8/01/2555

Diabolic Obligation 4


เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังก้องไปทั่ว 

“น่ากลัวจริงนะ   ปีศาจอย่างเจ้าน่ะหรือจะมีปัญญาทำเช่นนั้นได้” เทพสาวองค์หนึ่งแหงนหน้าแล้วระเบิดเสียงหัวเราะแหลม   ก่อนจะถลันออกไปเบื้องหน้าอย่างไม่กลัวเกรง

“ถ้าแน่จริงก็ลองทำอย่างที่ว่าให้ข้าดูหน่อยสิ   ไอ้ตัวโสโครก”  

สิ้นคำปีกขาวบริสุทธิ์หลายคู่ก็สะบัดออกอย่างพร้อมเพรียง   เทวดาแต่ละองค์ล้วนเนรมิตหน้าไม้สีเงินเป็นเงามันปลาบขึ้นด้วยหมายลงทัณฑ์ปีศาจโฉดชั่วที่ดูเหมือนไร้ทางต่อต้าน   แรงจากการกระพือปีกขนาดใหญ่เหล่านั้นส่งผลให้เศษกรวดและละอองฝุ่นจำนวนมากฟุ้งตลบ   บดบังทัศนวิสัยให้ยิ่งเลวร้ายมากขึ้น  


“หยุดนะ! นาตาเลีย   ..พวกเจ้าด้วย   ถอยออกไปให้หมด!!

พริบตานั้นเกเบรียลพุ่งปราดออกมาขวางหน้าระหว่างทัพสวรรค์กับอสูรเพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงยืนนิ่งพร้อมด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น   เทพหนุ่มสยายปีกออกกางกั้น    ส่งผลให้บรรดาทูตสวรรค์พากันงุนงงสับสน   ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมาอย่างไม่แน่ใจ   ขณะที่ปีศาจกลับเผยอรอยยิ้มกว้างขวางกว่าเดิม

“พวกเจ้าอย่าได้ดูถูกปีศาจตนนี้เป็นอันขาด  มิฉะนั้นจะต้องเสียใจ”


“แหม...  เล่นชมกันซึ่งๆหน้าแบบนี้ผมก็เขินแย่สิครับ
แต่ทำอย่างนี้จะดีหรือ   หากไม่เข้ามาพร้อมๆกันล่ะก็คงยากที่จะโค่นผมได้นะครับ”


“นี่..เจ้า..จะบังอาจมากไปแล้วนะ!!

“หึ หึ   พวกมนุษย์กล่าวกันว่าสุนัขที่ดีมักไม่เอาแต่เห่า...”

“ดี!  ถ้าเช่นนั้นข้า..  เกเบรียล   จะสู้กับเจ้าเอง”


..........................................................

ชิเอล   แฟนธอมไฮฟ์ขดตัวนิ่งอยู่ที่มุมเบาะด้านหนึ่งในรถม้า   โดยไม่อาจรับรู้ความเป็นไปเบื้องนอกได้มากไปกว่าการใช้ความพยายามเงี่ยหูฟังสรรพสำเนียงแห่งการนองเลือดที่เบื้องนอก   สัมผัสอันเฉียบคมเช่นปีศาจทำให้รับรู้ได้ถึงคาวโลหิตที่ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ   ขณะที่บางส่วนกระเซ็นถูกตัวรถและบานหน้าต่างที่ปกปิดมิดชิดด้วยผ้าม่านสีเข้ม  

...เป็นเลือดของใครกันนะ   หรือว่า..


ชิเอลระงับความคิดฟุ้งซ่านไว้เพียงเท่านั้น   ผู้นำน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์เม้มริมฝีปากแน่นพลางยืดหลังตรงแล้วออกคำสั่งซึ่งเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไข   

“เซบาสเตียน..  จัดการให้เรียบร้อย”

แต่ไหนแต่ไรพ่อบ้านปีศาจไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง   ไม่ว่าจะพบอุปสรรคหนักหนาเพียงใดก็ไม่เคยทำงานพลาด   นั่นคือสิ่งที่พ่อบ้านของเขา   ..เซบาสเตียน  มิคาเอลลิสเป็นเสมอมา



Yes, my Lord

...ผมจะไม่ยอมให้นายน้อยตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอนขอรับ...


เซบาสเตียนต่อสู้เพียงลำพังได้อย่างน่าชื่นชม   เมื่ออยู่ท่ามกลางเหล่าศัตรู..โดยมีความปลอดภัยของเจ้านายตัวน้อยเป็นเดิมพัน   และปราศจากถุงมือสีขาวที่สวมใส่อยู่เป็นประจำ..  อีกโฉมหน้าหนึ่งซึ่งเขามักปกปิดไว้ก็ปรากฏออกมา   กรงเล็บสีดำสนิทตะปบลงบนหัวไหล่ศัตรูอย่างแม่นยำ   ขณะที่อีกข้างหนึ่งขยุ้มปีกขาวบริสุทธิ์ไว้แน่นแล้วฉีกกระชากจนขาดออกจากกันอย่างไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ   เทวดาเคราะห์ร้ายถึงกับกรีดร้องเสียงหลงพร้อมๆกับโลหิตคล้ำเข้มจำนวนมากที่สาดกระจายดุจห่าฝน   ตามด้วยแขนและขาถูกซึ่งดึงทึ้งออกจากร่างเป็นลำดับต่อมา   เสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัวสุดชีวิตค่อยๆเงียบหายไปแทนที่ด้วยเสียงเนื้อหนัง   กระดูก  และเส้นเอ็นถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆเหมือนฉีกขนมปังปอนด์   จากนั้น..  เซบาสเตียนก็ไม่สนใจสิ่งซึ่ง เคยเป็นทูตสวรรค์อีกต่อไป   ปีศาจหนุ่มเหวี่ยงศีรษะในมือทิ้งพลางขยับก้าวออกมาให้พ้นจากทะเลเลือด   แล้วหันกลับไปรับมือกับหัวหน้าเทวดาที่เสือกคมดาบเข้ามาเต็มแรง

เกเบรีบลเบี่ยงกายหลบกรงเล็บแหลมคมที่ตวัดเข้าใส่ได้อย่างฉิวเฉียด   ก่อนจะสะบัดคมดาบให้บาดลึกเข้าไปยังต้นแขนอีกฝ่าย   ประกายตาสีอำพันฉายแววสาสมใจยามที่สามารถเรียกเลือดจากเซบาสเตียนได้สำเร็จ   หลังจากที่ต้องสูญเสียพรรคพวกไปแล้วจำนวนหนึ่งจากการถูกจับฉีกเป็นชิ้นๆด้วยมือเปล่า   ปีศาจตนนี้ช่างร้ายกาจสมคำร่ำลือนัก    หรือเป็นเพราะอยู่ในเขตแดนของตนเอง..  จึงทำให้เทวดาจำนวนมากมิอาจสะอิดผิวได้   พวกเขาประมาทเกินไปงั้นหรือ   ทว่าสำหรับมือขวาขององค์จอมเทพเช่นเขา   ผู้ซึ่งมีพลังมากเกินกว่าที่แผ่นดินแห่งนี้จะสามารถดูดกลืนได้หมดนั้นกลับมิใช่ปัญหาเลย    เกเบรียลยังคงมั่นใจว่าจะสังหารเจ้าปีศาจตนนี้ได้อย่างแน่นอน   รวมทั้งจัดการกับดวงวิญญาณมนุษย์ที่หลงผิดนั่นด้วย


“หึ  หึ  หึ”

พ่อบ้านปีศาจยังคงหัวเราะแผ่วๆอยู่ในลำคอ   พร้อมด้วยประกายทับทิมซึ่งฉายแววกระหายเลือดยิ่งขึ้นเมื่อได้รับบาดเจ็บ   ด้วยความเร็วที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน..  เซบาสเตียนพุ่งปราดเข้าล็อคแขนขวาข้างที่ถือดาบของหัวหน้าทูตสวรรค์แล้วจับหัก   ส่งผลให้ศัตรูร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด    ทว่าเขาไม่มีโอกาสสร้างความเสียหายได้มากกว่านั้น   เมื่อเทวดาสององค์กระโจนเข้าใส่แล้วยึดแขนเขาไว้คนละข้าง    วินาทีนั้นสถานการณ์จึงเริ่มพลิกผันไปอีกทางหนึ่ง

เซบาสเตียนแอ่นร่างไปเบื้องหลังแล้วใช้ศีรษะโขกหน้าผากคู่ต่อสู้เต็มแรง   ส่งผลให้อีกฝ่ายเสียหลักกระเด็นไปหลายก้าว    แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้แขนทั้งสองข้างที่ถูกยึดเป็นอิสระ  พ่อบ้านหนุ่มจึงทำได้เพียงเกร็งร่างขึ้นรับลูกดอกเงินที่พุ่งเข้าใส่อย่างไม่อาจเลี่ยง   โลหิตกระเซ็นออกมาตามบาดแผลที่ถูกยิงจากหนึ่งดอกเพิ่มเป็นสอง   สามและสี่   พ่อบ้านหนุ่มขบกรามแน่นเพื่อต่อสู้กับความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ระเบิดขึ้นทั่วร่าง   คมเขี้ยววาววับในปากถูกย้อมด้วยโลหิตจนกลายเป็นสีแดง    เชิร์ตตัวในสีขาวอันเป็นสัญลักษณ์ของพ่อบ้านเวลานี้เปรอะเปื้อนไปด้วยรอยเลือดเป็นด่างดวงเพราะลูกดอกเงินดอกแล้วดอกเล่าที่ปักตรึงอยู่บนร่าง   ทว่าเซบาสเตียนกลับไม่ส่งเสียงร้อง..  ไม่มีแม้สักแอะเดียว


“อึดนักหรือ..  อยากรู้นักว่ายามที่คอเจ้าหลุดกระเด็นจะยังปิดปากเงียบได้อยู่หรือไม่”


 ไม่..   เขาจะไม่มีวันทำให้นายน้อยต้องรับรู้และเป็นกังวล  

..เด็กคนนั้นถูกสั่งให้หลบอยู่แต่ในรถม้าโดยไม่มีโอกาสได้รู้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น   เพียงเท่านี้ก็มากพอแล้ว

เวลานี้คุณจะหวาดกลัวสักเพียงใดนะ   นายน้อย... 



นายน้อยขอรับ!   หนีไป!!   ผมจะถ่วงเวลาเอาไว้ให้” เซบาสเตียนไม่มีทางเลือก   เมื่อถึงคราวจวนตัวพ่อบ้านหนุ่มก็สะกดกลั้นความเจ็บปวดแล้วตะโกนสุดเสียง

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่าหันกลับมา   รีบหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้   เข้าใจนะครับ!


และเขารู้ดีโดยไม่ต้องรอฟังคำตอบ   ชิเอล   แฟนธอมไฮฟ์มิใช่คนอ่อนแอ  ..ไม่เคยเป็นแม้แต่วันเดียว    เจ้านายตัวน้อยของเขามีหัวใจที่เข้มแข็งน่าชื่นชมเสมอมา   ในร่างเล็กๆนั้นอัดแน่นด้วยเพลิงร้อนระอุที่แปรเปลี่ยนความหวาดกลัวให้เป็นพลังแห่งการมีชีวิตรอด   และเพราะเหตุนี้กระมัง..  ปีศาจอย่างเขาจึงหลงใหลอย่างบ้าคลั่งจนมิอาจถอนตัวได้

พ่อบ้านแห่งแฟนธอมไฮฟ์หลับตาลง   พลางเงี่ยหูฟังเสียงประตูรถม้าที่ถูกกระชากเปิด   ตามด้วยเสียงฝีเท้าคู่เล็กๆที่ออกวิ่งสุดกำลัง..  ห่างออกไปทุกที


“จับเด็กนั่นไว้  อย่าให้หนีไปได้!! หัวหน้าทูตสวรรค์สั่งการอย่างเด็ดขาด   ทว่ายังมิทันมีผู้ใดได้ขยับตัวออกติดตาม   บรรดาเทวดาที่เหลืออยู่ก็มีอันต้องหนาวยะเยือก   ขนปีกสีดำปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ   พร้อมด้วยพายุหมุนอันไร้ที่มาอีกสองลูกซึ่งเคลื่อนที่เป็นวงกลมโอบล้อมทุกชีวิตเอาไว้ภายใต้ความบ้าคลั่ง

“ตั้งแต่ยุคโบราณ   ปีศาจและเทวดานั้นเปรียบเสมือนศัตรูตามธรรมชาติของกันและกันอยู่แล้ว   ผมสัญญาว่าจะสนองพวกคุณทุกคนให้ถึงใจ   แต่ก่อนอื่นขอคั่นเวลาสักหน่อยนะครับ”  ปีศาจหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น   ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนก้อง


คลอท  ฟอลทัส!!






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น