คามิวเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ทั้งกลิ่นไม้จากตัวเรือและเครื่องเรือน ทั้งภาพท้องทะเลยามต้องแสงตะวันเป็นประกายระยิบระยับและระลอกคลื่นกับฟองขาวเนียนละเอียด ตลอดจนจังหวะโคลงของเรือตอกย้ำให้เชื่อว่าไม่ได้ฝันไป หากตนได้ประสบกับเหตุการณ์สุดพิสดารเข้าแล้ว
เด็กหนุ่มไม่ได้พบหน้ากัปตันเดรคตั้งแต่เมื่อคืนวานเมื่ออีกฝ่ายออกปากยกเคบินส่วนตัวให้เขาใช้ มีเพียงรองกัปตัน เอริโก..
บุรุษผู้ช่วยตนขึ้นมาจากทะเลเป็นผู้ยกถาดอาหารเช้าเข้ามาให้เท่านั้น
เอริโกหัวเราะเสียงดังเมื่อคามิวถามถึงเจ้าของเคบิน
“คุณผู้หญิงอย่าได้กังวลไปเลยครับ
การที่เดรคใช้เคบินของผมแทนในขณะที่ผมขึ้นไปนอนบนดาดฟ้าเรือกับพวกกลาสีเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเรา”
ชายหนุ่มยิ้มพลางขยิบตาให้ “คุณควรจะรู้ไว้นะครับ เดรคตั้งใจที่จะปกป้องเกียรติและชื่อเสียงของคุณให้ขาวสะอาดจนกว่าจะถึงวันแต่งงานจริงๆ”
อควอเรียสหนุ่มน้อยได้แต่กระพริบตาปริบๆ บุรุษผู้น่าเกรงขามคนนั้นมีความคิดลึกซึ้งถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ถึงแม้ภายนอกจะดูดิบเถื่อนแต่งกายมอซอไว้หนวดไว้เคราทว่าคนๆนั้นกลับมีน้ำใจงามอย่างคาดไม่ถึง ความคิดนั้นทำให้คามิวไม่อยากขังตนเองให้อยู่แต่ในเคบินทั้งวัน
เขาได้ยินเสียงพวกกลาสีทำงานกันอยู่บนดาดฟ้าและคิดจะโผล่หน้าขึ้นไปดูเผื่อจะช่วยแบ่งเบาภาระได้บ้าง เด็กหนุ่มลงมือรื้อค้นเสื้อผ้าในกล่องไม้ก่อนจะพบเสื้อขาวตัวหลวมโคร่งกับกางเกงเข้ารูป ทว่าทันทีที่พวกลูกเรือแลเห็นเขาเข้าก็พากันหน้าถอดสีไปตามๆกัน
ยิ่งเมื่อหนุ่มน้อยออกปากจะช่วยงานแต่ละคนต่างก็รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ได้โปรดรีบกลับลงไปเถอะครับคุณหนู
หากกัปตันพบว่าคุณขึ้นมาบนนี้ตามลำพังท่านจะต้องโกรธมากทีเดียว และพวกกระผมจะถูกดุ” คามิวไม่ใส่ใจต่อคำเตือนของกลาสีเฒ่า ในเมื่อเขามองไม่เห็นอันตรายอันใดจากการขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์บนดาดฟ้าเรือ แต่หากว่าการปรากฏตัวของเขาจะทำให้พวกลูกเรือเดือดร้อนคามิวก็ยินดีจะกลับลงไปอยู่ในเคบินอย่างว่าง่าย
เด็กหนุ่มสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดพลางหันหลังกลับและต้องตะลึงงัน
เดรคยืนนิ่งอยู่ปลายอีกด้านหนึ่งของดาดฟ้าพร้อมด้วยนัยน์ตาสีเทาเปล่งประกายเย็นเยียบ
ทว่าเพียงเท่านั้นยังมิอาจหยุดการเคลื่อนไหวของคามิวได้ หนุ่มน้อยตะลึงมองรูปลักษณ์ใหม่ที่เปลี่ยนหัวหน้าโจรสลัดผู้น่าเกรงขามให้กลายเป็นคนละคน
บนศีรษะของเดรคมิได้เต็มไปด้วยเปียเส้นเล็กๆอีกต่อไปเมื่อเขาหวีจัดทรงและรวบมันจนเรียบตึงขณะที่ปลายผมหยักศกด้านหลังทิ้งชายยาวระสะโพกแกร่ง ใบหน้าคมเข้มแลดูสะอาดสะอ้านปราศจากหนวดเคราพร้อมด้วยต่างหูทองคำที่ขับสีของดวงตาให้ยิ่งกระจ่างชัด อีกทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ก็งดงามพิถีพิถันราวกับผู้ดี
“เดรค..”
“คุณขึ้นมาทำอะไรบนนี้ไม่ทราบ..
คุณผู้หญิง”
คำถามห้วนสั้นที่เเสดงออกถึงความไม่สบอารมณ์ส่งผลให้คามิวต้องประหลาดใจ “การที่ข้าขึ้นมาสูดอากาศมันผิดตรงไหน”
ราวกับเป็นการเติมเชื้อให้กับกองไฟ
คามิวถึงกับร้องอุทานเบาๆ เมื่อเดรคไม่ตอบคำถามหากตรงรี่เข้ามารวบร่างตนขึ้นพาดบ่าแล้วหันหลังเดินกลับลงไปข้างล่าง
“คุณเสียสติไปแล้วหรือไง!! อุตริแต่งกายด้วยเสื้อผ้าของบุรุษอวดสะโพกและเรียวขาต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้แล้วยังมีหน้ามาถามผมอีกหรือว่าผิดตรงไหน!” คามิวถูกลากกลับเข้ามาในเคบินขณะที่โจรสลัดหนุ่มกระแทกประตูปิดตามหลัง
กรงนิ้วแข็งแรงคว้าต้นแขนแล้วดึงเข้ามาใกล้พลางจ้องตานิ่ง เด็กหนุ่มแลเห็นเพลิงพิโรธลุกโชนอยู่ในแววตาของอีกฝ่าย กระนั้นเดรคกลับมิได้ทำร้ายตนนอกจากต้นแขนที่ถูกบีบแน่น
“การที่คุณหนีออกมาตามลำพังโดยปราศจากสาวใช้ประจำตัวก็ถือเป็นเรื่องไม่สมควรแล้ว
แต่การที่คุณกลับเปิดเผยใบหน้าและเนื้อตัวให้บุรุษเห็นโดยไม่ระวังตัวมันยิ่งเลวร้ายกว่า และในฐานะที่คุณกำลังจะเป็นภรรยาผม..” ชายหนุ่มกระชากมือตนเองกลับพร้อมกับสูดหายใจแรงเพื่อระงับอารมณ์ “ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายสำหรับการทำอะไรโดยปราศจากการยั้งคิด
อย่าให้ใครตำหนิได้ว่าภริยาของท่านคาร์เดียประพฤติตนราวกับหญิงสาวตามท่าเรือ”
อควอเรียสหนุ่มน้อยพลันเดือดเป็นไฟเมื่อได้ฟังคำพูดหยามเหยียด
วินาทีนั้นฝ่ามือขาวเนียนตวัดฟาดใบหน้าคนอวดดีเสียจนผงะหงาย
คนๆนี้กล้าดีอย่างไรถึงพูดจาดูถูกเพศแม่ได้หน้าตาเฉย.. และหากว่าตนเป็นสตรีจริงๆล่ะก็เรื่องนี้ไม่จบเพียงฝ่ามือเดียวแน่ คามิวเกร็งร่างขึ้นอย่างพร้อมจะต่อกร
นัยน์ตาสีฟ้าครามจับจ้องฝ่ายตรงข้ามที่กำลังหันหน้ากลับมาช้าๆ รอยแดงจัดบนแก้มซีกขวาและเพลิงสีเทาเย็นเยียบประหนึ่งจะแช่แข็งได้แม้กระทั่งดวงวิญญาณหาได้ทำให้เขาครั่นคร้าม... ไม่เลยสักนิด
...แน่จริงก็บุกเข้ามา...
หากว่าการเป็นโจรสลัดทำให้เจ้าขาดการอบรมนักข้าคนนี้จะสอนมารยาทให้เอง...
ทว่าโจรสลัดหนุ่มกลับทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง จู่ๆคามิวก็ถูกรวบตัวเข้าสู่วงแขนที่โอบกอดแน่นอย่างไม่ปรานีปราศรัย เดรคประคองใบหน้างามให้เงยขึ้นแล้วกดริมฝีปากตนเองลงบนกลีบปากนุ่มที่เผยอค้างอย่างตกใจ
หนุ่มน้อยไม่เคยเรียนรู้วิธีการตอบโต้แบบนี้มากเท่าๆกับที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
ท่อนแขนที่เงื้อง่าพลันตกลงข้างลำตัวเมื่อเรี่ยวแรงกลับหายไปเฉยๆพร้อมด้วยลมหายใจติดขัด เดรคถอนริมฝีปากออกอย่างช้าๆขณะที่ประคองร่างงามไว้ในวงแขน
“ขออภัย..
ทั้งๆที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่แตะต้องคุณจนกว่าจะถึงวันวิวาห์ของเราแต่ก็ลืมตัวจนได้ พอจะยืนไหวมั้ยครับ” น้ำเสียงกราดเกรี้ยวในทีแรกแปรเปลี่ยนเป็นความนุ่มนวลเมื่อเขาประคองคามิวไปนั่งที่เก้าอี้ ชายหนุ่มถอนหายใจเมื่อสังเกตเห็นดวงหน้างามแดงก่ำจึงคุกเข่าลงแล้วเอื้อมมือเข้าไปกุมทับมือคู่หมั้น
“ไม่ใช่ว่าไม่ปรารถนาในตัวคุณ
แต่เป็นเพราะผมต้องการจะรักและทะนุถนอมคุณให้สมกับที่เฝ้าฝันถึงมานาน
ดังนั้นคราวหน้ากรุณาฟังที่ผมบอก
อย่าเถียง.. เพราะผมไม่ต้องการจะทำร้ายคุณไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น” ชายหนุ่มจบคำพร้อมกับยืดกายขึ้น
“คุณคงเหนื่อยและอยากมีเวลาเป็นส่วนตัวแล้วกระมัง ผมควรจะปล่อยให้คุณพัก”
เขาขยับเตรียมจะออกไปจากเคบินก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้
“ลืมบอกไป... ‘เดรค’ เป็นเพียงฉายาโจรสลัดของผม คุณผู้หญิง…
และว่าทีสามีของคุณไม่ใช่คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า
แต่ผมเป็นขุนนางที่มีเจ้าเหนือหัวดังนั้นกรุณาเรียกให้ถูก ผมชื่อ ‘คาร์เดีย’ และมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับเกียรติให้เรียกผมด้วยชื่อนี้ได้”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น