8/03/2555

Another Portray 2








คามิวเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง   ทั้งกลิ่นไม้จากตัวเรือและเครื่องเรือน   ทั้งภาพท้องทะเลยามต้องแสงตะวันเป็นประกายระยิบระยับและระลอกคลื่นกับฟองขาวเนียนละเอียด   ตลอดจนจังหวะโคลงของเรือตอกย้ำให้เชื่อว่าไม่ได้ฝันไป   หากตนได้ประสบกับเหตุการณ์สุดพิสดารเข้าแล้ว   เด็กหนุ่มไม่ได้พบหน้ากัปตันเดรคตั้งแต่เมื่อคืนวานเมื่ออีกฝ่ายออกปากยกเคบินส่วนตัวให้เขาใช้    มีเพียงรองกัปตัน   เอริโก..   บุรุษผู้ช่วยตนขึ้นมาจากทะเลเป็นผู้ยกถาดอาหารเช้าเข้ามาให้เท่านั้น   เอริโกหัวเราะเสียงดังเมื่อคามิวถามถึงเจ้าของเคบิน

“คุณผู้หญิงอย่าได้กังวลไปเลยครับ   การที่เดรคใช้เคบินของผมแทนในขณะที่ผมขึ้นไปนอนบนดาดฟ้าเรือกับพวกกลาสีเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเรา” ชายหนุ่มยิ้มพลางขยิบตาให้ “คุณควรจะรู้ไว้นะครับ   เดรคตั้งใจที่จะปกป้องเกียรติและชื่อเสียงของคุณให้ขาวสะอาดจนกว่าจะถึงวันแต่งงานจริงๆ”

อควอเรียสหนุ่มน้อยได้แต่กระพริบตาปริบๆ   บุรุษผู้น่าเกรงขามคนนั้นมีความคิดลึกซึ้งถึงเพียงนี้เชียวหรือ     ถึงแม้ภายนอกจะดูดิบเถื่อนแต่งกายมอซอไว้หนวดไว้เคราทว่าคนๆนั้นกลับมีน้ำใจงามอย่างคาดไม่ถึง   ความคิดนั้นทำให้คามิวไม่อยากขังตนเองให้อยู่แต่ในเคบินทั้งวัน   เขาได้ยินเสียงพวกกลาสีทำงานกันอยู่บนดาดฟ้าและคิดจะโผล่หน้าขึ้นไปดูเผื่อจะช่วยแบ่งเบาภาระได้บ้าง   เด็กหนุ่มลงมือรื้อค้นเสื้อผ้าในกล่องไม้ก่อนจะพบเสื้อขาวตัวหลวมโคร่งกับกางเกงเข้ารูป    ทว่าทันทีที่พวกลูกเรือแลเห็นเขาเข้าก็พากันหน้าถอดสีไปตามๆกัน   ยิ่งเมื่อหนุ่มน้อยออกปากจะช่วยงานแต่ละคนต่างก็รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน

“ได้โปรดรีบกลับลงไปเถอะครับคุณหนู   หากกัปตันพบว่าคุณขึ้นมาบนนี้ตามลำพังท่านจะต้องโกรธมากทีเดียว   และพวกกระผมจะถูกดุ”  คามิวไม่ใส่ใจต่อคำเตือนของกลาสีเฒ่า   ในเมื่อเขามองไม่เห็นอันตรายอันใดจากการขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์บนดาดฟ้าเรือ   แต่หากว่าการปรากฏตัวของเขาจะทำให้พวกลูกเรือเดือดร้อนคามิวก็ยินดีจะกลับลงไปอยู่ในเคบินอย่างว่าง่าย   เด็กหนุ่มสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดพลางหันหลังกลับและต้องตะลึงงัน

เดรคยืนนิ่งอยู่ปลายอีกด้านหนึ่งของดาดฟ้าพร้อมด้วยนัยน์ตาสีเทาเปล่งประกายเย็นเยียบ   ทว่าเพียงเท่านั้นยังมิอาจหยุดการเคลื่อนไหวของคามิวได้     หนุ่มน้อยตะลึงมองรูปลักษณ์ใหม่ที่เปลี่ยนหัวหน้าโจรสลัดผู้น่าเกรงขามให้กลายเป็นคนละคน   บนศีรษะของเดรคมิได้เต็มไปด้วยเปียเส้นเล็กๆอีกต่อไปเมื่อเขาหวีจัดทรงและรวบมันจนเรียบตึงขณะที่ปลายผมหยักศกด้านหลังทิ้งชายยาวระสะโพกแกร่ง   ใบหน้าคมเข้มแลดูสะอาดสะอ้านปราศจากหนวดเคราพร้อมด้วยต่างหูทองคำที่ขับสีของดวงตาให้ยิ่งกระจ่างชัด    อีกทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ก็งดงามพิถีพิถันราวกับผู้ดี

“เดรค..”

“คุณขึ้นมาทำอะไรบนนี้ไม่ทราบ..  คุณผู้หญิง”  คำถามห้วนสั้นที่เเสดงออกถึงความไม่สบอารมณ์ส่งผลให้คามิวต้องประหลาดใจ  “การที่ข้าขึ้นมาสูดอากาศมันผิดตรงไหน”

ราวกับเป็นการเติมเชื้อให้กับกองไฟ    คามิวถึงกับร้องอุทานเบาๆ    เมื่อเดรคไม่ตอบคำถามหากตรงรี่เข้ามารวบร่างตนขึ้นพาดบ่าแล้วหันหลังเดินกลับลงไปข้างล่าง

“คุณเสียสติไปแล้วหรือไง!!   อุตริแต่งกายด้วยเสื้อผ้าของบุรุษอวดสะโพกและเรียวขาต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้แล้วยังมีหน้ามาถามผมอีกหรือว่าผิดตรงไหน!” คามิวถูกลากกลับเข้ามาในเคบินขณะที่โจรสลัดหนุ่มกระแทกประตูปิดตามหลัง    กรงนิ้วแข็งแรงคว้าต้นแขนแล้วดึงเข้ามาใกล้พลางจ้องตานิ่ง   เด็กหนุ่มแลเห็นเพลิงพิโรธลุกโชนอยู่ในแววตาของอีกฝ่าย    กระนั้นเดรคกลับมิได้ทำร้ายตนนอกจากต้นแขนที่ถูกบีบแน่น

“การที่คุณหนีออกมาตามลำพังโดยปราศจากสาวใช้ประจำตัวก็ถือเป็นเรื่องไม่สมควรแล้ว   แต่การที่คุณกลับเปิดเผยใบหน้าและเนื้อตัวให้บุรุษเห็นโดยไม่ระวังตัวมันยิ่งเลวร้ายกว่า    และในฐานะที่คุณกำลังจะเป็นภรรยาผม..”  ชายหนุ่มกระชากมือตนเองกลับพร้อมกับสูดหายใจแรงเพื่อระงับอารมณ์   “ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายสำหรับการทำอะไรโดยปราศจากการยั้งคิด   อย่าให้ใครตำหนิได้ว่าภริยาของท่านคาร์เดียประพฤติตนราวกับหญิงสาวตามท่าเรือ” 

อควอเรียสหนุ่มน้อยพลันเดือดเป็นไฟเมื่อได้ฟังคำพูดหยามเหยียด   วินาทีนั้นฝ่ามือขาวเนียนตวัดฟาดใบหน้าคนอวดดีเสียจนผงะหงาย   คนๆนี้กล้าดีอย่างไรถึงพูดจาดูถูกเพศแม่ได้หน้าตาเฉย..   และหากว่าตนเป็นสตรีจริงๆล่ะก็เรื่องนี้ไม่จบเพียงฝ่ามือเดียวแน่    คามิวเกร็งร่างขึ้นอย่างพร้อมจะต่อกร   นัยน์ตาสีฟ้าครามจับจ้องฝ่ายตรงข้ามที่กำลังหันหน้ากลับมาช้าๆ   รอยแดงจัดบนแก้มซีกขวาและเพลิงสีเทาเย็นเยียบประหนึ่งจะแช่แข็งได้แม้กระทั่งดวงวิญญาณหาได้ทำให้เขาครั่นคร้าม...   ไม่เลยสักนิด

...แน่จริงก็บุกเข้ามา...    

หากว่าการเป็นโจรสลัดทำให้เจ้าขาดการอบรมนักข้าคนนี้จะสอนมารยาทให้เอง...


 ทว่าโจรสลัดหนุ่มกลับทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง    จู่ๆคามิวก็ถูกรวบตัวเข้าสู่วงแขนที่โอบกอดแน่นอย่างไม่ปรานีปราศรัย   เดรคประคองใบหน้างามให้เงยขึ้นแล้วกดริมฝีปากตนเองลงบนกลีบปากนุ่มที่เผยอค้างอย่างตกใจ   หนุ่มน้อยไม่เคยเรียนรู้วิธีการตอบโต้แบบนี้มากเท่าๆกับที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป   ท่อนแขนที่เงื้อง่าพลันตกลงข้างลำตัวเมื่อเรี่ยวแรงกลับหายไปเฉยๆพร้อมด้วยลมหายใจติดขัด   เดรคถอนริมฝีปากออกอย่างช้าๆขณะที่ประคองร่างงามไว้ในวงแขน

“ขออภัย..  ทั้งๆที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่แตะต้องคุณจนกว่าจะถึงวันวิวาห์ของเราแต่ก็ลืมตัวจนได้   พอจะยืนไหวมั้ยครับ”  น้ำเสียงกราดเกรี้ยวในทีแรกแปรเปลี่ยนเป็นความนุ่มนวลเมื่อเขาประคองคามิวไปนั่งที่เก้าอี้    ชายหนุ่มถอนหายใจเมื่อสังเกตเห็นดวงหน้างามแดงก่ำจึงคุกเข่าลงแล้วเอื้อมมือเข้าไปกุมทับมือคู่หมั้น  

“ไม่ใช่ว่าไม่ปรารถนาในตัวคุณ   แต่เป็นเพราะผมต้องการจะรักและทะนุถนอมคุณให้สมกับที่เฝ้าฝันถึงมานาน
ดังนั้นคราวหน้ากรุณาฟังที่ผมบอก   อย่าเถียง..  เพราะผมไม่ต้องการจะทำร้ายคุณไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น”  ชายหนุ่มจบคำพร้อมกับยืดกายขึ้น “คุณคงเหนื่อยและอยากมีเวลาเป็นส่วนตัวแล้วกระมัง   ผมควรจะปล่อยให้คุณพัก”  เขาขยับเตรียมจะออกไปจากเคบินก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้

“ลืมบอกไป...  เดรคเป็นเพียงฉายาโจรสลัดของผม    คุณผู้หญิ 
และว่าทีสามีของคุณไม่ใช่คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า   แต่ผมเป็นขุนนางที่มีเจ้าเหนือหัวดังนั้นกรุณาเรียกให้ถูก   ผมชื่อ คาร์เดีย   และมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับเกียรติให้เรียกผมด้วยชื่อนี้ได้”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น