ่อบ้านปีศาจอยู่เคียงข้างกันอีกนานทีเดียว   แต่การอยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์ก็ไม่เคยยังประโยชน์อะไรให้กับเซบาสเตียนซึ่งแต่เดิมหวังเพียงแค่ดวงวิญญาณของตนเลยแม้แต่น้อย   ซ้ำร้ายมันอาจกลายเป็นปลายทางที่บีบบังคับให้ทั้งสองฝ่ายต้องหันมาทำร้ายกันเองในที่สุดด้วย   ดังนั้นการตัดไฟเสียแต่ต้นลมจึงน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า

“เป็นอะไรไปขอรับ  นายน้อย”  พ่อบ้านหนุ่มเอ่ยปากถาม   เมื่อสังเกตเห็นผู้เป็นนายนิ่งขึงไป

“อยู่กับฉันนายรู้สึกยังไง”


คำถามที่ชวนให้ประหลาดใจนั้นส่งผลให้ปีศาจหนุ่มทำตาโต   เซบาสเตียนวางชุดนอนสีดำลงบนเตียงก่อนจะยืดกายขึ้นแล้วหันกลับมา

“ผมไม่มีความคิดเห็นใดๆในเรื่องนี้ขอรับ”  เขาค้อมศีรษะอย่างเจียมตัวพลางหลุบสายตาลงต่ำ

“ถ้างั้นนายต้องการเป็นอิสระไหม”

เป็นอีกครั้งที่เซบาสเตียนต้องชะงักค้าง   เมื่อคำถามสั้นๆที่หลุดออกมาจากปากนายน้อยนั้นเป็นอะไรที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน    พ่อบ้านปีศาจเงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นนายอย่างลืมตัว

“อะไรนะขอรับ”  และต้องถามซ้ำอีกครั้งด้วยไม่เชื่อหู

“ฉันถามว่านายอยากเป็นอิสระไหม..  เซบาสเตียน   
วันนั้นฉันคงใจเร็วคิดเอาแต่ได้มากไปหน่อย    ฉันมาลองคิดดูอีกทีในเมื่อสัญญาระหว่างเราถูกผู้อื่นทำให้เป็นโมฆะ  ไม่มีดวงวิญญาณจะมอบให้แล้วก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะดึงนายไว้”

“แต่..  นายน้อยเคยออกคำสั่งว่าให้ผม...”

“ถ้างั้นฉันขอยกเลิกคำสั่ง”  ชิเอลขัดจังหวะขึ้นกลางครันพลางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “นายจะว่ายังไงล่ะ”

ผู้นำน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์ค่อยๆยันกายขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินโขยกเขยกเข้าไปหาพ่อบ้าน    ร่างเล็กบางในอาภรณ์สีดำสนิทที่ยังคงเลอะเทอะเปรอะเปื้อนยืดกายขึ้นเต็มความสูงแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาคนสนิทอย่างตรงไปตรงมา


“ก่อนหน้านี้นายช่วยให้ฉันแก้แค้นได้สำเร็จแล้ว   พันธะสัญญาระหว่างเราก็นับว่าสิ้นสุดลงตั้งแต่ตอนนั้น  
แต่ฉันกลับต้องกลายเป็นปีศาจ..  วิญญาณที่สัญญาไว้ว่าจะยกให้ก็ให้ไม่ได้เสียแล้ว  เหลือเพียงแค่ร่างกายซึ่งไม่ต่างอะไรกับซากศพ”  ชิเอลหยุดพูดพลางจ้องลึกเข้าไปในแววตาซึ่งฉายแววสับสนให้เห็นเป็นครั้งแรกของพ่อบ้านหนุ่ม

“ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้น..   ถึงอย่างนี้แล้วนายยังต้องการจะผูกมัดตัวเองไปชั่วฟ้าดินสลายด้วยการอยู่กับฉันหรือไง   เซบาสเตียน”


วินาทีนั้นเจ้านายตัวน้อยคาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นรอยยิ้มจากพ่อบ้านอีกครั้ง   ถึงแม้จะไม่ใช่รอยยิ้มเหมือนเมื่อก่อน   ทว่าเซบาสเตียนก็กำลังยิ้ม..   พร้อมด้วยเสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคออย่างลึกลับเป็นปริศนาที่สุด   ปีศาจในคราบพ่อบ้านทรุดกายลงคุกเข่าแทบเท้าผู้เป็นนายพร้อมด้วยรอยยิ้มชวนพรั่นพรึงที่ยังคงประดับอยู่บนริมฝีปาก   ทว่านัยน์ตาสีทับทิมนั้นกลับเปล่งประกายเรืองรองน่าขนลุก


“คุณบอกว่าเหลือเพียงร่างกาย... ถ้าเช่นนั้นสนใจจะนำร่างกายของคุณมาใช้หนี้ให้ผมแทนดวงวิญญาณรึเปล่าล่ะขอรับ   นายน้อย”

...คุณไม่เคยรู้จริงๆน่ะหรือ..  ว่าถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงต้องการคุณมากแค่ไหน   หวงแหนคุณมากเพียงใด...


“คุณได้คิดทบทวนดีแล้วหรือครับ   ถึงได้พูดอะไรพรรค์นี้ออกมาหลังจากที่ผมพยายามแทบแย่กว่าจะได้ตัวคุณคืนมาน่ะ   
แล้วถ้าหากผมยื่นข้อเสนอให้คุณนำร่างกายมามอบให้แทนดวงวิญญาณคุณจะทำยังไงหรือครับนายน้อย    จะยินยอมให้แต่โดยดีหรือจะบิดพลิ้วกันล่ะ”    

ข้อเสนอของพ่อบ้านหนุ่มส่งผลให้เลือดสูบฉีดขึ้นสู่แก้มทั้งสองเสียจนเจ้าตัวรู้สึกร้อนฉ่าไปทั้งใบหน้า   ชิเอลสะบัดหน้าหนีก่อนจะหันหลังให้เมื่อเข้าใจความนัยทุกอย่าง   ซึ่งเซบาสเตียนย่อมไม่ได้หมายถึงความต้องการที่จะฉีกเนื้อตนกินเป็นอาหารค่ำแทนดวงวิญญาณอย่างแน่นอน 

...ชักจะได้ใจมากไปแล้วนะ..

“ออกไป..

“คุณคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายถือสายจูงอยู่เพียงคนเดียวหรือขอรับ   ถ้าเช่นนั้นมาลองคิดกันในมุมกลับดู.. 
หากผมต้องการร่างกายของคุณขึ้นมาจริงๆแล้วคุณให้ไม่ได้   ก็เท่ากับคุณเป็นฝ่ายผิดสัญญาก่อนจริงไหมครับ”

“นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร!” ชิเอล   แฟนธอมไฮฟ์เน้นเสียงเข้มทั้งๆที่ยังไม่หันหน้ากลับมา 

“ถ้าต้องการร่างกายฉันนักจะฆ่าจะแกงก็เชิญเลย  
แต่ด้วยศักดิ์ศรีของผู้นำตระกูล..  ฉันไม่มีวันขึ้นเตียงกับคนรับใช้”


“ปากเก่งจริงๆนะครับ   ทั้งๆที่คุณเองก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์อย่างที่ว่านั่นเสียหน่อย” 

คำปรามาสนั้นมิได้ทำให้เซบาสเตียนขุ่นเคืองใจ   พ่อบ้านปีศาจขยับเข้าไปอีกก้าวหนึ่งแล้วหมุนร่างเล็กๆของผู้เป็นนายให้หันกลับมาเผชิญหน้า   เมื่อถูกจับให้หมุนตัวโดยพลการข้อเท้าข้างที่เจ็บอยู่ก็สำแดงอาการ   ส่งผลให้ชิเอลเสียหลักล้มลงในอ้อมแขนของปีศาจหนุ่ม

“อ๊ะ..”


“ขอถามว่าอะไรทำให้คุณคิดว่าคุณจะสามารถหนีไปจากผมได้หรือขอรับ” ปีศาจหนุ่มถามเสียงนุ่ม   พลางแตะปลายคางผู้เป็นนายให้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย   เขามองเห็นความ คาดไม่ถึงไหวระริกอยู่ในดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้าใสเพราะความตกใจ   ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง..  ดูท่านายน้อยของเขาคงจะไม่เคยคิดในแง่กลับกันเลยสินะ  

...ยังต้องฝึกอีกมาก...  

ถึงอย่างไรคุณ   ก็ยังคงเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำสินะ...



“ละ..  แล้วนายต้องการจะให้ฉันชดใช้ด้วยร่างกายจริงๆน่ะหรือ”

เจ้านายตัวน้อยยังมิได้ตอบคำถามหากกลับตั้งคำถามสวนกลับไป   และครั้งนี้ทำให้พ่อบ้านปีศาจเผยรอยยิ้มด้วยความเอ็นดูที่ฉายแววอุ่นซ่านไปถึงดวงตาแดงก่ำ   ก่อนจะช้อนร่างเล็กขึ้นอุ้มแล้วตรงเข้าไปยังห้องน้ำ


“ยังไม่ขอตอบตอนนี้เพราะใกล้รุ่งเต็มทีแล้วขอรับ    ผมควรพาคุณไปชำระล้างร่างกายแล้วเข้านอนจะเหมาะกว่า”

“เดี๋ยวสิ!” หนุ่มน้อยถึงกับร้องโวยวายเมื่ออาภรณ์บนร่างเริ่มหลุดออกไปทีละชิ้นๆ   ถึงแม้จะรู้ดีว่าเพราะกำลังจะอาบน้ำ   แต่ความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นเวลานี้ทำให้ชิเอลนึกอยากจะอยู่ตามลำพังมากกว่า   เรียวแก้มเนียนจึงเปลี่ยนเป็นสีชมพู   พร้อมด้วยมือเล็กที่ยึดเสื้อตัวในไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“วันนี้ฉันจะอาบเอง   นายออกไปรอข้างนอกก่อน”

คำพูดห้วนสั้นพร้อมด้วยอาการเมินหน้าหนีของผู้เป็นนายทำให้ปีศาจหนุ่มต้องกลั้นยิ้มอย่างสุดชีวิต   น่าขันเสียจริง..   ในเมื่อนวลเนื้อเรียบลื่นที่ตึงกระชับไปทุกสัดส่วนนี้มิใช่หรือ   ที่เขารู้เห็นและสัมผัสอยู่ทุกคืนวันเวลาที่อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา   เกศานุ่มมือเส้นเล็กละเอียดนี้มิใช่หรือที่เขาดูแลสระล้างให้ทุกเช้าค่ำด้วยความทะนุถนอม    รึยังมีส่วนใดในเรือนร่างเล็กๆนี้ที่หลุดพ้นสายตาเขาไปได้   ..แต่แล้วนายน้อยของเขากลับเพิ่งมานึกอายเอาตอนนี้    ทำตัวประหนึ่งสาวพรหมจารีที่ยังไม่เคยต้องมือชายเพียงเพราะถูกเขาสะกิดด้วยเรื่องนั้น

..แม้จะวางมาดสักเพียงใด   แต่แท้จริงแล้วคุณก็ยังคงบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหลือเกินขอรับ...
และด้วยเหตุนี้ผมถึงได้...


“ก็ได้ขอรับถ้าคุณอาย   แต่ว่าตอนนี้มีสิ่งจำเป็นยิ่งกว่านั้นที่จะต้องจัดการให้ถูกต้องเสียก่อน”  พ่อบ้านปีศาจไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งหลัก   มือใหญ่ประคองศีรษะเจ้านายตัวน้อยให้เงยขึ้นแล้วชิงจู่โจมริมฝีปากชุ่มชื่นทันที  

นัยน์ตาสีฟ้าสดเบิกค้างเมื่อพ่อบ้านหนุ่มแนบใบหน้าลงมา   สัมผัสอุ่นชื้นที่บดเคล้าเบาๆบนริมฝีปากส่งผลให้ชิเอลตะลึงงันจนทำอะไรไม่ถูกในทีแรก   แต่ทันทีที่ตั้งสติได้เจ้านายตัวน้อยก็หลับตาปี๋แล้วออกแรงดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลัง    พริบตานั้นจุมพิตอันแผ่วเบาดุจผีเสื้อขยับปีกก็แปรเปลี่ยนเป็นความดูดดื่มลึกซึ้งยิ่งขึ้น   เซบาสเตียนโอบแขนกระชับรอบเอวบางแล้วกระชากเข้าหาตัว    กักขังผู้เป็นนายเอาไว้ในอ้อมอกและรสจูบผ่าวร้อนที่ไม่ผ่อนปรนให้อีกต่อไป   เขาบังคับให้อีกฝ่ายเผยอริมฝีปากออกด้วยปลายลิ้น   ก่อนจะแทรกลึกเข้าสู่ความร้อนรุ่มภายในเมื่อชิเอลจำต้องยอมจำนนในที่สุด   ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ยึดโคนผมที่ท้ายทอยสวยได้รูปไว้แน่นเพื่อมิให้นายน้อยขยับศีรษะหนี   เเล้วเปิดทางให้เขาตักตวงความหวานจนเป็นที่พอใจก่อนจะยอมถอนริมฝีปากออกช้าๆ

และกว่าชิเอลจะกลับมาหายใจได้เป็นปกติอีกครั้งก็พบว่าพ่อบ้านตัวดียังคงโอบกอดตนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย   ทว่ายังไม่ทันจะได้อาละวาดให้สมแค้นเซบาสเตียนก็บ้วนอะไรบางอย่างออกมาจากปากเสียก่อน   ปีศาจหนุ่มหัวเราะแผ่วๆในลำคอขณะที่แบมือออก   เผยให้เห็นแมงมุมสีดำลายน้ำตาลตัวเล็กๆตัวหนึ่ง

“นะ..  นี่มัน..”

“เป็นลูกเล่นตุกติกของเจ้าแมงมุมบ้านั่นขอรับ”  พ่อบ้านหนุ่มตอบเสียงเรียบก่อนจะขว้างแมงมุมลงบนพื้นห้องน้ำแล้วขยี้ซ้ำด้วยรองเท้า  

“สกปรกสิ้นดี”  นัยน์ตาสีทับทิมทอประกายวาวขณะที่พูด   ก่อนจะตวัดสายตากลับมาที่เด็กหนุ่มในอ้อมแขน

“กับพวกที่ไม่เข็ดไม่หลาบจำนี่เราไม่ควรปล่อยให้เข้ามาใกล้อีก   รู้ไหมครับนายน้อย”  เซบาสเตียนไม่พูดเปล่า   แต่ยังยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเจ้านายอีกฟอดใหญ่   ทำให้ชิเอลถึงกับสะดุ้งเฮือก

“อะไรกัน!  นะ..  นาย...”

“ยังไม่หมดขอรับ”  พ่อบ้านหนุ่มยกหลังมือข้างที่ถูกคลอทจุมพิตขึ้นแนบริมฝีปาก   ก่อนจะบ้วนแมงมุมออกมาอีก  

“เอาล่ะ..  ตอนนี้คุณสะอาดดีแล้ว    ขอเชิญถอดเสื้อผ้าแล้วลงไปแช่น้ำเถอะขอรับ   ผมจะทำความสะอาดเจ้าพวกนี้เอง”



บทส่งท้าย: พันธนาการชั่วนิรันดร์

เซบาสเตียนขยับผ้าม่านรอบเตียงให้ปิดมิดชิดหลังจากส่งชิเอลเข้านอน     แม้จะเพิ่งพ้นย่ำรุ่งไปได้ไม่นานหากแสงตะวันดำทมึนก็เริ่มสาดลำเข้ามาในห้องแล้ว   ทว่าแทนที่จะกลับออกไปทำธุระของตนเองเมื่อหมดหน้าที่เช่นทุกครั้ง   พ่อบ้านปีศาจกลับยังรั้งรออยู่ข้างเตียงนอนเจ้านายตัวน้อยพลางคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นพักใหญ่ก่อนหน้านี้

..ถึงอย่างนี้แล้วนายยังต้องการจะผูกมัดตัวเองไปชั่วฟ้าดินสลายด้วยการอยู่กับฉันหรือไง   เซบาสเตียน..


หึ  หึ  ..เด็กเอ๋ย....

สีหน้าจริงจังกับถ้อยคำที่แสดงความมั่นอกมั่นใจเสียเหลือเกินของผู้เป็นนายทำให้เขาอดขำไม่ได้   แต่ขณะเดียวกันคำพูดนั้นก็แสดงให้เห็นว่าชิเอล   แฟนธอมไฮฟ์เติบโตขึ้นกว่าครั้งแรกที่พบกันมากนัก   ในที่สุดเด็กคนนี้ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะนึกถึงใจผู้อื่นแล้ว   และมิได้เป็นเพียงเด็กน้อยผู้เอาแต่ใจดังเช่นวันวานอีกต่อไป   พ่อบ้านหนุ่มยกมือซึ่งสวมถุงมือสีขาวขึ้นลูบใบหน้าเพื่อปกปิดรอยยิ้มน่ากลัว..   เขาควรจะดีใจสินะ   ในเมื่อเขาเองมิใช่หรือที่เฝ้ารอคอยวันที่เจ้านายตัวน้อยจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้   ถึงแม้จะยังเป็นเพียงการเริ่มต้น..  แต่ก็มีค่าน่าจับตามองนัก   ว่าชิเอลจะเจริญวัยขึ้นในทิศทางใดโดยมีเขาเป็นผู้หล่อเลี้ยง   เฝ้าดู  คอยประคับประคองให้เดินไปด้วยกัน   เมื่อเป็นเช่นนี้ถึงแม้จะไม่ได้ครอบครองดวงวิญญาณก็ไม่เป็นไร   ตราบใดที่เจ้านายตัวน้อยยังหาเรื่องท้าทายเขาไม่เว้นแต่ละวัน   หรือยังคงทำให้เฝ้าเขาหวงแหนจนมิอาจละสายตาได้เช่นนี้


...อา..   สำหรับมนุษย์แล้วนี่อาจเรียกว่ารักสินะ   นายน้อยเองก็เคยบอกกับเขาครั้งหนึ่งว่าความรักนั้นมีอยู่หลายรูปแบบ

ทว่ากับปีศาจเช่นเขาแล้วไม่ใช่...


ความรักนั้นเป็นเพียงอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์เท่านั้น..   มิใช่ของปีศาจ   และเขาซึ่งมีชีวิตอยู่มานานแสนนานย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าใครๆ   เซบาสเตียนจึงไม่เคยจะเสียเวลาคิดถึงเรื่องพรรค์นั้น   เขาไม่มีความรัก..  เช่นเดียวกับที่ปีศาจตนไหนๆก็ไม่มีทั้งนั้น  

ช่วงชีวิตอันยาวนานของพวกเขานั้นชินชาน่าเบื่อและปราศจากความน่าสนใจเกินไป   จนอารมณ์อันละเอียดอ่อนเช่นนั้นไม่อาจส่งผลอะไรกับความรู้สึกของเขาได้มากไปกว่าแมลงเล็กๆที่ไต่ตอมจนน่ารำคาญ   ทว่าปีศาจนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่พร้อมจะอ่อนไหวไปกับอะไรก็ตามที่เล็งเห็นว่ามีค่าเพียงพอ    สิ่งเร้าเพียงเล็กน้อยอาจกระตุ้นให้พวกเขาหลงใหลมัวเมาจนบ้าคลั่ง   ซึ่งเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็จะเติมเต็มภาชนะกลวงโบ๋ซึ่งเรียกว่าร่างกายให้ล้นปรี่ไปด้วยความรู้สึก   ความเร่าร้อน   และสีสันฉูดฉาดดั่งเครื่องปรุงรสชั้นเยี่ยม   กระตุ้นให้ชีวิตดำเนินต่อไปถึงแม้จะต้องแลกด้วยเลือดหรือความเจ็บปวด   และพอใจกับมันเป็นอย่างยิ่ง  ..เพราะนี่คือสุนทรียศาสตร์ของปีศาจ   ..มันก็เท่านั้น...  

และความหลงใหลที่เขามีตั้งแต่แรกเริ่มกับดวงวิญญาณของผู้เป็นนายก็ยังคงอัดแน่นอยู่ในอก   มันยังคงทำให้เขารู้สึกว่าได้รับการเติมเต็ม   เซบาสเตียนจะได้รับรู้ถึงการคงอยู่อันยาวนานของตนเองได้ก็ด้วยวิธีนี้    ถึงแม้ว่าสำหรับปีศาจตนหนึ่ง..   ความคลั่งไคล้ใหลหลงแบบชั่วฟ้าดินสลายเช่นนี้จะไม่เคยมีปรากฏมาก่อน   ทว่าอาจเป็นเพราะพวกตนไม่เคยพานพบกับสิ่งล้ำค่าถึงเพียงนี้ก็เป็นได้   ดวงวิญญาณพิสุทธิ์เลิศล้ำที่คลุกเคล้าอยู่ท่ามกลางโคลนตมอันมืดดำแต่กระนั้นก็กลับไม่เคยแปดเปื้อน   นับจากวันแรกที่เขาตอบสนองต่อเสียงเรียกของชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์    เซบาสเตียนก็ไม่เคยนึกเสียใจ..  แม้ว่าบทสรุปตอนท้ายจะต้องแลกมาซึ่งการสูญเสียอิสรภาพตลอดกาลเช่นนี้   ทว่าถึงอย่างนั้นก็เถอะ..  

..ไม่ว่าจะผูกพันกันด้วยอะไรก็แล้วแต่...


“คิดจะหนีไปจากผมยังเร็วไปร้อยปีขอรับนายน้อย”

เซบาสเตียนแหวกผ้าม่านคลุมเตียงออกนิดหนึ่งเพื่อลอบมองสีหน้ายามหลับของผู้เป็นนาย   พร้อมด้วยรอยยิ้มของปีศาจ    ก่อนจะหมุนกายออกไปจากห้องแล้วปิดประตูตามหลัง


..แล้วเรามาดูกัน   ว่าสุดท้ายเหยื่อพันธนาการชั่วนิรันดร์นี้จะเป็นใคร

ระหว่างคุณ...  กับผม..


~End~




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น