8/16/2555

Last Man In My Life 1









นิวยอร์ค...  ตี2  24นาที


เกิดเหตุเข้าปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและพวกนักค้ายาเสพติดบริเวณใจกลางแหล่งเสื่อมโทรมแห่งหนึ่ง   เสียงปืนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณเมื่อทั้ง2ฝ่ายต่างก็กระหน่ำยิงเข้าใส่กัน...   เห็นได้ชัดว่าการเจรจาที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลหวังจะใช้เป็นทางแก้ปัญหานั้นกลายเป็นเรื่องไร้สาระ   เมื่อพวกอาชญากรตัวร้ายรู้จักวิธีการพูดคุยอยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น... คือคุยด้วยลูกปืน


ทว่าผลการปะทะระหว่างบุคลากรของรัฐที่ถูกฝึกปรือมาเป็นอย่างดีเยี่ยมกับพวกลูกกระจ๊อกของราชาอาชญากรรมและนักค้ายาตัวยง    ลงเอยด้วยความตายของวายร้ายที่ล้มตายเป็นเบือ     ในขณะที่ส่วนน้อยอาศัยความมืดและสายฝนที่โปรยปรายหนีเอาตัวรอดไปได้    ..ทุกอย่างดูจะอยู่ในสถานการณ์ที่ปกติดี   จนกระทั่ง........



“ไมค์!!!!....”    เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นแข่งกับเสียงฝนและลมแรง


“ไม่จริง!!....คุณทำแบบนี้ทำไม!!!!”


ร่างเพรียวบางของสตรีในสภาพเนื้อตัวแดงฉานไปด้วยเลือดกำลังโอบกอดบุรุษร่างใหญ่คนหนึ่งไว้   ร่างหนาหนักในอ้อมแขนหล่อนกำลังกระตุกเกร็งเมื่อกระสุนนัดหนึ่งเจาะเข้าที่ทรวงอกของเขาพอดิบพอดี    ..โลหิตแดงฉานจำนวนมากไหลปรี่ออกมาจากบาดแผลฉกรรจ์   ถึงแม้ว่ามือเล็กๆของหล่อนจะพยายามกดห้ามเลือดไว้ก็ไม่เป็นผล    ร่างบอบบางทั้งกรีดร้องและร่ำไห้อย่างหนักพร้อมกับโอบกอดเขาไว้แน่น



“ดีแล้ว...เรกจี้ ที่คุณปลอดภัย” ไมเคิล  เคอร์บี้แข็งใจบอกหล่อน    เรือนผมสีดำเปียกลู่ไปกับศีรษะแหงนหงายไปข้างหลังและเขารู้ดีว่าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว  มือแกร่งที่สั่นระริกกุมมือหล่อนไว้แน่น   ในขณะเดียวกันดวงตาสีดำเพ่งมองใบหน้าที่นองน้ำตาและคราบเลือด


“อย่าเสียใจ....ผมตายเพื่อคุณได้เสมอ   หนูน้อย....”เสียงแหบห้าวของเขาแผ่วลงเรื่อยๆ   พร้อมกับลมหายใจที่ค่อยๆจางลงทุกทีๆ   

และในที่สุดเขาก็สิ้นใจอย่างสงบในอ้อมแขนของหล่อน





.........................................................


เรจิน่า  ไทเกอร์ทะลึ่งพรวดขึ้นมาจากเตียง   พลางหอบหายใจแรงและสั่นสะท้านไปทั้งร่าง   ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างพร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลอาบไปทั้งใบหน้า


หล่อนฝันร้ายอีกแล้ว....


ความตายของเพื่อนร่วมงานเป็นอะไรที่ตามหลอกหลอนเรจิน่ามาตลอดระยะเวลา3เดือนเต็ม   และนับครั้งไม่ถ้วนที่หล่อนต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกในสภาพน้ำตานองหน้า   ขณะที่หัวใจยังคงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสกับการตายของเขา


“ไมค์...  คุณเข้ามาบังฉันไว้ทำไมกัน”


เสียงใสรำพึงกับตนเองพร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไฟหัวนอนแล้วสบตากับเขา...   ดวงตาสีดำสนิทของชายหนุ่มในกรอบรูปสี่เหลี่ยมที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงหล่อนยังคงแฝงด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนเช่นที่เคยเป็นมาตลอดระยะเวลากว่า20ปี  


ไมค์เป็นพาร์ทเนอร์คนแรกของเรจิน่าหลังจากที่หญิงสาวเข้ามาประจำในตำแหน่งมือปราบของกรมการสอบสวนคดีพิเศษ   ด้วยวัยที่แก่กว่าหล่อนถึง12ปีเขาจึงเปรียบเสมือนพี่ชายแท้ๆของหล่อน   เขาช่างเป็นคนที่มีหัวใจประเสริฐนัก   และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเอาตัวเข้าบังหล่อนจากวิถีกระสุน    


ครั้งก่อนหน้านี้   เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่   และเรจิน่าก็ระเบิดความโกรธใส่เขาอย่างรุนแรงเสียจนคิดว่ามันจะไม่ทำให้เขาก่อเรื่องแบบนี้ซ้ำสอง   ทว่าหล่อนก็คิดผิด...   ความตายของเขายิ่งทำให้หญิงสาวเสียใจแสนสาหัส   เมื่อตัวเองกลับกลายเป็นเหตุให้เขาผู้ซึ่งเคยเป็นพาร์ทเนอร์คู่ใจของบิดาต้องมาจบชีวิตลง



“ถ้าคุณปล่อยให้ฉันตายซะตั้งแต่ตอนนั้น....ฉันคงจะรู้สึกดีกว่านี้   รู้มั้ยคะ”  เรจิน่ากระซิบกับคนในรูปภาพก่อนจะพลิกกายลงจากเตียงในเมื่อประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่าไม่มีประโยชน์อันใดที่จะฝืนนอนต่อ


ร่างสูงเพรียวสวมใส่เพียงแค่เสื้อกล้ามสีดำกับบิกินี่ตัวน้อยอวดทรวดทรงงดงามเย้ายวนตาอย่างอิสตรีก็จริงอยู่  แต่ใครเลยจะรู้.... ว่าภายใต้ดวงหน้าอันแสนงดงามและนัยน์ตาสีเขียวมรกตที่สะกดหัวใจชายหนุ่มมานักต่อนัก    กับผิวกายขาวเนียนราวกับจะชวนเชิญให้สัมผัสแตะต้องนั้น   กลับเต็มไปด้วยพิษสงร้ายกาจ   


หญิงสาวตัวเล็กๆคนนี้ได้ผ่านการฝึกภาคสนามถึง5ปีเต็มจนกระทั่งได้เข้าประจำอยู่ในหน่วยคอมมานโด    จากนั้นจึงย้ายสังกัดไปทำงานให้กับราชนาวีสหรัฐจนกระทั่งได้ประดับยศร้อยโทอย่างน่าภาคภูมิก่อนจะพลิกผันตนเองอีกครั้ง   มาประจำอยู่ในหน่วยงานเดียวกับบิดาผู้ล่วงลับของหล่อนคือกรมการสอบสวนคดีพิเศษในช่วง2ปีสุดท้าย   ในตำแหน่งมือปราบซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการ “วิสามัญ” คนร้ายโดยเฉพาะ  


เรจิน่าก้าวข้ามห้องมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าตู้กระจกใบใหญ่ก่อนจะทำในสิ่งที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี   คือการรินบรั่นดีให้กับตนเอง   แล้วจึงค่อยก้าวออกไปสู่ระเบียงด้านนอก   สายลมยามดึกที่หนาวเย็นชวนสั่นสะท้านพัดเรือนผมยาวสีแดงเพลิงให้แผ่กระจายออก   ขณะที่นัยน์ตาสีเขียวมรกตเหม่อมองออกไปท่ามกลางความมืด   ก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้นสูบสลับกับการจิบบรั่นดี   


ร่างบางพ่นควันออกทางปากช้าๆพร้อมกับพยายามจะลืมความทรงจำอันเจ็บปวด...  ภายหลังจากการตายของไมค์เรจิน่าก็ปฏิเสธพาร์ทเนอร์ใหม่ทุกคนที่ทางสำนักงานใหญ่ส่งมาให้อย่างสิ้นเชิงด้วยหัวใจที่ยังรวดร้าวและหวั่นเกรงเกินกว่าจะยอมรับใครเข้ามาอยู่ข้างกายได้อีก   หล่อนไม่ต้องการจะเห็นใครต้องมาตายอยู่ตรงหน้าอีกต่อไปแล้ว  และนั่นทำให้หญิงสาวหงุดหงิดเป็นที่สุด   เมื่อชายหนุ่มหลายคนที่ถูกส่งมาจับคู่กับหล่อนไม่ยอมรับฟังเหตุผลเอาเสียเลย   ลงท้ายด้วยการที่เรจิน่าจำต้องจัดการส่ง3คนล่าสุดเข้าโรงพยาบาล   และคงจะไม่ได้ออกมาอีกนาน


ทุกสิ่งยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ   เมื่อผู้บังคับบัญชาของหล่อนยืนกรานว่าหล่อนไม่ควรจะออกปฏิบัติหน้าที่ตามลำพังเป็นอย่างยิ่ง   และได้มีคำสั่งเรียกตัวเข้าพบในเช้าวันนี้พร้อมกับพาร์ทเนอร์คนใหม่ล่าสุดที่ท่านไปขุดมาจากที่ไหนซักแห่งในโลกนี้และถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะเป็นแถวๆกรีซ...  เมืองที่มีแต่ซากปรักหักพัง 



...เจริญเถอะ!...ช่างไปสรรหามาจริงๆ......


ให้ตาย..........คราวนี้ผบ.ของหล่อนคงจะไม่ใจดีอย่างที่ผ่านๆมาอีกเป็นแน่   ในเมื่อเขาถึงกับลงทุนหาพาร์ทเนอร์ใหม่ให้กับหล่อนด้วยตัวเอง.........

.....เน้น....ว่า ด้วย-ตัว-เอง.......ถึงขนาดบินไปรับตัวมาเองเลยเชียว   มันน่าปลื้มซะไม่มี


แต่ไม่ว่านายเบื๊อกนั่นจะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม   ถ้าเขายังบังอาจเข้ามาขวางมือขวางเท้าหล่อนไม่ต่างกับคนที่ผ่านๆมาล่ะก็...   หล่อนเองก็ไม่ลังเลเช่นกันที่จะทำสถิติใหม่ในการส่งหมอนั่นเข้าโรงพยาบาลตามพวกนั้นไป



แสงทองเรื่อๆที่ปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าด้านหนึ่งของเมืองทำให้หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
พร้อมกับสบถอย่างหัวเสีย


จวนจะ6โมงแล้ว....


และนั่นหมายความว่าหล่อนมีเวลาอีกเพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้นที่จะแต่งตัวและออกจากอพาร์ตเม้นเพื่อไปรายงานตัวที่กองและ...   ทำความรู้จักกับพาร์ตเนอร์คนใหม่



ร่างเพรียวบางหันไปดับบุหรี่ก่อนจะกระดกบรั่นดีจนหมดแก้วแล้วกลับเข้าไปข้างใน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น