ชิเอลไม่ได้สนใจพ่อบ้านปีศาจอีก
ถึงแม้คำพูดของเซบาสเตียนจะชวนให้นึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่ตนหมดสติไป ทว่าตั้งแต่กลับมาถึงคฤหาสน์นายน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์ก็เอาแต่ขบคิดถึงเรื่องพันธกิจปีศาจที่เกิดขึ้นระหว่างพวกตน นัยน์ตาสีทับทิมเผลอมองตามร่างสูงสง่าในชุดพ่อบ้านที่กำลังตระเตรียมทั้งน้ำอาบและชุดนอนให้ พลางมองเลยผ่านไปถึงทางเดินในอนาคตของตนที่ปราศจากเซบาสเตียน
มิคาเอลลิส
หนุ่มน้อยถอนหายใจอีกครั้ง..
เมื่อคิดว่าคงจะเป็นไปได้ยากและคงต้องใช้เวลาปรับตัวให้ชินกับการไม่มีพ่อบ้านปีศาจอยู่เคียงข้างกันอีกนานทีเดียว
แต่การอยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์ก็ไม่เคยยังประโยชน์อะไรให้กับเซบาสเตียนซึ่งแต่เดิมหวังเพียงแค่ดวงวิญญาณของตนเลยแม้แต่น้อย
ซ้ำร้ายมันอาจกลายเป็นปลายทางที่บีบบังคับให้ทั้งสองฝ่ายต้องหันมาทำร้ายกันเองในที่สุดด้วย ดังนั้นการตัดไฟเสียแต่ต้นลมจึงน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า
“เป็นอะไรไปขอรับ
นายน้อย”
พ่อบ้านหนุ่มเอ่ยปากถาม
เมื่อสังเกตเห็นผู้เป็นนายนิ่งขึงไป
“อยู่กับฉันนายรู้สึกยังไง”
คำถามที่ชวนให้ประหลาดใจนั้นส่งผลให้ปีศาจหนุ่มทำตาโต
เซบาสเตียนวางชุดนอนสีดำลงบนเตียงก่อนจะยืดกายขึ้นแล้วหันกลับมา
“ผมไม่มีความคิดเห็นใดๆในเรื่องนี้ขอรับ” เขาค้อมศีรษะอย่างเจียมตัวพลางหลุบสายตาลงต่ำ
“ถ้างั้นนายต้องการเป็นอิสระไหม”
เป็นอีกครั้งที่เซบาสเตียนต้องชะงักค้าง เมื่อคำถามสั้นๆที่หลุดออกมาจากปากนายน้อยนั้นเป็นอะไรที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน
พ่อบ้านปีศาจเงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นนายอย่างลืมตัว
“อะไรนะขอรับ” และต้องถามซ้ำอีกครั้งด้วยไม่เชื่อหู
“ฉันถามว่านายอยากเป็นอิสระไหม..
เซบาสเตียน
วันนั้นฉันคงใจเร็วคิดเอาแต่ได้มากไปหน่อย ฉันมาลองคิดดูอีกทีในเมื่อสัญญาระหว่างเราถูกผู้อื่นทำให้เป็นโมฆะ ไม่มีดวงวิญญาณจะมอบให้แล้วก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะดึงนายไว้”
“แต่.. นายน้อยเคยออกคำสั่งว่าให้ผม...”
“ถ้างั้นฉันขอยกเลิกคำสั่ง” ชิเอลขัดจังหวะขึ้นกลางครันพลางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
“นายจะว่ายังไงล่ะ”
ผู้นำน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์ค่อยๆยันกายขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินโขยกเขยกเข้าไปหาพ่อบ้าน ร่างเล็กบางในอาภรณ์สีดำสนิทที่ยังคงเลอะเทอะเปรอะเปื้อนยืดกายขึ้นเต็มความสูงแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาคนสนิทอย่างตรงไปตรงมา
“ก่อนหน้านี้นายช่วยให้ฉันแก้แค้นได้สำเร็จแล้ว
พันธะสัญญาระหว่างเราก็นับว่าสิ้นสุดลงตั้งแต่ตอนนั้น
แต่ฉันกลับต้องกลายเป็นปีศาจ..
วิญญาณที่สัญญาไว้ว่าจะยกให้ก็ให้ไม่ได้เสียแล้ว
เหลือเพียงแค่ร่างกายซึ่งไม่ต่างอะไรกับซากศพ” ชิเอลหยุดพูดพลางจ้องลึกเข้าไปในแววตาซึ่งฉายแววสับสนให้เห็นเป็นครั้งแรกของพ่อบ้านหนุ่ม
“ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้น..
ถึงอย่างนี้แล้วนายยังต้องการจะผูกมัดตัวเองไปชั่วฟ้าดินสลายด้วยการอยู่กับฉันหรือไง เซบาสเตียน”
วินาทีนั้นเจ้านายตัวน้อยคาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นรอยยิ้มจากพ่อบ้านอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ใช่รอยยิ้มเหมือนเมื่อก่อน ทว่าเซบาสเตียนก็กำลังยิ้ม.. พร้อมด้วยเสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคออย่างลึกลับเป็นปริศนาที่สุด ปีศาจในคราบพ่อบ้านทรุดกายลงคุกเข่าแทบเท้าผู้เป็นนายพร้อมด้วยรอยยิ้มชวนพรั่นพรึงที่ยังคงประดับอยู่บนริมฝีปาก ทว่านัยน์ตาสีทับทิมนั้นกลับเปล่งประกายเรืองรองน่าขนลุก
“คุณบอกว่าเหลือเพียงร่างกาย... ถ้าเช่นนั้นสนใจจะนำร่างกายของคุณมาใช้หนี้ให้ผมแทนดวงวิญญาณรึเปล่าล่ะขอรับ นายน้อย”
...คุณไม่เคยรู้จริงๆน่ะหรือ.. ว่าถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงต้องการคุณมากแค่ไหน หวงแหนคุณมากเพียงใด...
“คุณได้คิดทบทวนดีแล้วหรือครับ
ถึงได้พูดอะไรพรรค์นี้ออกมาหลังจากที่ผมพยายามแทบแย่กว่าจะได้ตัวคุณคืนมาน่ะ
แล้วถ้าหากผมยื่นข้อเสนอให้คุณนำร่างกายมามอบให้แทนดวงวิญญาณคุณจะทำยังไงหรือครับนายน้อย จะยินยอมให้แต่โดยดีหรือจะบิดพลิ้วกันล่ะ”
ข้อเสนอของพ่อบ้านหนุ่มส่งผลให้เลือดสูบฉีดขึ้นสู่แก้มทั้งสองเสียจนเจ้าตัวรู้สึกร้อนฉ่าไปทั้งใบหน้า ชิเอลสะบัดหน้าหนีก่อนจะหันหลังให้เมื่อเข้าใจความนัยทุกอย่าง ซึ่งเซบาสเตียนย่อมไม่ได้หมายถึงความต้องการที่จะฉีกเนื้อตนกินเป็นอาหารค่ำแทนดวงวิญญาณอย่างแน่นอน
...ชักจะได้ใจมากไปแล้วนะ..
“ออกไป..”
“คุณคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายถือสายจูงอยู่เพียงคนเดียวหรือขอรับ
ถ้าเช่นนั้นมาลองคิดกันในมุมกลับดู..
หากผมต้องการร่างกายของคุณขึ้นมาจริงๆแล้วคุณให้ไม่ได้ ก็เท่ากับคุณเป็นฝ่ายผิดสัญญาก่อนจริงไหมครับ”
“นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร!” ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์เน้นเสียงเข้มทั้งๆที่ยังไม่หันหน้ากลับมา
“ถ้าต้องการร่างกายฉันนักจะฆ่าจะแกงก็เชิญเลย
แต่ด้วยศักดิ์ศรีของผู้นำตระกูล.. ฉันไม่มีวันขึ้นเตียงกับคนรับใช้”
“ปากเก่งจริงๆนะครับ
ทั้งๆที่คุณเองก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์อย่างที่ว่านั่นเสียหน่อย”
คำปรามาสนั้นมิได้ทำให้เซบาสเตียนขุ่นเคืองใจ พ่อบ้านปีศาจขยับเข้าไปอีกก้าวหนึ่งแล้วหมุนร่างเล็กๆของผู้เป็นนายให้หันกลับมาเผชิญหน้า เมื่อถูกจับให้หมุนตัวโดยพลการข้อเท้าข้างที่เจ็บอยู่ก็สำแดงอาการ ส่งผลให้ชิเอลเสียหลักล้มลงในอ้อมแขนของปีศาจหนุ่ม
“อ๊ะ..”
“ขอถามว่าอะไรทำให้คุณคิดว่าคุณจะสามารถหนีไปจากผมได้หรือขอรับ”
ปีศาจหนุ่มถามเสียงนุ่ม
พลางแตะปลายคางผู้เป็นนายให้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เขามองเห็นความ ‘คาดไม่ถึง’ ไหวระริกอยู่ในดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้าใสเพราะความตกใจ ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง..
ดูท่านายน้อยของเขาคงจะไม่เคยคิดในแง่กลับกันเลยสินะ
...ยังต้องฝึกอีกมาก...
ถึงอย่างไรคุณ
ก็ยังคงเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำสินะ...
“ละ..
แล้วนายต้องการจะให้ฉันชดใช้ด้วยร่างกายจริงๆน่ะหรือ”
เจ้านายตัวน้อยยังมิได้ตอบคำถามหากกลับตั้งคำถามสวนกลับไป และครั้งนี้ทำให้พ่อบ้านปีศาจเผยรอยยิ้มด้วยความเอ็นดูที่ฉายแววอุ่นซ่านไปถึงดวงตาแดงก่ำ
ก่อนจะช้อนร่างเล็กขึ้นอุ้มแล้วตรงเข้าไปยังห้องน้ำ
“ยังไม่ขอตอบตอนนี้เพราะใกล้รุ่งเต็มทีแล้วขอรับ ผมควรพาคุณไปชำระล้างร่างกายแล้วเข้านอนจะเหมาะกว่า”
“เดี๋ยวสิ!” หนุ่มน้อยถึงกับร้องโวยวายเมื่ออาภรณ์บนร่างเริ่มหลุดออกไปทีละชิ้นๆ ถึงแม้จะรู้ดีว่าเพราะกำลังจะอาบน้ำ
แต่ความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นเวลานี้ทำให้ชิเอลนึกอยากจะอยู่ตามลำพังมากกว่า เรียวแก้มเนียนจึงเปลี่ยนเป็นสีชมพู
พร้อมด้วยมือเล็กที่ยึดเสื้อตัวในไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“วันนี้ฉันจะอาบเอง นายออกไปรอข้างนอกก่อน”
คำพูดห้วนสั้นพร้อมด้วยอาการเมินหน้าหนีของผู้เป็นนายทำให้ปีศาจหนุ่มต้องกลั้นยิ้มอย่างสุดชีวิต น่าขันเสียจริง.. ในเมื่อนวลเนื้อเรียบลื่นที่ตึงกระชับไปทุกสัดส่วนนี้มิใช่หรือ
ที่เขารู้เห็นและสัมผัสอยู่ทุกคืนวันเวลาที่อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เกศานุ่มมือเส้นเล็กละเอียดนี้มิใช่หรือที่เขาดูแลสระล้างให้ทุกเช้าค่ำด้วยความทะนุถนอม รึยังมีส่วนใดในเรือนร่างเล็กๆนี้ที่หลุดพ้นสายตาเขาไปได้
..แต่แล้วนายน้อยของเขากลับเพิ่งมานึกอายเอาตอนนี้ ทำตัวประหนึ่งสาวพรหมจารีที่ยังไม่เคยต้องมือชายเพียงเพราะถูกเขาสะกิดด้วยเรื่องนั้น
..แม้จะวางมาดสักเพียงใด แต่แท้จริงแล้วคุณก็ยังคงบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหลือเกินขอรับ...
และด้วยเหตุนี้ผมถึงได้...
“ก็ได้ขอรับถ้าคุณอาย
แต่ว่าตอนนี้มีสิ่งจำเป็นยิ่งกว่านั้นที่จะต้องจัดการให้ถูกต้องเสียก่อน”
พ่อบ้านปีศาจไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งหลัก
มือใหญ่ประคองศีรษะเจ้านายตัวน้อยให้เงยขึ้นแล้วชิงจู่โจมริมฝีปากชุ่มชื่นทันที
นัยน์ตาสีฟ้าสดเบิกค้างเมื่อพ่อบ้านหนุ่มแนบใบหน้าลงมา
สัมผัสอุ่นชื้นที่บดเคล้าเบาๆบนริมฝีปากส่งผลให้ชิเอลตะลึงงันจนทำอะไรไม่ถูกในทีแรก แต่ทันทีที่ตั้งสติได้เจ้านายตัวน้อยก็หลับตาปี๋แล้วออกแรงดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลัง พริบตานั้นจุมพิตอันแผ่วเบาดุจผีเสื้อขยับปีกก็แปรเปลี่ยนเป็นความดูดดื่มลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เซบาสเตียนโอบแขนกระชับรอบเอวบางแล้วกระชากเข้าหาตัว กักขังผู้เป็นนายเอาไว้ในอ้อมอกและรสจูบผ่าวร้อนที่ไม่ผ่อนปรนให้อีกต่อไป เขาบังคับให้อีกฝ่ายเผยอริมฝีปากออกด้วยปลายลิ้น ก่อนจะแทรกลึกเข้าสู่ความร้อนรุ่มภายในเมื่อชิเอลจำต้องยอมจำนนในที่สุด ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ยึดโคนผมที่ท้ายทอยสวยได้รูปไว้แน่นเพื่อมิให้นายน้อยขยับศีรษะหนี เเล้วเปิดทางให้เขาตักตวงความหวานจนเป็นที่พอใจก่อนจะยอมถอนริมฝีปากออกช้าๆ
และกว่าชิเอลจะกลับมาหายใจได้เป็นปกติอีกครั้งก็พบว่าพ่อบ้านตัวดียังคงโอบกอดตนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ทว่ายังไม่ทันจะได้อาละวาดให้สมแค้นเซบาสเตียนก็บ้วนอะไรบางอย่างออกมาจากปากเสียก่อน
ปีศาจหนุ่มหัวเราะแผ่วๆในลำคอขณะที่แบมือออก เผยให้เห็นแมงมุมสีดำลายน้ำตาลตัวเล็กๆตัวหนึ่ง
“นะ.. นี่มัน..”
“เป็นลูกเล่นตุกติกของเจ้าแมงมุมบ้านั่นขอรับ”
พ่อบ้านหนุ่มตอบเสียงเรียบก่อนจะขว้างแมงมุมลงบนพื้นห้องน้ำแล้วขยี้ซ้ำด้วยรองเท้า
“สกปรกสิ้นดี” นัยน์ตาสีทับทิมทอประกายวาวขณะที่พูด ก่อนจะตวัดสายตากลับมาที่เด็กหนุ่มในอ้อมแขน
“กับพวกที่ไม่เข็ดไม่หลาบจำนี่เราไม่ควรปล่อยให้เข้ามาใกล้อีก รู้ไหมครับนายน้อย” เซบาสเตียนไม่พูดเปล่า
แต่ยังยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเจ้านายอีกฟอดใหญ่ ทำให้ชิเอลถึงกับสะดุ้งเฮือก
“อะไรกัน! นะ.. นาย...”
“ยังไม่หมดขอรับ”
พ่อบ้านหนุ่มยกหลังมือข้างที่ถูกคลอทจุมพิตขึ้นแนบริมฝีปาก ก่อนจะบ้วนแมงมุมออกมาอีก
“เอาล่ะ.. ตอนนี้คุณสะอาดดีแล้ว ขอเชิญถอดเสื้อผ้าแล้วลงไปแช่น้ำเถอะขอรับ ผมจะทำความสะอาดเจ้าพวกนี้เอง”
บทส่งท้าย: พันธนาการชั่วนิรันดร์
เซบาสเตียนขยับผ้าม่านรอบเตียงให้ปิดมิดชิดหลังจากส่งชิเอลเข้านอน แม้จะเพิ่งพ้นย่ำรุ่งไปได้ไม่นานหากแสงตะวันดำทมึนก็เริ่มสาดลำเข้ามาในห้องแล้ว ทว่าแทนที่จะกลับออกไปทำธุระของตนเองเมื่อหมดหน้าที่เช่นทุกครั้ง พ่อบ้านปีศาจกลับยังรั้งรออยู่ข้างเตียงนอนเจ้านายตัวน้อยพลางคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นพักใหญ่ก่อนหน้านี้
..ถึงอย่างนี้แล้วนายยังต้องการจะผูกมัดตัวเองไปชั่วฟ้าดินสลายด้วยการอยู่กับฉันหรือไง เซบาสเตียน..
หึ หึ
..เด็กเอ๋ย....
สีหน้าจริงจังกับถ้อยคำที่แสดงความมั่นอกมั่นใจเสียเหลือเกินของผู้เป็นนายทำให้เขาอดขำไม่ได้
แต่ขณะเดียวกันคำพูดนั้นก็แสดงให้เห็นว่าชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์เติบโตขึ้นกว่าครั้งแรกที่พบกันมากนัก ในที่สุดเด็กคนนี้ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะนึกถึงใจผู้อื่นแล้ว และมิได้เป็นเพียงเด็กน้อยผู้เอาแต่ใจดังเช่นวันวานอีกต่อไป
พ่อบ้านหนุ่มยกมือซึ่งสวมถุงมือสีขาวขึ้นลูบใบหน้าเพื่อปกปิดรอยยิ้มน่ากลัว.. เขาควรจะดีใจสินะ
ในเมื่อเขาเองมิใช่หรือที่เฝ้ารอคอยวันที่เจ้านายตัวน้อยจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ ถึงแม้จะยังเป็นเพียงการเริ่มต้น.. แต่ก็มีค่าน่าจับตามองนัก ว่าชิเอลจะเจริญวัยขึ้นในทิศทางใดโดยมีเขาเป็นผู้หล่อเลี้ยง เฝ้าดู
คอยประคับประคองให้เดินไปด้วยกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ถึงแม้จะไม่ได้ครอบครองดวงวิญญาณก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่เจ้านายตัวน้อยยังหาเรื่องท้าทายเขาไม่เว้นแต่ละวัน หรือยังคงทำให้เฝ้าเขาหวงแหนจนมิอาจละสายตาได้เช่นนี้
...อา.. สำหรับมนุษย์แล้วนี่อาจเรียกว่ารักสินะ
นายน้อยเองก็เคยบอกกับเขาครั้งหนึ่งว่าความรักนั้นมีอยู่หลายรูปแบบ
ทว่ากับปีศาจเช่นเขาแล้วไม่ใช่...
ความรักนั้นเป็นเพียงอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์เท่านั้น.. มิใช่ของปีศาจ และเขาซึ่งมีชีวิตอยู่มานานแสนนานย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าใครๆ เซบาสเตียนจึงไม่เคยจะเสียเวลาคิดถึงเรื่องพรรค์นั้น เขาไม่มีความรัก..
เช่นเดียวกับที่ปีศาจตนไหนๆก็ไม่มีทั้งนั้น
ช่วงชีวิตอันยาวนานของพวกเขานั้นชินชาน่าเบื่อและปราศจากความน่าสนใจเกินไป จนอารมณ์อันละเอียดอ่อนเช่นนั้นไม่อาจส่งผลอะไรกับความรู้สึกของเขาได้มากไปกว่าแมลงเล็กๆที่ไต่ตอมจนน่ารำคาญ ทว่าปีศาจนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่พร้อมจะอ่อนไหวไปกับอะไรก็ตามที่เล็งเห็นว่ามีค่าเพียงพอ
สิ่งเร้าเพียงเล็กน้อยอาจกระตุ้นให้พวกเขาหลงใหลมัวเมาจนบ้าคลั่ง ซึ่งเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็จะเติมเต็มภาชนะกลวงโบ๋ซึ่งเรียกว่าร่างกายให้ล้นปรี่ไปด้วยความรู้สึก ความเร่าร้อน และสีสันฉูดฉาดดั่งเครื่องปรุงรสชั้นเยี่ยม กระตุ้นให้ชีวิตดำเนินต่อไปถึงแม้จะต้องแลกด้วยเลือดหรือความเจ็บปวด และพอใจกับมันเป็นอย่างยิ่ง ..เพราะนี่คือสุนทรียศาสตร์ของปีศาจ ..มันก็เท่านั้น...
และความหลงใหลที่เขามีตั้งแต่แรกเริ่มกับดวงวิญญาณของผู้เป็นนายก็ยังคงอัดแน่นอยู่ในอก
มันยังคงทำให้เขารู้สึกว่าได้รับการเติมเต็ม
เซบาสเตียนจะได้รับรู้ถึงการคงอยู่อันยาวนานของตนเองได้ก็ด้วยวิธีนี้ ถึงแม้ว่าสำหรับปีศาจตนหนึ่ง.. ความคลั่งไคล้ใหลหลงแบบชั่วฟ้าดินสลายเช่นนี้จะไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ทว่าอาจเป็นเพราะพวกตนไม่เคยพานพบกับสิ่งล้ำค่าถึงเพียงนี้ก็เป็นได้ ดวงวิญญาณพิสุทธิ์เลิศล้ำที่คลุกเคล้าอยู่ท่ามกลางโคลนตมอันมืดดำแต่กระนั้นก็กลับไม่เคยแปดเปื้อน นับจากวันแรกที่เขาตอบสนองต่อเสียงเรียกของชิเอล แฟนธอมไฮฟ์
เซบาสเตียนก็ไม่เคยนึกเสียใจ..
แม้ว่าบทสรุปตอนท้ายจะต้องแลกมาซึ่งการสูญเสียอิสรภาพตลอดกาลเช่นนี้ ทว่าถึงอย่างนั้นก็เถอะ..
..ไม่ว่าจะผูกพันกันด้วยอะไรก็แล้วแต่...
“คิดจะหนีไปจากผมยังเร็วไปร้อยปีขอรับนายน้อย”
เซบาสเตียนแหวกผ้าม่านคลุมเตียงออกนิดหนึ่งเพื่อลอบมองสีหน้ายามหลับของผู้เป็นนาย พร้อมด้วยรอยยิ้มของปีศาจ
ก่อนจะหมุนกายออกไปจากห้องแล้วปิดประตูตามหลัง
..แล้วเรามาดูกัน ว่าสุดท้ายเหยื่อพันธนาการชั่วนิรันดร์นี้จะเป็นใคร
ระหว่างคุณ... กับผม..
~End~

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น