8/01/2555

Diabolic Obligation 1






นายน้อย..  

ได้เวลาตื่นแล้วขอรับ..


ในห้วงฝันเลือนรางที่มิอาจจดจำได้   เสียงทุ้มลึกที่เคยคุ้นของใครบางคนแทรกเข้ามาปลุกร่างน้อยที่หลับสนิทอยู่บนเตียงนอนหรูให้รู้สึกตัวตื่น   เรียวคิ้วบางขมวดมุ่นอย่างขัดใจ   และคงจะตั้งหน้าตั้งตาหลับต่อหากไม่มีเสียงเรียกครั้งที่สอง   คนถูกรบกวนลืมตาขึ้นช้าๆพลางบิดกายแล้วหาวออกมา   ส่งผลให้ผ้าห่มดำสนิทบนร่างเลื่อนหลุด   เผยให้เห็นผิวกายเรียบลื่นประดุจงาช้างตัดกันกับอาภรณ์สีดำซึ่งแบะอ้าอยู่   ทำให้นวลเนื้อเนียนซึ่งโผล่พ้นชุดนอนถูกแสงสีม่วงอมแดงที่สาดเป็นลำเข้ามาทางหน้าต่างห้องอาบไล้จนแลดูงดงามแปลกตา   กระตุ้นให้ผู้พบเห็นอดน้ำลายสอไม่ได้

“อือม์  ..เช้าแล้วหรือ  เซบาสเตียน” ด้วยยังไม่หายง่วงงุน   ชิเอล  ผู้นำแห่งตระกูลแฟนธอมไฮฟ์  จึงยังจับต้นชนปลายไม่ถูก  


“สายัณห์สวัสดิ์ต่างหากขอรับนายน้อย   นี่ก็ใกล้ทุ่มแล้ว   สมควรตื่นนอนเสียที” คำอธิบายที่เจือแววขบขันน้อยๆทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกตัว


ที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์ตระกูลแฟนธอมไฮฟ์    ยิ่งกว่านั้นเจ้าของคฤหาสน์ก็มิใช่เขา   แต่กลับกลายเป็นบุรุษในชุดทักสิโด้ซึ่งยืนนิ่งอยู่ที่ริมหน้าต่างพร้อมด้วยรอยยิ้มน้อยๆมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว    พ่อบ้านปีศาจเก็บนาฬิกาพกใส่กระเป๋าแล้วรวบชายผ้าม่านที่หน้าต่างเก็บพลางปล่อยให้แสงสว่างจากเบื้องนอกส่องเข้ามาในห้อง   ก่อนจะหันกลับมายังเจ้านายตัวน้อยซึ่งขณะนี้พยุงตนเองขึ้นมานั่งโงนเงนที่ขอบเตียงรอให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและดูแลเรื่องทั่วๆไปให้   และเนื่องจากชิเอลเปลี่ยนสภาพเป็นปีศาจ   ไม่มีความต้องการเรื่องอาหารอีกแล้วเขาจึงไม่มีความจำเป็นต้องตระเตรียมของว่างให้   ดังนั้นงานอื่นๆนอกเหนือจากนั้นจึงสุดแท้แต่ผู้เป็นนายจะบัญชา   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสเพียงใดก็มิเคยเกี่ยง  

ในฐานะพ่อบ้านปีศาจประจำตัวของชิเอล   แฟนธอมไฮฟ์   เขา..   เซบาสเตียน  มิคาเอลลิส   มีพันธะที่ต้องอยู่รับใช้ข้างกายหนุ่มน้อยผู้นี้ไปชั่วนิรันดร์โดยไม่มีสิทธิ์พอใจหรือไม่พอใจกับเรื่องใดๆทั้งสิ้น   และมีหน้าที่ทำตามคำสั่งผู้เป็นนายเท่านั้น   ทั้งๆที่ปีศาจระดับสูงเช่นเขา..   ได้ผ่านการทำพันธะสัญญาและกลืนกินวิญญาณมนุษย์มากมายมาตลอดหลายศตวรรษ   แต่กลับต้องติดอยู่ภายใต้คำสาปยาวนานชั่วกัลปาวสานจากน้ำมือของวิญญาณดวงหนึ่ง   ที่ไปทำสัญญากับปีศาจตนอื่นเพื่อเปลี่ยนนายน้อยของเขาให้กลายเป็นปีศาจซึ่งจะมีชีวิตยืนยาวไปอีกหลายพันปี   และไม่อาจถูกปีศาจด้วยกันกลืนกินดวงวิญญาณได้อีกต่อไป   เป็นเหตุให้เซบาสเตียนไม่สามารถเป็นอิสระได้อีกเลย   และประตูสู่อิสรภาพของเขาก็ถูกปิดตายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาและนายน้อยย้ายถิ่นฐานจากลอนดอนกลับมายังที่ที่ควรอยู่    ..ที่ซึ่งเหมาะสมยิ่งกว่าอังกฤษหรือที่ไหนๆ   ..ดินแดนของเหล่าปีศาจ   สถานที่ซึ่งอยู่คนละห้วงมิติกับโลกมนุษย์นี้ช่างเหมาะสมอย่างยิ่งกับการเป็นที่พำนักชั่วนิรันดร์ของพวกเขาทั้งสอง   บรรยากาศอันหนาวยะเยือกที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งไกลลิบเสียจนไม่ต้องจินตนาการถึงการมีมนุษย์เข้ามาอยู่   ทะเลสาบสีแดงขนาดมหึมาจำนวนนับไม่ถ้วนและแผ่นดินที่ปราศจากพืชพรรณ   ตลอดจนท้องฟ้าสีม่วงกับดวงจันทร์แดงก่ำดุจโลหิตไม่มีสิ่งใดชวนให้นึกถึงลอนดอนที่ทั้งคู่เพิ่งจากมา   ทว่าเซบาสเตียนกลับคิดถึงบรรยากาศเหล่านี้นัก   เขาคิดถึงช่วงเวลาแห่งความสุขสงบที่ได้กลับมาอยู่ที่นี่ยามที่ไร้พันธะกับมนุษย์นานๆครั้ง    

“คืนนี้จะทำอะไรดีขอรับ” ปีศาจหนุ่มเอ่ยถามขณะที่สวมรองเท้าบูทยาวหุ้มแข้งให้ผู้เป็นนาย   นัยน์ตาสีทับทิมหลุบต่ำลงยังตำแหน่งที่มือทั้งสองทำงานอยู่  

“กำหนดการทั้งหมดฉันจะเป็นคนกำหนดเอง” หนุ่มน้อยบอกพลางขยับลุกขึ้นยืน 


“จริงสิ  ..ไปเดินเล่นในเมืองสักหน่อยท่าจะดี   เตรียมรถม้าให้ด้วย” 

ปีศาจหนุ่มได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ   น้ำเสียงนุ่มหูที่ยังมิทันแตกหนุ่มเต็มที่ของชิเอลช่างมีเสน่ห์นัก   พักตร์งาม   นัยน์ตาคมที่ทรงอำนาจและผิวพรรณขาวหมดจดอีกทั้งท่วงท่างามสง่าสมฐานะผู้นำตระกูลนั่นก็เช่นกัน    และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบคิดอะไรฟุ้งซ่านนัก   ทว่าก็ยังอดระแวงมิได้..   หากปีศาจตนอื่นได้พบนายน้อยของตนเข้าจะเกิดอะไรขึ้น   อันที่จริงแล้วเขาอดหวงนายน้อยมิได้จริงๆ   ทว่าเซบาสเตียนก็ไม่มีทางเลือกนอกจากก้มศีรษะรับคำสั่ง    ก่อนจะยืดกายขึ้นแล้วหมุนร่างออกไปจากห้องพลางคิดคำนึงถึงดวงวิญญาณล้ำค่าในร่างเล็กๆซึ่งตนจะไม่มีวันได้ครอบครอง   รวมทั้งปีศาจตนอื่นด้วย


..ช่างน่าเสียดายนัก...

พ่อบ้านปีศาจได้แต่เก็บความขมขื่นไว้ในใจเงียบๆ   ทั้งๆที่ความผิดหวังซึ่งตนแบกรับอยู่นั้นรุนแรงมากเสียจนแทบจะทำให้เขาระเบิดโทสะจมเกาะอังกฤษทั้งเกาะด้วยซ้ำไป    เพราะเฝ้าทะนุถนอมฟูมฟักมาอย่างดี   จึงต้องเจ็บปวดถึงเพียงนี้   เรื่องที่ชิเอลกลายเป็นปีศาจและทำให้เขาต้องลดตัวกลายเป็นข้ารับใช้ของปีศาจนั้นมันเกินคาดจริงๆ

...แต่ช่วยไม่ได้   เปล่าประโยชน์ที่จะคิด

ในเมื่อมันมิใช่ความผิดของนายน้อย   แล้วเขาจะระเบิดโทสะใส่นายน้อยไปเพื่ออะไร...



.................................................................


..นี่มันอะไรกัน

ความไม่สบายใจนี่...


พ่อบ้านหนุ่มยืนนิ่งอยู่ที่หน้าคฤหาสน์ของตนเอง   พลางขมวดคิ้วยุ่งเมื่อสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในบรรยากาศขณะที่กำลังเตรียมรถม้าให้ผู้เป็นนาย   ท้องฟ้าสีม่วงยามค่ำคืนดูแปรปรวนอย่างแปลกประหลาด   อะไรบางอย่างที่ทรงพลังอย่างยิ่งกำลังมา..  จิตใต้สำนึกบอกเขาเช่นนั้น   นัยน์ตาแดงยิ่งทอประกายวาวอย่างเป็นกังวลมากขึ้นเมื่อสังเกตเห็นถึงอาการแตกตื่นลนลานของอาชาไร้เศียรทั้งหกตัว   พวกมันทั้งสะบัดตัวทั้งส่งเสียงคำรามอย่างไม่สบายใจ   พละกำลังมหาศาลของม้าปีศาจทั้งหกทำให้ตัวรถโคลงเคลงอย่างแรงจนเซบาสเตียนต้องรีบปลอบมันก่อนที่จะพากันวิ่งเตลิดหนีไป  

“เอาล่ะ  ..ใจเย็นๆ   ไม่มีอะไรทั้งนั้น”


“มันเป็นอะไร”

เซบาสเตียนชะงักเมื่อผู้นำน้อยแห่งแฟนธอมไฮฟ์เอ่ยถามขึ้นจากเบื้องหลัง   ชิเอลยังคงสีหน้าเรียบเฉยแม้จะเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติจากสภาพรอบกาย   ร่างเพรียวบางในอาภรณ์แบบสุภาพบุรุษปีศาจเอนพิงกรอบประตูพลางยกแขนขึ้นกอดอกแล้วแหงนมองท้องฟ้า   และนั่นทำให้พ่อบ้านปีศาจเผยอรอยยิ้มออกมา


“ดูท่าคุณเองก็คงรู้สึกถึงอันตรายเช่นกันสินะขอรับ   แล้วยังยืนกรานจะออกไปข้างนอกหรือเปล่า”

“นายมีหน้าที่ปกป้องฉันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ  เซบาสเตียน” 

ปีศาจหนุ่มเผยรอยยิ้มกว้างขวางมากขึ้นเมื่อได้เห็นดวงหน้าที่เชิดขึ้นอย่างดื้อรั้นและไม่แคร์   ราวกับนายน้อยคนเดิมที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นจะเอาชนะกลับมาแล้วกระนั้นแหละ   และถึงแม้จะเป็นเพียงเสี้ยวพริบตา   ทว่าเขาก็มั่นใจว่าตนเห็นนัยน์ตาแดงก่ำของผู้เป็นนายแปรเปลี่ยนเป็นสีฟ้าสดใสอยู่แวบหนึ่งก่อนจะกลับเป็นสีแดงตามเดิม   เพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ใจเต้นแรง


...ต้องอย่างนี้สิ   ถึงจะสมเป็นนายน้อยของผม..


Yes, my Lord




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น