8/01/2555

Special Bodyguard 9



ถึงแม้เอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์จะรวบชายกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งตามออกไปที่ระเบียงด้านนอก   แต่ก็ไม่อาจเห็นการต่อสู้ระหว่างชายหนุ่มทั้งสองได้อีกแล้ว   เมื่อจู่ๆคนหนึ่งกระโจนจากขอบระเบียงชั้นสองขึ้นไปบนหลังคาคฤหาสน์   ตามด้วยอีกคนหนึ่งซึ่งก็ตามติดไม่ลดละ   ชิเอลจึงได้ยินเพียงเสียงอาวุธปะทะกัน   พร้อมด้วยเสียงสบถด่าที่ดูเหมือนทั้งคู่กำลังประลองกำลังกันด้วยความสนุกสนานตามประสาเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนานมากกว่าเจตนาเข่นฆ่ากันจริงจัง   ทว่านั่นก็ยังทำให้หนุ่มน้อยต้องขบกรามแน่นด้วยความลุ้นระทึก   เมื่อความรุนแรงจากสุ้มเสียงในการต่อสู้ของทั้งสองคนนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย   แม้จะมิได้เห็นด้วยตาทว่าก็ฟังออกชัดเจนว่าต่างคนต่างก็แสดงฝีไม้ลายมืออย่างเต็มกำลัง   และถึงแม้จะนึกอยากตามขึ้นไปสักเพียงใดทว่าก็ไม่อาจทำได้   อึดใจเดียวกับที่คำเตือนดังขึ้นในหัว

...จากจุดนี้ไปไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์อย่างคุณจะเข้ามายุ่งได้...


ดังนั้นเขาคงทำได้เพียงรอคอยอย่างสงบเท่านั้นกระมัง   ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว


ขณะเดียวกันที่บนหลังคาคฤหาสน์หลังงามบุรุษทั้งสองกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด    ระหว่างเคียวยมทูตซึ่งดูจะทวีอานุภาพขึ้นทุกการฟาดฟัน   กับกระบี่เงินที่สะท้อนแสงวาววับยามพลิกพลิ้วหลอกล่อด้วยความว่องไวนั้นยากที่จะบ่งชี้ว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายได้เปรียบมากกว่ากัน   โซเซเบี่ยงกายหลบการจ้วงแทงคอหอยไปได้อย่างฉิวเฉียดก่อนจะหัวเราะเสียงกร้าวแล้วตวัดอาวุธในมือเข้าใส่เพื่อนเก่าเป็นการตอบโต้   หวังจะฟันร่างอีกฝ่ายให้ขาดเป็นสองท่อน   ทว่าโอลิเวอร์ดูจะรู้ทัน..   เพียงเสี้ยวพริบตาที่คมมีดเข้าถึงตัวนายหน้าแห่งความตายก็ดีดตัวถอยหลังออกไปไกลพลางผิวปากหวือพร้อมด้วยประกายระยิบระยับในดวงตา  

“ครั้งต่อไปไม่พลาดแน่” โซเซเอ่ยเสียงเย็นเยียบ   พร้อมด้วยนัยน์ตาสีเขียวอ่อนที่เปล่งกระกายเจิดจ้าอย่างหมายมั่น

ทว่าโอลิเวอร์กลับเผยรอยยิ้มกว้างขวางกว่าเดิม   เมื่อสังเกตเห็นเส้นผมดำยาวปอยหนึ่งของตนเองถูกคมมีดตัดสะบั้นแล้วปลิวหายไปกับสายลมพร้อมด้วยเชือกรวบผมที่ขาดออก   ไม่มีใครทำให้เขาสนุกขนาดนี้มานานมากแล้ว   และมันก็ช่างคุ้มค่านักกับเครื่องสังเวยราคาแพงอย่างอดีตยมทูตผู้นี้   ดังนั้นเขาจึงไม่ปรารถนาที่จะให้ความบันเทิงเช่นนี้จบลงเร็วนัก  

“อย่าดูถูกกันนักสิ” 

นายหน้าแห่งความตายพูดกลั้วหัวเราะพร้อมกับเสือกปลายกระบี่ในมือเข้าไปที่หว่างคิ้วเพื่อนเก่าเต็มแรง   เพียงเพื่อจะพบว่าอีกฝ่ายยกเคียวเพชฌฆาตขึ้นปัดอาวุธของตนได้อย่างงดงามและทรงพลัง   ไม่ว่าผ่านไปกี่ร้อยปีเจ้าหมอนี่ก็ยังคงแกร่งไม่เคยเปลี่ยน..  ทว่านั่นมิได้ทำให้โอลิเวอร์หมดกำลังใจ   เขาส่งเสียงหัวเราะดังลั่นอย่างถูกใจแล้วจ้วงแทงอีกครั้ง   และคราวนี้เฉียดต้นคอคู่ต่อสู้ไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น

“ถึงยังไงฉันก็เป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับความดีความชอบมาจากสงครามครูเสดเชียวนะ”

“แล้วไงล่ะ”  โซเซดีดตัวขึ้นกลางอากาศเพื่อหลบเลี่ยงการฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง  แล้วม้วนตัวตีลังกาถอยหลังไปหลายตลบ   รวดเร็วเสียจนชายเสื้อคลุมตัวยาวโบกสะบัดราวกับปีกนก   เกศาสีเงินที่พลิ้วไหวอยู่กลางอากาศไปตามการเคลื่อนไหวร่างกายนั้นแลดูงดงามดุจภาพมายา

“ถ้าคนอย่างนายตายในสงครามนั่นได้ก็คงแปลกพิลึก” พ่อบ้านหนุ่มหัวเราะเสียงพร่าขณะที่ร่อนลงบนพื้น

“อีกอย่าง.. ลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันเองก็อยู่ในสงครามนั้นด้วย   แถมยังต้องทำงานมือเป็นระวิงเพราะพวกกระหายเลือดอย่างนาย” 

โซเซจบคำพร้อมกับสะบัดชายเสื้อคลุม   ก่อให้เกิดกระแสลมเย็นเยียบที่พัดกระหน่ำเข้าใส่คู่ต่อสู้   ทั้งไอเย็นและแรงลมที่ซัดเข้าใส่ใบหน้าอย่างจังส่งผลให้โอลิเวอร์เผลอกระพริบตาแล้วเบือนหน้าหนีวูบหนึ่ง   และนั่นคือวินาทีตัดสิน

อึดใจต่อมาเขาก็พบว่าตนเองนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นโดยมีรองเท้าเบอร์สี่สิบสี่ของเพื่อนเก่าเหยียบอยู่บนยอดอก   พร้อมกันนั้นยังมีคมมีดยาวโค้งที่แตะนิ่งอยู่ตรงซอกคอเป็นของแถมอีกด้วย   บอกให้รู้เป็นนัยว่าหากยังมัวทำเป็นเล่นอยู่อีกล่ะก็คงไม่รอดชีวิตแน่   และเมื่อประเมินจากท่าทางยามถือเคียวของโซเซแล้ว   เห็นทีเจ้าหมอนี่คงจะยินดีทำหน้าที่เป็นทั้งเพชฌฆาตและผู้เก็บเกี่ยววิญญาณให้ด้วยตนเองเป็นแน่   ..ถึงแม้ว่าจะรามือไปนานแล้วก็เถอะ  


“ฉันบอกนายแล้วไง..  ว่าคราวนี้ไม่พลาดแน่”

“เออ”

โอลิเวอร์จำต้องขานรับอย่างเสียมิได้   พลางถอนหายใจด้วยความเซ็งที่เวลาแห่งความสนุกโบยบินจากไปเร็วเหลือเกิน   นายหน้าแห่งความตายได้แต่หัวเราะแห้งๆก่อนจะยันกายขึ้นนั่งช้าๆ  

“เอาก็เอา..   นายต้องการแค่หัวเจ้านั่นกับกุญแจโกดังเท่านั้นสินะ”


..........................................

“ผมบอกแล้วว่าให้รออยู่ข้างในคฤหาสน์   คุณนี่ซนจริงๆ” 

องครักษ์จำเป็นไม่ใส่ใจกับอาการแข็งขืนของท่านเอิร์ลตัวน้อย   หลังจากที่รถม้าเคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์โซเซก็จัดแจงรวบร่างเล็กที่อ่อนปวกเปียกด้วยฤทธิ์แอลกอลฮอล์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วประคองให้เอนซบเข้ากับตนเอง

“ไว้กลับไปถึงผมจะชงน้ำชาอุ่นๆให้ดื่มแก้เมานะครับ”

“ทำไมนายไม่ทำอย่างนั้นเสียตั้งแต่ทีแรก” เด็กหนุ่มไม่สนใจเรื่องชาแก้เมา   แต่กลับยิงคำถามเข้าใส่อย่างตรงไปตรงมา

“ไหนครับ..  เรื่องที่ผมกำลังกอดคุณอยู่นี่น่ะหรือ   อันที่จริงถ้าคุณพ่อบ้านมารู้เข้าจะไม่งามนะครับ”  โซเซแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ   พร้อมกับเผยอรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พลางกระชับอ้อมแขนแน่นเข้า

“แต่ถ้าหากเป็นความต้องการของคุณผมก็พร้อมจะสนองให้..”

“จะกวนไปถึงไหนกันเจ้าบ้า!”  คราวนี้ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์เงยหน้าขึ้นตวาดแล้วผลักอกพ่อบ้านเต็มแรง

“ฉันหมายถึงเรื่องเจ้าเซ่อนั่น   ในเมื่อพวกนายรู้จักกันแล้วทำไม..”

“นี่เป็นภารกิจของคุณไม่ใช่หรือครับ   ท่านเอิร์ลแห่งแฟนธอมไฮฟ์” คำพูดนั้นทำให้เด็กหนุ่มชะงักและได้สติในที่สุด   พร้อมๆกับที่ตระหนักว่าตนเองคงจะเมาแล้วจริงๆ   จึงได้ลืมเรื่องเรื่องพรรค์นี้ไปได้

“จริงของนาย”

โซเซก้มลงมองขุนนางตัวน้อยที่ยอมสงบเสงี่ยมอยู่ในวงแขนตนเองอย่างว่าง่ายด้วยความประหลาดใจ

“เป็นอะไรไปครับ..  จู่ๆก็ทำตัวสงบเรียบร้อยขึ้นมา”

“เปล่า”  เขาตอบเพียงเท่านั้น    แต่แล้วก็กลับเปลี่ยนใจ

“ฉันก็แค่..  ไม่ทันประมาณตน 
ครั้งนี้ฉันพลาดไปจริงๆ  และถ้าคืนนี้ไม่มีนายอยู่ด้วยคงแย่   ขอบใจนะ” 


ชิเอลพยายามขืนตัวออกพลางขยับไปนั่งริมหน้าต่าง   ปล่อยให้อีกฝ่ายส่งเสียงหัวเราะแผ่วๆอยู่ในลำคอด้วยความขบขันที่ได้เห็นท่านเอิร์ลน้อยรู้สึกเสียฟอร์มจนทำตัวไม่ถูก   และออร่าสีชมพูอมส้มที่แผ่รังสีออกมาจากร่างเล็กๆที่นั่งอยู่ข้างเขาในเวลานี้ก็ชวนมองเสียจริง   ช่างน่ารักเหลือเกิน..  เห็นอย่างนี้แล้วทำให้โซเซนึกอยากจะแกล้งอีกสักหลายๆรอบจริงๆ   เพราะถึงยังไงก็คงไม่ขัดต่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณพ่อบ้านปีศาจสินะ  

“แต่ถึงยังไงภารกิจภายในสามวันของคุณก็บรรลุผลเป็นที่น่าพอใจแล้ว   รวมทั้งยังเป็นการพิสูจน์ตนเองในฐานะสุนัขเฝ้ายามที่ดีด้วย
ทีนี้ก็ต้องมีรางวัลให้ผมในฐานะที่ทำเกินหน้าที่นะครับ   และเพียงแค่ริมฝีปากของคุณก็ดูจะไม่พอเสียแล้วสิ”

“อะไรนะ!

ชิเอลถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วหันหน้ากลับมาทันที   แล้วท่านเอิร์ลตัวน้อยก็มีอันต้องกระเถิบหนีไปนั่งตัวลีบอยู่ที่มุมเบาะตรงกันข้ามเมื่อเห็นท่าไม่ดี   แต่ถึงแม้จะตกใจจนหน้าถอดสีกระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังฝืนปั้นสีหน้าเย็นชาเข้าใส่   และนั่นก็ทำให้โซเซถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาจริงๆ

...อา...   เรื่องขำขันชั้นยอด....

ช่างดีเหลือเกิน..


“ละ..  เลิกเล่นบ้าๆเสียที   ฉันไม่อยากจะนึกถึงเรื่องนั้นอีก  อายจะตายอยู่แล้ว!

“งั้นหรือครับ” 

ทว่าทุกอย่างยังไม่ง่ายดายขนาดนั้น   เมื่อพ่อบ้านจำเป็นเสยผมที่ปรกหน้าขึ้นแล้วจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยนัยน์ตาทรงพลังพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้

“แต่พวกเรายังมีเวลาอีกตั้งสองวันสองคืนกว่าที่คุณพ่อบ้านจะกลับมาทำหน้าที่
ดังนั้น..”มือใหญ่ที่ตัดเล็บสะอาดสะอ้านเชยปลายคางหนุ่มน้อยให้เงยหน้าขึ้นสบตา   ส่งผลให้ชิเอลถึงกับขนลุกซู่ไปกับลมหายใจผ่าวร้อนที่เป่ารดใบหน้า


“มันคงนานพอที่เราจะทำความคุ้นเคยกันและทำให้คุณเลิกอายได้  

จริงมั้ยครับ..  มายเลดี้”


End






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น