ทั้งๆที่ได้ยินเสียงต่อสู้อยู่ไม่ไกลนัก หากชิเอลกลับรู้สึกว่าตนเองใช้เวลายาวนานร่วมชั่วโมงกว่าจะไปถึงที่หมาย และภาพที่ปรากฏต่อสายตาก็คือการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างพ่อบ้านปีศาจทั้งสอง ส่งผลให้เจ้านายตัวน้อยถึงกับตะลึงงัน
มิใช่เพราะตกใจกับการปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิดของคลอท ฟอลทัส
พ่อบ้านแห่งแทรนชี่ มิใช่เพราะประหลาดใจที่ทั้งสองคนไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกถึงบุคคลที่สามอย่างเขา แต่เป็นที่สีหน้าและแววตา
ตลอดจนกระไอปีศาจรุนแรงที่ต่างฝ่ายต่างก็รีดเค้นออกมาห้ำหั่นกันราวกับมีความแค้นกันมายาวนานเสียจนต้องการกำจัดอีกฝ่ายแบบไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก
มันเกิดอะไรขึ้นนะ.. ครั้งล่าสุดเขาจำได้ว่าเซบาสเตียนได้จบเรื่องกับพ่อบ้านของอลัวร์ แทรนชี่ไปแล้วนี่ และทั้งๆที่ความแค้นก็ควรจะจบลงตรงนั้นแต่ทำไม...
ความสงสัยทำให้ผู้นำน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์เผลอก้าวเข้าไปใกล้อีกก้าวหนึ่ง จังหวะเดียวกับที่ส้อมสีเงินวาววับสามคันบินเข้าใส่เป้าหมายซึ่งบังเอิญเข้ามาอยู่ในแนวระนาบเดียวกับเขาพอดี
“นายน้อย!”
เซบาสเตียนถึงกับชะงักไปด้วยความตกใจเมื่อหันไปเห็นผู้เป็นนาย และโดยไม่ต้องยั้งคิด..
พ่อบ้านหนุ่มพุ่งปราดเข้าหานายน้อยด้วยหมายจะใช้ร่างตนเป็นโล่กำบังอาวุธที่พุ่งเข้ามา ทว่านั่นยังไม่เร็วเท่าพ่อบ้านอีกคนหนึ่งที่อยู่ใกล้กว่า เมื่อคลอทซึ่งเพิ่งจะเบี่ยงกายหลบอาวุธเมื่อครู่เป็นฝ่ายเข้าถึงตัวก่อน พ่อบ้านแทรนชี่กางแขนออกตะครุบร่างน้อยไว้ได้ทันท่วงที ตนเองจึงมีอันต้องได้เลือดจากส้อมเงินทั้งสามซึ่งปักเข้าที่บ่าและแผ่นหลังอย่างไม่มีทางเลี่ยง
“อ๊ะ!”
ชิเอลได้แต่หลับตาปี๋อย่างทำอะไรไม่ถูก เมื่อวินาทีหนึ่งกำลังตกใจกับวัตถุสีเงินซึ่งมองไม่ทันว่าเป็นอะไร.. จากนั้นก็ถูกใครอีกคนพุ่งเข้าใส่จนล้มกลิ้งไปด้วยกันทั้งคู่ในวินาทีถัดมา หนุ่มน้อยครางแผ่วเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้าซ้ายก่อนจะลืมตาขึ้นมอง
“ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ
..นายน้อย” คลอท
ฟอลทัสยังคงโอบกอดชิเอลไว้อย่างปกป้องคุ้มครอง ทว่าน้ำหนักตัวที่กดทับลงมาบนร่างนั้นทำให้เด็กหนุ่มถึงกับหายใจไม่ออก
“คะ ..ใครเป็น..” เขาตั้งใจจะถามว่า ใครเป็นนายน้อยของนาย ทว่าเสียงหินระเบิดที่ดังกึกก้องมาจากเบื้องหลังขัดจังหวะเสียก่อน
พ่อบ้านแห่งแฟนธอมไฮฟ์ยืนนิ่งพลางส่งประกายตาเย็นเยียบมาให้ ปีศาจหนุ่มถอยห่างออกมาจากภูเขาหินขนาดย่อมที่เพิ่งถล่มยับคามือ ก่อนจะแบมือออกแล้วปล่อยให้เศษหินที่ถูกบดจนละเอียดเป็นผงร่วงกราวลงบนพื้น แล้วเดินปรี่เข้ามาคว้าร่างเล็กบางไปจากอ้อมแขนอีกฝ่าย
“ปล่อย..นาย..น้อย..ของ..ผม..เดี๋ยว..นี้” เซบาสเตียนจงใจเน้นเสียงทีละคำอย่างช้าๆ
พร้อมด้วยรังสีอำมหิตซึ่งบอกให้รู้เป็นนัยๆว่า หากพ่อบ้านอีกคนยังไม่ยอมวางมืออีกคราวนี้เห็นทีคงได้กลับไปเป็นเงาเร่ร่อนตามเดิมแน่ๆ ทว่าถึงกระนั้นคลอทก็ยังรู้สึกยากจะตัดใจ
“โอ๊ย.. เจ็บ!”
ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดระหว่างบุรุษทั้งสอง ..เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจากปีศาจหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงกลางกลับได้ผลชะงัดกว่า ทันทีที่ได้สติทั้งคลอทและเซบาสเตียนต่างก็รีบปล่อยมือทันที ความห่วงใยปรากฏอยู่บนใบหน้าของทั้งคู่
ชิเอลสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของพ่อบ้านทั้งสองแล้วพยายามจะลุกขึ้นยืนด้วยตนเอง ทว่าเมื่อเห็นเจ้านายตัวน้อยขบริมฝีปากแน่นด้วยความเจ็บพร้อมทั้งอาการซวนเซต่างคนก็ต่างรีบเข้าไปพยุง ทว่ากลับถูกปัดมือออกอย่างไม่ไยดี
“ไม่ต้อง!
ฉันลุกเองได้”
...งี่เง่าที่สุด...
ผู้นำน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์ถอนหายใจเฮือกพลางกลอกตาอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าจะมีพ่อบ้านปีศาจที่ติงต๊องบ้องตื้นจนถึงขนาดทำให้เจ้านายเจ็บตัวได้
เจ้าพวกนี้ไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่านะ จู่ๆถึงได้ปราดเข้ามาดึงแขนตนคนละข้างแล้วออกแรงยื้อแย่งกันเหมือนเป็นเด็กเล็กๆกำลังแย่งของเล่น ช่างไร้สาระสิ้นดี
..เจ้าพวกบ้า...
“จบเรื่องหรือยัง
..เซบาสเตียน” เมื่อผู้เป็นนายเอ่ยถามเสียงเรียบพลางชำเลืองมองด้วยหางตา พ่อบ้านหนุ่มก็คุกเข่าลงกับพื้นแล้วก้มศีรษะอย่างนอบน้อม
“ขอรับ นายน้อย”
“งั้นกลับกัน
ฉันเหนื่อยแล้ว”
โดยไม่รอฟังคำตอบ...
ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์ยืดตัวตรงแล้วเป็นฝ่ายเดินนำออกไปก่อน ทิ้งให้ปีศาจหนุ่มทั้งสองยืนจ้องหน้ากันอีกเป็นครู่
“เตรียมใจไว้นะครับ
พบกันคราวหน้าผมจะเด็ดปีกคุณแน่”
“และผมก็แทบจะอดใจรอเก็บกวาดใยแมงมุมให้หายรกหูรกตาไม่ไหวเลยล่ะครับ”
เซบาสเตียน
มิคาเอลลิสพูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะหมุนร่างกลับแล้วตามผู้เป็นนายไป
.........................................
“เป็นคืนที่ยาวนานเสียจริงนะ
หรือนายว่าไง ..เซบาสเตียน”
หนุ่มน้อยซึ่งเดินนำหน้าพ่อบ้านในสภาพขากะเผลกเอ่ยปากชวนคุยขณะที่ทั้งคู่มุ่งหน้ากลับไปยังรถม้า
“ขออภัยด้วยขอรับ” พ่อบ้านปีศาจเอ่ยเสียงแผ่วอย่างสำนึกผิด พลางขยับเข้าไปใกล้แล้วก้มลงช้อนร่างน้อยขึ้นอุ้ม
“เป็นความผิดของผมจริงๆที่ไม่อาจดูแลปกป้องนายน้อยให้ปลอดภัยได้
แต่ยังไงก็ตาม..
เวลานี้จุดที่เราทิ้งรถม้าเอาไว้ยังไม่ได้เก็บกวาด จึงอาจไม่ใช่อะไรที่น่ามองนักหรอกนะขอรับ เอาเป็นว่าให้ผมพาคุณกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำแผลเสียก่อน
จากนั้นผมค่อยย้อนกลับมาจัดการเรื่องรถม้าก็แล้วกัน”
“ตามใจนาย”
ชิเอลถอนหายใจก่อนจะเงียบเสียงแล้วปล่อยให้พ่อบ้านเป็นธุระจัดการทุกอย่าง
“อา..
แต่มีอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องลงมือทำก่อนที่ผมจะกลับมาจัดการเรื่องอื่นๆ” เซบาสเตียนขมวดคิ้วย่นพลางบอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนจะชำเลืองมองผู้เป็นนายซึ่งอยู่ในอ้อมแขนแวบหนึ่ง
“ผมจะต้องลบกลิ่นสาบแมงมุมที่ติดตัวคุณ รวมทั้งร่องรอยต่างๆที่เจ้าแมงมุมบ้านั่นทำไว้บนตัวคุณออกเสียก่อน”

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น