ถึงแม้เอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์จะรวบชายกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งตามออกไปที่ระเบียงด้านนอก แต่ก็ไม่อาจเห็นการต่อสู้ระหว่างชายหนุ่มทั้งสองได้อีกแล้ว เมื่อจู่ๆคนหนึ่งกระโจนจากขอบระเบียงชั้นสองขึ้นไปบนหลังคาคฤหาสน์ ตามด้วยอีกคนหนึ่งซึ่งก็ตามติดไม่ลดละ ชิเอลจึงได้ยินเพียงเสียงอาวุธปะทะกัน พร้อมด้วยเสียงสบถด่าที่ดูเหมือนทั้งคู่กำลังประลองกำลังกันด้วยความสนุกสนานตามประสาเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนานมากกว่าเจตนาเข่นฆ่ากันจริงจัง ทว่านั่นก็ยังทำให้หนุ่มน้อยต้องขบกรามแน่นด้วยความลุ้นระทึก เมื่อความรุนแรงจากสุ้มเสียงในการต่อสู้ของทั้งสองคนนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
แม้จะมิได้เห็นด้วยตาทว่าก็ฟังออกชัดเจนว่าต่างคนต่างก็แสดงฝีไม้ลายมืออย่างเต็มกำลัง
และถึงแม้จะนึกอยากตามขึ้นไปสักเพียงใดทว่าก็ไม่อาจทำได้ อึดใจเดียวกับที่คำเตือนดังขึ้นในหัว
...จากจุดนี้ไปไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์อย่างคุณจะเข้ามายุ่งได้...
ดังนั้นเขาคงทำได้เพียงรอคอยอย่างสงบเท่านั้นกระมัง ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
ขณะเดียวกันที่บนหลังคาคฤหาสน์หลังงามบุรุษทั้งสองกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ระหว่างเคียวยมทูตซึ่งดูจะทวีอานุภาพขึ้นทุกการฟาดฟัน กับกระบี่เงินที่สะท้อนแสงวาววับยามพลิกพลิ้วหลอกล่อด้วยความว่องไวนั้นยากที่จะบ่งชี้ว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายได้เปรียบมากกว่ากัน
โซเซเบี่ยงกายหลบการจ้วงแทงคอหอยไปได้อย่างฉิวเฉียดก่อนจะหัวเราะเสียงกร้าวแล้วตวัดอาวุธในมือเข้าใส่เพื่อนเก่าเป็นการตอบโต้ หวังจะฟันร่างอีกฝ่ายให้ขาดเป็นสองท่อน ทว่าโอลิเวอร์ดูจะรู้ทัน.. เพียงเสี้ยวพริบตาที่คมมีดเข้าถึงตัวนายหน้าแห่งความตายก็ดีดตัวถอยหลังออกไปไกลพลางผิวปากหวือพร้อมด้วยประกายระยิบระยับในดวงตา
“ครั้งต่อไปไม่พลาดแน่” โซเซเอ่ยเสียงเย็นเยียบ
พร้อมด้วยนัยน์ตาสีเขียวอ่อนที่เปล่งกระกายเจิดจ้าอย่างหมายมั่น
ทว่าโอลิเวอร์กลับเผยรอยยิ้มกว้างขวางกว่าเดิม เมื่อสังเกตเห็นเส้นผมดำยาวปอยหนึ่งของตนเองถูกคมมีดตัดสะบั้นแล้วปลิวหายไปกับสายลมพร้อมด้วยเชือกรวบผมที่ขาดออก ไม่มีใครทำให้เขาสนุกขนาดนี้มานานมากแล้ว และมันก็ช่างคุ้มค่านักกับเครื่องสังเวยราคาแพงอย่างอดีตยมทูตผู้นี้
ดังนั้นเขาจึงไม่ปรารถนาที่จะให้ความบันเทิงเช่นนี้จบลงเร็วนัก
“อย่าดูถูกกันนักสิ”
นายหน้าแห่งความตายพูดกลั้วหัวเราะพร้อมกับเสือกปลายกระบี่ในมือเข้าไปที่หว่างคิ้วเพื่อนเก่าเต็มแรง เพียงเพื่อจะพบว่าอีกฝ่ายยกเคียวเพชฌฆาตขึ้นปัดอาวุธของตนได้อย่างงดงามและทรงพลัง
ไม่ว่าผ่านไปกี่ร้อยปีเจ้าหมอนี่ก็ยังคงแกร่งไม่เคยเปลี่ยน.. ทว่านั่นมิได้ทำให้โอลิเวอร์หมดกำลังใจ เขาส่งเสียงหัวเราะดังลั่นอย่างถูกใจแล้วจ้วงแทงอีกครั้ง และคราวนี้เฉียดต้นคอคู่ต่อสู้ไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“ถึงยังไงฉันก็เป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับความดีความชอบมาจากสงครามครูเสดเชียวนะ”
“แล้วไงล่ะ”
โซเซดีดตัวขึ้นกลางอากาศเพื่อหลบเลี่ยงการฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง แล้วม้วนตัวตีลังกาถอยหลังไปหลายตลบ
รวดเร็วเสียจนชายเสื้อคลุมตัวยาวโบกสะบัดราวกับปีกนก เกศาสีเงินที่พลิ้วไหวอยู่กลางอากาศไปตามการเคลื่อนไหวร่างกายนั้นแลดูงดงามดุจภาพมายา
“ถ้าคนอย่างนายตายในสงครามนั่นได้ก็คงแปลกพิลึก” พ่อบ้านหนุ่มหัวเราะเสียงพร่าขณะที่ร่อนลงบนพื้น
“อีกอย่าง.. ลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันเองก็อยู่ในสงครามนั้นด้วย แถมยังต้องทำงานมือเป็นระวิงเพราะพวกกระหายเลือดอย่างนาย”
โซเซจบคำพร้อมกับสะบัดชายเสื้อคลุม
ก่อให้เกิดกระแสลมเย็นเยียบที่พัดกระหน่ำเข้าใส่คู่ต่อสู้ ทั้งไอเย็นและแรงลมที่ซัดเข้าใส่ใบหน้าอย่างจังส่งผลให้โอลิเวอร์เผลอกระพริบตาแล้วเบือนหน้าหนีวูบหนึ่ง และนั่นคือวินาทีตัดสิน
อึดใจต่อมาเขาก็พบว่าตนเองนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นโดยมีรองเท้าเบอร์สี่สิบสี่ของเพื่อนเก่าเหยียบอยู่บนยอดอก พร้อมกันนั้นยังมีคมมีดยาวโค้งที่แตะนิ่งอยู่ตรงซอกคอเป็นของแถมอีกด้วย บอกให้รู้เป็นนัยว่าหากยังมัวทำเป็นเล่นอยู่อีกล่ะก็คงไม่รอดชีวิตแน่ และเมื่อประเมินจากท่าทางยามถือเคียวของโซเซแล้ว เห็นทีเจ้าหมอนี่คงจะยินดีทำหน้าที่เป็นทั้งเพชฌฆาตและผู้เก็บเกี่ยววิญญาณให้ด้วยตนเองเป็นแน่ ..ถึงแม้ว่าจะรามือไปนานแล้วก็เถอะ
“ฉันบอกนายแล้วไง..
ว่าคราวนี้ไม่พลาดแน่”
“เออ”
โอลิเวอร์จำต้องขานรับอย่างเสียมิได้
พลางถอนหายใจด้วยความเซ็งที่เวลาแห่งความสนุกโบยบินจากไปเร็วเหลือเกิน นายหน้าแห่งความตายได้แต่หัวเราะแห้งๆก่อนจะยันกายขึ้นนั่งช้าๆ
“เอาก็เอา..
นายต้องการแค่หัวเจ้านั่นกับกุญแจโกดังเท่านั้นสินะ”
..........................................
“ผมบอกแล้วว่าให้รออยู่ข้างในคฤหาสน์ คุณนี่ซนจริงๆ”
องครักษ์จำเป็นไม่ใส่ใจกับอาการแข็งขืนของท่านเอิร์ลตัวน้อย หลังจากที่รถม้าเคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์โซเซก็จัดแจงรวบร่างเล็กที่อ่อนปวกเปียกด้วยฤทธิ์แอลกอลฮอล์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วประคองให้เอนซบเข้ากับตนเอง
“ไว้กลับไปถึงผมจะชงน้ำชาอุ่นๆให้ดื่มแก้เมานะครับ”
“ทำไมนายไม่ทำอย่างนั้นเสียตั้งแต่ทีแรก” เด็กหนุ่มไม่สนใจเรื่องชาแก้เมา แต่กลับยิงคำถามเข้าใส่อย่างตรงไปตรงมา
“ไหนครับ..
เรื่องที่ผมกำลังกอดคุณอยู่นี่น่ะหรือ
อันที่จริงถ้าคุณพ่อบ้านมารู้เข้าจะไม่งามนะครับ” โซเซแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ พร้อมกับเผยอรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พลางกระชับอ้อมแขนแน่นเข้า
“แต่ถ้าหากเป็นความต้องการของคุณผมก็พร้อมจะสนองให้..”
“จะกวนไปถึงไหนกันเจ้าบ้า!” คราวนี้ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์เงยหน้าขึ้นตวาดแล้วผลักอกพ่อบ้านเต็มแรง
“ฉันหมายถึงเรื่องเจ้าเซ่อนั่น
ในเมื่อพวกนายรู้จักกันแล้วทำไม..”
“นี่เป็นภารกิจของคุณไม่ใช่หรือครับ
ท่านเอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์”
คำพูดนั้นทำให้เด็กหนุ่มชะงักและได้สติในที่สุด
พร้อมๆกับที่ตระหนักว่าตนเองคงจะเมาแล้วจริงๆ จึงได้ลืมเรื่องเรื่องพรรค์นี้ไปได้
“จริงของนาย”
โซเซก้มลงมองขุนนางตัวน้อยที่ยอมสงบเสงี่ยมอยู่ในวงแขนตนเองอย่างว่าง่ายด้วยความประหลาดใจ
“เป็นอะไรไปครับ..
จู่ๆก็ทำตัวสงบเรียบร้อยขึ้นมา”
“เปล่า”
เขาตอบเพียงเท่านั้น
แต่แล้วก็กลับเปลี่ยนใจ
“ฉันก็แค่.. ไม่ทันประมาณตน
ครั้งนี้ฉันพลาดไปจริงๆ
และถ้าคืนนี้ไม่มีนายอยู่ด้วยคงแย่
ขอบใจนะ”
ชิเอลพยายามขืนตัวออกพลางขยับไปนั่งริมหน้าต่าง ปล่อยให้อีกฝ่ายส่งเสียงหัวเราะแผ่วๆอยู่ในลำคอด้วยความขบขันที่ได้เห็นท่านเอิร์ลน้อยรู้สึกเสียฟอร์มจนทำตัวไม่ถูก และออร่าสีชมพูอมส้มที่แผ่รังสีออกมาจากร่างเล็กๆที่นั่งอยู่ข้างเขาในเวลานี้ก็ชวนมองเสียจริง ช่างน่ารักเหลือเกิน.. เห็นอย่างนี้แล้วทำให้โซเซนึกอยากจะแกล้งอีกสักหลายๆรอบจริงๆ
เพราะถึงยังไงก็คงไม่ขัดต่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณพ่อบ้านปีศาจสินะ
“แต่ถึงยังไงภารกิจภายในสามวันของคุณก็บรรลุผลเป็นที่น่าพอใจแล้ว รวมทั้งยังเป็นการพิสูจน์ตนเองในฐานะสุนัขเฝ้ายามที่ดีด้วย
ทีนี้ก็ต้องมีรางวัลให้ผมในฐานะที่ทำเกินหน้าที่นะครับ
และเพียงแค่ริมฝีปากของคุณก็ดูจะไม่พอเสียแล้วสิ”
“อะไรนะ!”
ชิเอลถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วหันหน้ากลับมาทันที
แล้วท่านเอิร์ลตัวน้อยก็มีอันต้องกระเถิบหนีไปนั่งตัวลีบอยู่ที่มุมเบาะตรงกันข้ามเมื่อเห็นท่าไม่ดี
แต่ถึงแม้จะตกใจจนหน้าถอดสีกระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังฝืนปั้นสีหน้าเย็นชาเข้าใส่
และนั่นก็ทำให้โซเซถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาจริงๆ
...อา...
เรื่องขำขันชั้นยอด....
ช่างดีเหลือเกิน..
“ละ..
เลิกเล่นบ้าๆเสียที ฉันไม่อยากจะนึกถึงเรื่องนั้นอีก อายจะตายอยู่แล้ว!”
“งั้นหรือครับ”
ทว่าทุกอย่างยังไม่ง่ายดายขนาดนั้น
เมื่อพ่อบ้านจำเป็นเสยผมที่ปรกหน้าขึ้นแล้วจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยนัยน์ตาทรงพลังพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“แต่พวกเรายังมีเวลาอีกตั้งสองวันสองคืนกว่าที่คุณพ่อบ้านจะกลับมาทำหน้าที่
ดังนั้น..”มือใหญ่ที่ตัดเล็บสะอาดสะอ้านเชยปลายคางหนุ่มน้อยให้เงยหน้าขึ้นสบตา
ส่งผลให้ชิเอลถึงกับขนลุกซู่ไปกับลมหายใจผ่าวร้อนที่เป่ารดใบหน้า
“มันคงนานพอที่เราจะทำความคุ้นเคยกันและทำให้คุณเลิกอายได้
จริงมั้ยครับ.. มายเลดี้”
End
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น