ทั้งที่บรรยากาศไม่เป็นใจ ทว่าพ่อบ้านหนุ่มก็ยังตวัดแส้เพื่อบังคับรถม้าให้เคลื่อนออกจากคฤหาสน์
เสียงกีบเท้าอาชาปีศาจกระทบพื้นกรวดดังกุบกับแข่งกับเสียงลมหวีดหวิวและบรรยากาศซึ่งแปรปรวนไม่น่าไว้ใจมากพอที่จะทำให้คนสติดีๆเป็นบ้าได้ ท้องฟ้าสีม่วงซึ่งเคยสงบเงียบเวลานี้ปรากฏเส้นสีทองสว่างวาบนับร้อยแลบแปลบปลาบแล้วฟาดตัวลงสู่พื้นดิน ก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนและแสงเงาวูบวาบ ทว่าท่ามกลางปรากฏการณ์ประหลาดนี้ พ่อบ้านหนุ่มยังคงไม่สะดุ้งสะเทือนแม้จะสัมผัสชัดถึงอันตรายจากอะไรบางอย่าง ภัยร้ายจากใครบางคนซึ่งห่างไกลจากความเป็นปีศาจ ..บางคนที่แตกต่างออกไป
เซบาสเตียนเสยผมดำขลับไปเบื้องหลังพร้อมกับกระตุ้นม้าให้เร่งฝีเท้ามุ่งหน้าเข้าเมือง เรือนกายอันงามสง่าในชุดพ่อบ้านคลุมทับด้วยเสื้อคลุมตัวยาวสีดำนั่งหลังตรงอยู่บนที่นั่งคนขับ ขณะที่ใบหน้างามปานสลักเสลาปราศจากความวิตกกังวล แต่หากจะมีก็เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น.. ไม่อยากให้ปีศาจตนอื่นได้เห็นนายน้อย แม้เพียงแค่มองก็ยังไม่คู่ควร
และเขาอยากควักลูกตาปีศาจตนใดก็ตามที่บังอาจจ้องมองนายน้อยของเขา
“จำไว้นะขอรับ ..ไม่ว่าอย่างไรคุณก็เป็นของผม
ผมคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์...” พ่อบ้านปีศาจรำพึงแผ่วเบากับตนเอง
ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นนายร้องถามมาจากในรถม้า
“นายว่าอะไรนะ ..เซบาสเตียน”
“เปล่าขอรับ นายน้อยคงหูฝาดมากกว่า”
เขาร้องตอบกลับไปพลางตวัดแส้เพื่อเร่งเดินทางให้ไวขึ้น
ถึงอย่างไรนายน้อยของเขาก็ยังเยาว์เกินกว่าจะพร้อมสำหรับเรื่องพรรค์นี้ และแม้ว่าเขาต้องถูกไฟปรารถนาแผดเผาก้อนเนื้อในอกให้แสบร้อนสักเพียงใดเซบาสเตียนก็ยังพร้อมที่จะรอ พร้อมที่จะเฝ้าดูอย่างอดทนจนกว่าจะถึงวันที่ผีเสื้อแสนสวยนามชิเอล แฟนธอมไฮฟ์จะสยายปีกอย่างสง่างามเต็มที่ ครั้งนี้จะไม่ให้คลาดสายตาอีกเลย
เพราะเขาเคยได้รับบทเรียนมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงย่อมไม่มีครั้งที่สอง
“ถึงแล้วขอรับ”
แหล่งชุมชนของเหล่าปีศาจดูไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลยเมื่อเทียบกับมหานครของมนุษย์ซึ่งคับคั่งและเต็มไปด้วยสีสัน ด้วยมันแทบมิต่างอะไรจากสุสาน มิใช่เพราะเงียบงันวังเวง แต่เป็นเพราะตัวอาคารเก่าแก่ ถนนหนทาง
หรือแม้แต่ผู้คนหากมิใช่เป็นสีดำก็เป็นสีเทาหรือเทาเหลือบเงิน ดังนั้นในเวลาหัวค่ำเช่นนี้จึงแลเห็นเพียงเงาดำๆเคลื่อนไหวพลุกพล่านอยู่ภายใต้แสงจันทร์สีม่วงอมแดง พ่อบ้านหนุ่มประคองเจ้านายตัวน้อยลงจากรถม้า ก่อนจะกระชับเสื้อคลุมและฮู้ดคลุมศีรษะให้ชิเอลจนมิดชิด
“ทางที่ดีอย่าเผยใบหน้าให้ใครเห็นจะดีกว่านะขอรับ”
เสียงทุ้มลึกกล่าวเตือนเมื่ออีกฝ่ายพยายามจะปัดมือตนออกแล้วสะบัดฮู้ดที่คลุมมิดให้ออกไปให้พ้นใบหน้า
“แต่งกายอย่างนี้อาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่เชื่อเถิด..
ว่าคุณจะตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของปีศาจที่พร้อมจะแสวงหาความสนุกจากเรือนร่างของคุณได้มากกว่าหนึ่งวิธีการ หากคุณไม่ฟังคำเตือนของผม”
“ทำไม”
น้ำเสียงเจือแววอวดดีนั่นทำให้เซบาสเตียนจ้องลึกเข้าไปยังนัยน์ตาแดงก่ำของผู้เป็นนายก่อนจะถอนหายใจ
จากนั้นก็คว้าข้อมืออีกฝ่ายแล้วพาเดินไปตามตรอกซอกซอยเพื่อให้ได้เห็นด้วยตาตนเอง ทั้งคู่เดินผ่านบรรยากาศครึกครึ้นยามวิกาลของชาวปีศาจที่บ้างก็ดื่มกินกันเฮฮา ตบมือกระทืบเท้าเต้นรำประกอบจังหวะดนตรีแปร่งหู บ้างก็ส่งเสียงร้องโหยหวนแล้วลงไปนอนดิ้นพราดๆอยู่กับพื้นด้วยท่าทางแปลกๆเหมือนกำลังมึนเมาขนาดหนัก
บางรายนั้นลืมตัวสนุกสุดเหวี่ยงจนถึงขนาดโผล่ทั้งหูทั้งหางออกมาโบกสะบัดไปมาแล้วลงคลานสี่ขาพร้อมทั้งเห่าหอน ขณะที่บางส่วนกำลังหาความสุขใส่ตัวกันเป็นคู่ๆหรือมากกว่านั้นด้วยวิถีทางซึ่งเกินกว่าจินตนาการลามกสุดโต่งของคนทั่วไป
โดยไม่แคร์ว่าอีกฝ่ายจะเป็นปีศาจต่างเผ่าพันธุ์หรือต่างเพศกันรึไม่
ชิเอลเบิกตากลมโตจ้องมองดูภาพ
‘สุดเหวี่ยง’ของผู้คนรอบข้างที่ต่างก็กระทำกิจส่วนตัวในที่โล่งแจ้งอย่างมิได้ละอายสายตาผู้ใดทั้งสิ้นอย่างตกตะลึง
ขณะที่พ่อบ้านหนุ่มซึ่งเดินเคียงข้างไม่ห่างเอ่ยเสียงเรียบ
“นี่เป็นเรื่องปกติของพวกเรา”
“ต่ำช้า..”
เซบาสเตียนเหยียดยิ้มเมื่อน้ำเสียงส่อแววรังเกียจเล็ดลอดจากปากผู้เป็นนาย อุ้งมือใหญ่กำกระชับรอบข้อมือที่เล็กกว่าแล้วพาออกเดินอีกครั้ง
พลางใช้ร่างสูงเพรียวของตนบดบังมิให้เจ้านายตัวน้อยเป็นจุดสนใจ
...แต่ที่ต้องมารับรู้เรื่องพรรค์นี้ก็ล้วนมาจากการตัดสินใจของคุณทั้งนั้นมิใช่หรือขอรับ นายน้อย...
“ฉันอยากกลับบ้านแล้ว”
“เราคือปีศาจ” เขาบอกพลางชำเลืองมองอีกฝ่าย
“คุณคงไม่คิดว่าเราจะทำแต่เรื่องเคร่งศีลธรรมเป็นต้นว่าไม่กล้าแม้แต่จะบี้แมลงสักตัวเพราะกลัวบาปหรอกนะขอรับ”
ใบหน้าแดงก่ำของชิเอลเรียกรอยยิ้มให้ปรากฏขึ้นบนเรียวปากของปีศาจหนุ่ม
“ในเมื่อนายน้อยมาถึงแล้วก็โปรดมองดูแล้วทำความเข้าใจเสียเถอะขอรับ
พวกเรามิใช่เทวดา.. เราเอาแต่ใจ
เรามีกิเลสตัณหามีความหลงใหลซึ่งหากปรารถนาสิ่งใดแล้วก็พร้อมที่จะช่วงชิงมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็สามารถกระทำได้โดยไม่ลังเลเพื่อตอบสนองความพึงพอใจ ..นี่คือปีศาจ
และอย่างที่นายน้อยได้เห็นแล้ว ปีศาจนั้นมีอยู่หลายระดับซึ่งก็มีทั้งพลังอำนาจและรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป
บางพวกที่เป็นปีศาจชั้นต่ำอย่างเช่นเจ้านั่น...”
เซบาสเตียนชี้ไปที่ปีศาจหนุ่มผิวสีทองแดงที่มีขนรุงรังตนหนึ่งซึ่งกำลังอยู่ในท่าคลานสี่ขาโดยมีปีศาจอีกตนประกบชิดโรมรันพันตูอยู่ด้านหลัง
“นั่นเป็นตัวอย่างของปีศาจชั้นต่ำซึ่งกินเลือดเนื้อและสิ่งปฏิกูลมนุษย์เป็นอาหาร ต่างจากพวกชั้นสูงที่มีความงดงามกว่าอย่างเราที่สามารถกลืนกินดวงวิญญาณของมนุษย์ได้”
พ่อบ้านหนุ่มลอบสังเกตสีหน้าขยะแขยงของผู้เป็นนายที่ซุกซ่อนมิดชิดอยู่ในฮู้ดดำสนิทอย่างขบขัน ก่อนจะพาหันหลังกลับเตรียมจะไปขึ้นรถม้า ทว่าขณะที่กำลังจะส่งชิเอลขึ้นรถเรื่องไม่คาดคิดก็อุบัติขึ้น
สายลมเย็นเยียบที่พัดมาวูบหนึ่งทำให้ฮู้ดคลุมศีรษะเด็กหนุ่มเลื่อนหลุดไป
เผยดวงหน้าคมไร้ที่ติกับเรือนผมดำขลับซึ่งต้องแสงรัตติกาลเป็นเงางามออกมาในที่สุด และมันสายเกินไปที่จะบดบังความงามพิสุทธิ์นั้นจากสายตาตนอื่นๆ วินาทีนั้นเซบาสเตียนก็ถึงกับเกร็งร่างขึ้นเตรียมสู้เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างพึงพอใจดังมาจากรอบทิศ
นัยน์ตาคมกริบกวาดมองไปทั่วอย่างระแวดระวังก่อนจะถือวิสาสะรวบร่างน้อยเข้าสู่วงแขนแล้วอุ้มลอยขึ้นจากพื้น
“อะไร..”
“ชู่ว.. รีบกลับกันเถอะขอรับ” ปีศาจหนุ่มรีบตัดบทก่อนจะดีดตัวขึ้นจากพื้น นาทีเดียวกับที่ฝูงปีศาจหื่นกระหายยื่นมือเข้ามาไขว่คว้าตัวชิเอล
...นายน้อยของผม จะไม่ยอมให้ปีศาจต่ำช้าพวกนั้นหรอก...
มีดดินเนอร์สีเงินวาววับหลายสิบเล่มพุ่งเข้าสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำ
และตรึงแน่นอยู่ที่ลูกตาหรือไม่ก็แขนขาที่ยื่นเข้ามาอย่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง
เซบาสเตียนฉวยโอกาสนี้ขับรถม้าหนีทิ้งให้ปีศาจทั้งฝูงส่งเสียงร้องคำรามอย่างเจ็บปวดอยู่เบื้องหลัง
ทว่าเขารู้ดี.. พวกมันจะไม่มีวันเลิกรา

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น