ไม่เข้าใจจริงๆ...
...เขาไม่ใช่ท่านหญิงเดเจลแต่เขาเป็นผู้ชาย เหตุใดจึงไม่มีใครสนใจจะฟัง
คนเหล่านั้นแยกแยะความแตกต่างระหว่างชายหญิงไม่ออกหรือไร..
และเวลาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียวจริงล่ะหรือ....
อควอเรียสหนุ่มน้อยพยายามคิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมด้วยท้องไส้ที่หดเกร็งด้วยความเครียด เป็นความผิดของเขาเองที่เผลอใจเพลิดเพลินไปกับสถานการณ์รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างตนกับคาร์เดีย
หลังจากเกิดเรื่องกระทบกระทั่งกันในวันนั้นแล้วอีกฝ่ายก็ไม่มีที่ท่าจะแสดงพฤติกรรมหยาบคายเช่นนั้นอีก
แต่การได้รับการดูแลเอาใจใส่จากชายหนุ่มและอยู่แต่ในเคบินถึงสามวันทำให้คามิวลืมสำรวจตนเองไปสนิท
และเขาพลาดพลั้งเรื่องสำคัญที่สุดไปอย่างไม่น่าให้อภัย
...นี่มันหมายความว่ายังไง...
คามิวยืนอยู่หน้ากระจกเงาพลางชะโงกหน้าเข้าไปจนเกือบชิด มันเกิดอะไรขึ้นกับแนวเคราบริเวณสันกรามของเขา ทั้งๆที่เวลาผ่านไปถึงสามวันทว่าใบหน้าเขากลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มเคยชินกับการโกนหนวดอย่างน้อยวันเว้นวันมาตั้งแต่สองปีที่แล้ว และกับวัยสิบสี่ย่างสิบห้าอย่างเขา.. เป็นไปได้อย่างไรที่หนวดเคราจะไม่งอกยาว หรือว่าเวลาจะหยุดเดินนับตั้งแต่นาทีที่เขาถูกโยนลงมาทีนี่...
..หากเป็นเช่นนั้นจริง
ตราบใดที่เขายังติดอยู่ที่นี่ร่างกายของเขาก็คงไม่มีการเจริญเติบโตสินะ
เรื่องทุกอย่างชักจะไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว...
เสียงกระพือปีกที่หน้าต่างเคบินส่งผลให้คามิวยิ้มออก เจ้าฮอร์ค..
เหยี่ยวคู่ใจของคาร์เดียแวะมาเยี่ยมเยียนเหมือนที่เคยเป็นทุกวัน เด็กหนุ่มดึงหนังสือเล่มใหม่ออกจากจงอยปากสีดำพร้อมกับตบหัวมันอย่างรักใคร่
ถึงแม้ฮอร์คจะเป็นต้นเหตุที่นำพาให้เขามาพบกับเหตุการณ์แปลกประหลาดทว่าคามิวกลับมิได้คิดโกรธเคืองมัน เขาอาจมีความจำเป็นที่จะต้องมาที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ยากต่อการอธิบาย หนุ่มน้อยบิขนมปังกรอบออกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วยื่นให้กับนกเหยี่ยวเป็นรางวัล คามิวค่อนข้างแน่ใจว่าคาร์เดียเป็นผู้สอนสั่งให้มันคาบหนังสือเข้ามาให้อ่านทุกวันและนี่คงเป็นวิธีการเอาอกเอาใจอย่างหนึ่งที่คนๆนั้นมีให้กับตน บางครั้งการมีสัตว์ตัวเล็กๆเช่นนี้อยู่เป็นเพื่อนก็ทำให้เขาคลายเหงาได้มากทีเดียว
ทว่าทุกอย่างที่ดูจะไปได้สวยกลับพังทลายลงในพริบตา สถานการณ์ที่ดูไม่ชอบมาพากลเริ่มส่อแววว่าจะเลวร้ายลงอีกในนาทีที่คาร์เดียเข้ามาในเคบินและแสดงให้เขาเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของดินแดนประหลาดแห่งนี้
“ไปซะ ฮอร์ค”
โจรสลัดหนุ่มเอ่ยปากไล่เพื่อนคู่หู
ทว่าแทนที่นกเหยี่ยวจะบินกลับออกไปทางหน้าต่างมันกลับหุบปีกแนบลำตัวแล้วสูญสลายกลายเป็นละอองหมอกสีเงิน คามิวถึงกับผงะกับสิ่งที่เห็น มันเกิดอะไรขึ้น...
“เปล่า.. ผมไม่ได้ฆ่ามัน” คาร์เดียตอบเสียงเรียบ “แต่เดิม
ฮอร์คก็เกิดจากความนึกคิดที่ต้องการจะมีเหยี่ยวสักตัวไว้เป็นเพื่อนอยู่แล้ว ดังนั้นผมสามารถเรียกมันออกมาหรือลบมันทิ้งตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น”
ชายหนุ่มก้าวเข้ามาใกล้เมื่อสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายใบหน้าซีดเผือด “ในเมื่อสิ่งที่ผมทำก็เป็นเรื่องปกติแล้วคุณตกใจอะไรหรือครับ ท่านหญิงเดเจล”
“ข้าไม่ใช่ผู้หญิง.. และก็ไม่ใช่คู่หมั้นของท่านด้วย จะต้องทำอย่างไรท่านถึงจะเข้าใจ” เป็นอีกครั้งที่คามิวย้ำอย่างหนักแน่นพลางถอยหลังไปก้าวหนึ่ง นัยน์ตาจับจ้องอยู่ที่ชุดยาวสีฟ้าอ่อนที่พาดอยู่บนต้นแขนชายหนุ่มอย่างหวาดๆ คาร์เดียถอนหายใจแล้วนิ่งฟังอย่างอดทนพร้อมด้วยสีหน้าที่ราวกับกำลังฟังเด็กเล็กๆเล่านิทาน
“ถ้าเช่นนั้นคุณก็ควรจะมีหน้าอกแบนราบแล้วก็มีลูกกระเดือกที่ตรงนี้” ชายหนุ่มชี้ไปที่ลำคอตนเอง “ทว่าที่ผมมองเห็นมันกลับไม่เป็นอย่างนั้น.. ลำคอของคุณยังคงขาวนวลน่าสัมผัสรวมทั้งส่วนอื่นๆด้วย ขอโทษนะครับ
ผมไม่ได้เจตนาจะสังเกตทรวดทรงของคุณจนเกินงาม
ทว่าก็คงต้องชี้ให้เห็นว่าคุณนั้นเลยวัยที่จะเล่นซุกซนแบบเด็กผู้ชายแล้วล่ะครับ คุณผู้หญิง”
คามิวรีบกุมรอบลำคอตนเองเพื่อคลำหาลูกกระเดือก และพริบตานั้นเด็กหนุ่มก็ยิ่งใจหายมากกว่าเดิมเมื่อเขาหามันไม่พบ
ทว่าคาร์เดียกลับสิ่งยิ้มมาให้ก่อนจะคว้าหลังมือนุ่มขึ้นจุมพิต
“ผมจะให้คนนำน้ำร้อนเข้ามาให้คุณอาบ
ทว่าบนเรือลำนี้ไม่มีผู้หญิงอยู่เลยดังนั้น.. ผมจะทำหน้าที่สาวใช้ประจำตัวให้คุณเอง”
ชายหนุ่มจบคำก่อนจะหันไปเปิดประตูเคบิน
กลาสีสองนายยกอ่างไม้เข้ามาตั้งกลางห้องพร้อมด้วยน้ำร้อนซึ่งกำลังได้ที่แล้วกลับออกไปอย่างรวดเร็วพอๆกัน ไอน้ำที่ลอยกรุ่นขึ้นมาจากอ่างนั้นชวนให้อยากยื่นมือลงไปสัมผัสเหลือเกินและคามิวไม่แคร์... เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อตัวหลวมที่สวมอยู่ออกโดยไม่สนใจสายตาแทะโลมของบุรุษร่างสูงซึ่งยืนนิ่งอยู่ที่ข้างประตูโดยสวมบทบาทเป็นพี่เลี้ยง
...บางทีนี่อาจเป็นวิธีสุดท้ายที่จะพิสูจน์ให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาเป็นผู้ชาย
เรื่องบ้าๆนี่จะได้จบเสียที...
ทว่าทันทีที่ผิวกายเปล่าเปลือยปรากฏต่อสายตาคามิวก็รีบตะครุบสาบเสื้อไว้แทบไม่ทัน หนุ่มน้อยสะดุ้งเฮือกหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู พลางรู้สึกว่าความร้อนจากใบหน้าพุ่งจี๊ดขึ้นสู่สมองในนาทีที่เหลือบเห็นทรวงอกงามสล้างอยู่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่
“น.. นี่มัน.. ได้ยังไง ..ตั้งแต่เมื่อไหร่” ความตื่นตระหนกทำให้คามิวพึมพำแทบไม่เป็นภาษา ก่อนจะกลั้นใจก้มลงมองเข้าไปข้างในเสื้ออีกครั้ง
ร่างงามยืนโงนเงนงุนงงกับภาพที่เห็น ก่อนจะเสียหลักหงายหลังโครมลงไปในอ่างอาบน้ำ
“ท่านหญิง!!”
พี่เลี้ยงจำเป็นรีบเหวี่ยงชุดในมือทิ้งแล้วปราดเข้าไปพยุงคามิวขึ้นมาจากน้ำ และชั่วขณะนั้นนัยน์ตาสีเทาก็พลันเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นด้วยแรงปรารถนาเมื่อได้เห็นสภาพล่อแหลมต่อสายตาของคู่หมั้นคนงาม ร่างแบบบางที่สั่นระริกอยู่ในอ้อมแขนเขาเต็มไปด้วยหยดน้ำเกาะพราวทั้งตัว ผิวเนื้อนวลเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อเมื่อถูกความร้อน เสื้อขาวที่เปียกน้ำชุ่มฉ่ำจนแนบติดกับเรือนร่างรึก็บางใสจนมองเห็นภายใน คาร์เดียไม่อาจลละสายตาไปจากดวงหน้างามพิสุทธิ์ที่กำลังตื่นตกใจ และหัวใจของเขามิได้สร้างจากอิฐหินดินทรายจึงจะไม่สนใจสิ่งสวยงามเหล่านี้
“ถ้าหากว่าคุณกำลังพยายามจะยั่วผมอยู่ล่ะก็.. ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ” โจรสลัดหนุ่มปัดริมฝีปากผ่านใบหูแล้วขบเม้มเบาๆที่ต้นคอ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วก้าวไปที่เตียงนอนพร้อมด้วยคามิวที่ตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขน
คาร์เดียวางร่างแบบบางลงบนเตียงแล้วเอนกายทาบทับลงไป
ชายหนุ่มประทับจุมพิตลงบนเรียวปากที่ปิดสนิทแน่นอย่างไม่ยินยอมพร้อมด้วยความตั้งใจที่จะปราบพยศแม่ตัวดีให้ยอมศิโรราบ แต่แล้วเขาก็ต้องถอนหายใจกับอาการดิ้นรนอย่างดื้อดึงของอีกฝ่าย
เสียงร้องอู้อี้และอาการต่อสู้ขัดขืนของคามิวทำให้คาร์เดียยอมรามือในที่สุด
“คุณทำให้ผมคลั่ง...
คุณผู้หญิง” คาร์เดียตำหนิ นัยน์ตาสีเทาเข้มจ้องมองทรวงอิ่มงามที่สะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหอบหายใจอย่างแสนเสียดาย
“ผมไม่ชอบใช้กำลังบังคับขืนใจใคร
และหากว่าคุณไม่ยินยอมที่จะเป็นของผมในตอนนี้ ก็ไม่ควรท้าทายผมด้วยวิธีนั้น”
เขาเบือนหน้าหนีก่อนจะขยับกายถอยห่างแล้วลุกขึ้นนั่ง ขณะที่คามิวไม่รู้ว่าตนควรทำอย่างไรดีในเวลาเช่นนี้
เขาไม่แน่ใจว่าตนเองควรจะกล่าวคำขอโทษหรือต่อว่าดี เขาไม่เคยมีเจตนาจะยั่วยวน.. เพียงแค่ต้องการแสดงหลักฐานให้อีกฝ่ายเห็นเท่านั้น..
ว่าเขามิใช่ท่านหญิงซึ่งเป็นคู่หมั้นของคาร์เดีย
ทว่าในพริบตาที่ทั้งคู่สบตากัน
ความเจ็บปวดที่ฉายชัดอยู่ในแววตาของชายหนุ่มกลับพาให้คามิวต้องใจเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จำต้องพูดความจริง
“ได้โปรดเชื่อข้า..
ข้าคืออควอเรียส คามิว ไม่ใช่เดเจลคนรักของท่าน
ข้ามาจากที่ซึ่งอยู่ไกลแสนไกลและก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร...
นกเหยี่ยวตัวนั้นเป็นผู้นำทางให้ข้ามาที่นี่”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น