10/18/2555

น้ำตาฟินิกซ์ 16




เขาเฝ้ารอที่จะได้ข่าวคราวเบาะแสเกี่ยวกับเจ้าของน้ำตาฟินิกซ์ตัวน้อยคนนี้มานานแล้ว   จนกระทั่งวันนี้เอง..  ที่สมุนปีศาจซึ่งอยู่ในสภาพถูกเผาจนสะบักสะบอมหอบสังขารรุ่งริ่งกลับมารายงาน

คงมีแต่ตัวเขาเองกระมังที่รู้..   ว่ามันต้องใช้ความอดทนมากเพียงใดกับการรอคอยอย่างสงบขณะที่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเช่นนี้   เพราะรู้ดีว่ายิ่งร้อนใจเท่าไร..  ก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นอกาเลียเรปให้ลงมือกับเด็กคนนี้มากขึ้นเท่านั้น    ซาตานาเกียจำต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์มีความสามารถในการหลบซ่อนตัวมากกว่าที่คิดไว้   เพราะกว่าที่พวกพ้องปีศาจของเขาจะหาตัวพบเป้าหมายคนสำคัญก็ถูกรายล้อมไปด้วยสารพัดผู้หมายปองที่เปิดศึกแย่งชิงกันแล้ว   ลงท้ายด้วยการถูกจับตัวได้ในที่สุดและเกือบจะถูกครอบครองโดยปีศาจ..  ที่น่าเหยียบให้จมดินตนนี้

ในอาณาจักรแห่งความมืดนี้    นอกจากซาตานแล้วยังมีปีศาจผู้ยิ่งใหญ่อีกตนหนึ่งที่ปกครองดินแดนอีกส่วนอยู่  ..นั่นคือเบเอลเซบูล   ..ผู้ซึ่งไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากน้ำมือของปีศาจตนใด   เบเอลเซบูลนั้นมิได้รับสืบทอดพลังอำนาจไปจากซาตาน   ดังนั้นจึงมิได้เข้าสวามิภักดิ์มากเท่าๆ กับที่ไม่ตั้งตนเป็นศัตรู   ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงได้แบ่งปันอาณาเขตปกครองกันมาช้านานแล้วโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีบริวารของตนเอง   มีเขตแดนของตนเองรวมทั้งร่วมแบ่งปันและคานอำนาจซึ่งกันและกันอยู่

เขาต้องโทษตัวเองที่ดันลืมเจ้าหมอนี่ไปเสียสนิท  ..ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าสมุนคนสนิทของเบเอลเซบูล   ซึ่งเป็นไอ้ตัวแสบไม่แพ้อกาเลียเรปยังคงหมายปองตัวอดีตเจ้านายของเขาอยู่    และคลอท  ฟอลทัส..   หรือในอีกชื่อหนึ่ง จอมตะกละฟอร์เรนเต้  ก็ปรากฏตัวออกมาจริงๆ เสียด้วย   เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ไม่มีผิดว่าเจ้านี่จะต้องกลับมาในฐานะที่เป็น..   ซาตานาเกียถอนหายใจ..  หมอนี่จะเป็นอะไรก็ช่างเถอะ   ในเมื่อหลังจากนี้มันจะไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าอดีตที่ไม่มีค่าให้จดจำอีกแล้ว    

ในร่างมนุษย์..  ซาตานาเกียจ้องมองปีศาจอีกตนหนึ่งด้วยแววตาเย็นเยียบ   ก่อนจะเลยผ่านไปยังร่างเล็กขาวโพลนที่นอนตัวสั่นระริกอยู่ใต้ร่างอีกฝ่าย   ปีศาจหนุ่มแลเห็นความไม่อยากเชื่อระคนประหลาดใจปรากฏอยู่ในดวงตาสีทับทิมที่กำลังเบิกโพลงคู่นั้น   แต่อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็ยังปลอดภัยดี   และนั่นทำให้เขาลอบถอนหายใจก่อนจะมองสำรวจอย่างไวๆ รอบหนึ่ง   เส้นผมเปียกเหงื่อลู่ติดหนังศีรษะล้อมกรอบดวงหน้าซีดขาวซึ่งเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อไหลโทรมก็จริงอยู่   ทว่าริมฝีปากสั่นระริกที่รีบเม้มสนิท   กับเรียวขาเรียบเนียนที่รีบหุบเข้าหากันทันทีที่ได้เห็นเขาบอกให้รู้ว่าอดีตเจ้านายตัวน้อยยังมีทิฐิอยู่อีกเหลือเฟือ   และถ้าเป็นเช่นนี้ก็ยังนับว่าไม่น่าห่วงนัก   

ซาตานาเกียเลื่อนสายตาลงไปยังแผ่นอกเล็กบางหอบกระเพื่อมซึ่งเต็มไปด้วยรอยช้ำเป็นจ้ำจากสัมผัสของคลอท   ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นจับจ้องใบหน้าอีกครั้ง   ไม่ได้เห็นเพียงพักเดียวเท่านั้น..  ทว่าเหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์เปลี่ยนไปมากนัก   มิใช่เพราะรูปกายภายนอก   มิใช่เพราะลักษณะท่าทางที่แสดงออกหรือแม้กระทั่งสายตาที่มองจ้องกัน   มีอะไรบางอย่างซึ่งซ่อนอยู่ลึกๆ ในตัวเด็กคนนี้ที่เติบกล้าขึ้น   และเขารู้สึกถึงมันได้ราวกับสิ่งนั้นกำลังสื่อสารอยู่กับเขาโดยตรงเลยทีเดียว   แต่เรื่องหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือ    ความมีหัวใจของนักสู้ที่เข้มแข็งไม่แปรเปลี่ยนแม้ว่าจะไม่มีเขาอยู่ข้างกายอีกแล้วก็ตาม   และมันทำให้ปีศาจหนุ่มรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมาอย่างประหลาด


“ผมน่าจะรู้นะ..”  คลอท  ฟอลทัสถอนหายใจอย่างสุดแสนเซ็งเมื่อถูกขัดจังหวะ
  

“ผมน่าจะรู้ว่าคุณคงยังไม่ปล่อยมือจากนายน้อยง่ายๆ”  พ่อบ้านแห่งแทรนชี่จบคำก่อนจะยันกายขึ้นจากพื้นแล้วถอยห่างออกมาแต่โดยดี  


ในฐานะที่เป็นปีศาจระดับสูงซึ่งไม่ควรต้องแยแสกับวิญญาณของมนุษย์   เขา..  รนหาที่ด้วยการตอบรับเสียงเพรียกของอลัวส์  เเทรนชี่   เพราะถูกใจในความทะเยอทะยานและหิวกระหายซึ่งไม่มีที่สิ้นสุดของเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนั้น   ในเวลานั้นเขาเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์พลางปกปิดนามดั้งเดิมของตนเองแล้วไปเล่นละครเป็นพ่อบ้านให้กับคู่พันธะสัญญา   แทนที่จะบอกชื่อที่แท้จริงของตนเอง  ..ฟอร์เรนเต้..  เจ้าแห่งแมงมุม   ซึ่งนายเหนือหัวเป็นผู้ตั้งให้    เขากลับนำชื่อนั้นมาบิดเสียใหม่เป็น  ..ฟอลทัส..   เพราะภาคภูมิในชาติกำเนิดของตนเกินกว่าจะยอมให้มนุษย์ชั้นต่ำได้รู้ชื่อจริง   เขาปรากฏตัวในอาณาจักรของมนุษย์เพียงเพราะอยากจะฆ่าเวลาเล่นไปพร้อมๆ กับได้อิ่มท้องในเวลาเดียวกัน   และนั่นทำให้เขากินไม่เลือก   ..หรือถึงแม้จะเลือกก็ไม่ได้เรื่องมากนัก   เพราะวิญญาณมนุษย์มิใช่สิ่งมีค่าถึงเพียงนั้น

จนเมื่อได้สัมผัสกับวิญญาณของชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์   คลอทจึงได้รู้ว่าตนเองคิดผิดถนัด   ประมุขน้อยของตระกูลแฟนธอมไฮฟ์ผู้นี้มีดวงวิญญาณที่เจิดจรัส   ทั้งสะอาดบริสุทธิ์แม้จะจมจ่อมอยู่ท่ามกลางโคลนตม   และไม่ว่าจะตกอยู่ในห้วงเหวลึกที่ดำมืดสักเพียงใดก็ยังคงเปล่งประกายอย่างงดงามจนทำให้เขาอดใจไม่อยู่   ทว่าของล้ำค่าเช่นนั้นกลับตกอยู่ในมือของปีศาจอีกตนหนึ่ง..   

กี่ครั้งแล้วที่ปีศาจระดับสูงอย่างพวกตนต้องมาปะทะกันเองเพียงเพราะวิญญาณของเด็กคนนี้เป็นต้นเหตุ   หลังจากที่วางแผนชิงไหวชิงพริบอยู่นานจนนำไปสู่การต่อสู้ห้ำหั่นกันอีกหลายต่อหลายครั้งแล้ว   คลอทก็รู้สึกอยู่ลึกๆ ในใจมากตลอดว่าคงมีสักวันที่ตนเองจะต้องตัดสินขั้นเด็ดขาดกับเจ้าหมอนี่   และคงไม่มีเวลาใดจะเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว  



“คุณมีสิทธิ์เรียกเขาว่านายน้อยด้วยหรือครับ   คุณคลอท”


“ก็พอกันกับคุณนั่นแหละ  ..เซบาสเตียน  มิคาเอลลิส”


ผู้ถูกเรียกด้วยชื่อนั้นเผยรอยยิ้มออกมา   และทำให้ชิเอลซึ่งกระถดตัวหนีไปอยู่ที่มุมห้องรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง   หนุ่มน้อยสะบัดศีรษะไล่ความมึนงงก่อนจะขยี้ตาตนเอง..  เขาคงจะเหนื่อยเกินไป   ..ต้องใช่แน่ๆ   ไม่อย่างนั้นเขาจะรู้สึกว่ารอยยิ้มของเจ้าหมอนั่นมันดูเศร้าสร้อยได้อย่างไรกัน   แต่ไหนแต่ไรเซบาสเตียน  ..ไม่สิ..  ปีศาจในคราบพ่อบ้านของเขารักษากิริยาอย่างไม่มีที่ติมาตลอด   เรื่องการแสดงความรู้สึกทางสีหน้านั้นเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด


“ออกไปข้างนอกกันเถอะ.   แล้วคุณกับผมมาตัดสินกันอีกครั้ง” 


พ่อบ้านแห่งแทรนชี่ยื่นข้อเสนอขณะที่กลัดกระดุมเสื้อเชิร์ตตัวในแล้วจึงค่อยจัดริบบิ้นที่คอให้เรียบร้อย   คราวนี้เขาจะขอเดิมพันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่   เขาจะกำจัดเจ้าปีศาจตนนี้ให้ดับสูญสิ้นตัวตนไปตลอดกาลและชิงตัวชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์มาเป็นสมบัติให้จงได้


“แล้วก็ปล่อยให้เจ้าของน้ำตาฟินิกซ์อยู่คนเดียวตามลำพังเพื่อรอให้ใครอื่นมาชิงตัวไปอีกน่ะหรือครับ..  เป็นความคิดที่โง่สิ้นดี”  ปีศาจหนุ่มอีกตนสวนขึ้นทันควันพลางส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย


“จะไม่มีการต่อสู้อะไรทั้งนั้นล่ะครับคุณคลอท..  ในเมื่อผลการตัดสินระหว่างเรามันชัดเจนมานานแล้ว  

ปีศาจที่ดับสูญไปแล้วครั้งหนึ่งอย่างคุณไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกร้องเอาอะไรทั้งนั้น    อย่าลืมสิว่าผมเป็นคนดึงตัวคุณกลับมาจากการล่องลอยไปตามยถากรรมในฐานะของเงา 

นอกจากนี้การที่คุณต้องอยู่ในสภาพนั้นเพราะดาบปีศาจคงทำให้เจ้าเหนือหัวของคุณไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่   และท่านผู้นั้นก็คงจะยิ่งไม่ชอบเอามากๆ ถ้าหากคุณต้องกลับไปเป็นเงาอีกครั้ง..   จริงมั้ยครับ”


“น้ำหน้าอย่างคุณจะทำได้หรือ”  คลอทไม่แยแสคำขู่   นัยน์ตาสีอำพันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทอประกายจ้าเพราะคำสบประมาท    ถึงแม้ว่าการย้ำเตือนให้นึกถึงผู้เป็นนายจะทำให้เขานึกขยาดอยู่บ้างก็ตาม 


เบเอลเซบูล..   เจ้าแห่งแมลงวัน   คือปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งสร้างเขาขึ้นมาเมื่อหลายศตวรรษก่อน   ท่านเป็นยิ่งกว่าเจ้าเหนือหัว   ยิ่งกว่าบิดา   และคำสั่งจากท่านผู้นี้คือประกาศิตเพียงหนึ่งเดียวในโลกซึ่งคลอทไม่อาจเพิกเฉย 


“เมื่อนึกถึงท่านผู้นั้นแล้วผมก็ยังคงยืนยันคำเดิมครับ   จะไม่มีการต่อสู้ระหว่างเราอีก

เพราะคุณไม่มีค่าถึงขนาดที่ต้องให้ผมลงมือเองหรอก”



คำพูดของฝ่ายตรงข้ามส่งผลให้คลอทต้องนิ่งงันพร้อมกับอดสังหรณ์ใจไม่ได้  

เพราะอะไรเจ้าหมอนี่ถึงได้จงใจพูดถึงท่านเบเอลเซบูล  ..เจ้าเหนือหัวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า   ทั้งๆ ที่แต่ไหนแต่ไรมาปีศาจคนละสังกัดเช่นนี้มักไม่มีความสนใจในตัวผู้ที่ไม่ใช่นายของตนเอง   ..เป็นเพราะอะไร..

หรือว่า..


นาทีนั้นซาตานาเกียเผยอรอยยิ้มที่เผยคมเขี้ยวคู่หน้าให้เห็น   พร้อมด้วยสีหน้ากระหยิ่มซึ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับขนลุกซู่    คลอท  ฟอลทัสขบกรามแน่นด้วยความแค้น


เซบาสเตียน  มิคาเอลลิส..  ไอ้ปีศาจจอมเจ้าเล่ห์!



“ลาก่อน..  คุณคลอท”   นัยน์ตาแดงทอแสงจ้าอย่างสาสมใจเมื่อตระหนักได้ถึงการรับรู้ของอีกฝ่าย  


“หวังว่าคราวนี้คุณคงตัดใจจากเด็กคนนี้ได้เสียทีนะครับ   และดูท่าทางท่านผู้นั้นคงจะไม่ปล่อยตัวคุณออกมาอีกในเร็ววันเสียด้วยสิ” 


ซาตานาเกียเดินไปที่ริมหน้าต่างแล้วกระชากม่านกำมะหยี่ออก   และนาทีนั้นแมลงวันสีดำขนาดยักษ์น่าเกลียดน่ากลัวฝูงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่นอกหน้าต่าง   พวกมันไม่ได้บินกรูกันเข้ามาในห้องหรือพยายามจะทำอะไรนอกจากตั้งใจปรากฏตัวให้เห็น

และเมื่อได้พบเข้ากับตัวตนส่วนหนึ่งของผู้เป็นนายก็เกินพอแล้วที่จะส่งผลให้คลอทต้องตะลึงงัน..   ถึงแม้เบเอลเซบูลจะมิได้มาด้วยตนเองแต่ก็ทำให้พ่อบ้านแห่งแทรนชี่สิ้นทางขัดขืน    เขาจำต้องคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมๆ กับคืนสู่สภาพดั้งเดิมของตนเอง   เพื่อแสดงอาการรับรู้ถึงจิตส่วนหนึ่งที่ผู้เป็นนายส่งออกมาพร้อมทั้งคำสั่งให้กลับไปหา  

เช่นเดียวกับปีศาจตนอื่นๆ   ..ยามที่ท่านผู้นั้นปรากฏกายหรือแม้แต่ส่งจิตมาตรวจสอบความเป็นไปต่างๆ เช่นนี้    คลอท  ฟอลทัส..  ไม่สิ  ฟอร์เรนเต้ก็ไม่อาจคงรูปกายอื่นเอาไว้ได้   เขาจำต้องกลับคืนสู่สภาพดั้งเดิมพร้อมกับค้อมศีรษะที่มีเขาสีดำขนาดใหญ่ซึ่งม้วนตัวลงด้านข้างราวกับเขาแพะลงเพื่อแสดงการคารวะ  


ให้ตายเถอะ..

ขอแช่งชักวินาทีที่เขาได้ให้สัตย์สาบานว่าจะสวามิภักดิ์และเชื่อฟังคำสั่งผู้เป็นนายจนกว่าชีวิตจะหาไม่

เพราะนั่น   ทำให้เขาต้องวางมือจากชิเอล แฟนธอมไฮฟ์อย่างเลี่ยงไม่ได้..



คลอทไม่รู้ว่าเซบาสเตียน   มิคาเอลลิสใช้วิธีใดจึงขอร้องให้ท่านผู้นั้นตามตัวเขากลับไปได้   แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาสัมผัสได้..  หมอนี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากเด็กคนนี้   ทั้งที่ไม่มีพันธะต่อกันแล้ว   ทั้งที่ไม่มีวิญญาณให้สูบกลืน..  หากเซบาสเตียนก็ยังคงตามติดอีกฝ่ายไม่ยอมลดละ  

อา.. 

เวลาของเขา ณ  ที่แห่งนี้เหลือน้อยเต็มที่แล้ว   เวลานี้ทั่วร่างเขาเจ็บปวดทรมานราวกับถูกเผาทั้งเป็น..   บอกให้รู้ว่าผู้เป็นเจ้าเหนือหัวคงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีนัก   และท่านก็กำลังเร่งให้เขากลับไปโดยเร็ว  


ไม่มีเวลาอีกแล้ว..  เขาหันไปมองชิเอลอีกครั้งอย่างอดไม่ได้พร้อมๆ กับที่ตระหนักว่ามันคงถึงเวลาที่ตนต้องยอมตัดใจเสียที 


..ไม่..  เพียงแค่ยอมรามือในตอนนี้เท่านั้น  

ทันทีที่ท่านผู้นั้นยอมปล่อยตัวเขา   ไม่ว่าจะอีกกี่สิบกี่ร้อยปี..   เป็นได้เจอกันอีกแน่  


..ฝากไว้ก่อนเถอะ..







..............................................  


ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์ลุกขึ้นยืนช้าๆ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง   มือน้อยขยุ้มสาบเสื้อที่ฉีกขาดไว้แน่นขณะที่เพ่งมองภาพด้านหลังของอดีตพ่อบ้านของตนเอง   หมอนี่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิด   ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคงเชิดหน้าขึ้นอย่างผู้ที่พร้อมเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้   บ่ากว้างทั้งสองยังคงตั้งตรงประหนึ่งยินดีจะแบกรับภาระหนักหนาสาหัสใดๆ ก็ตามที่ถาโถมลงมาใส่   ใช่..  เป็นเช่นนี้เสมอมา   ดังนั้นภาพรอยยิ้มอันแสนเศร้าเมื่อครู่นี้ก็คงมิได้เป็นอะไรมากไปกว่าลูกเล่นตุกติกของแสงจันทร์สีเลือด   ที่ส่องกระทบใบหน้าซึ่งฉาบรอยยิ้มจนทำให้แลเห็นทุกสิ่งบิดเบือนไปจากความเป็นจริง  

หนุ่มน้อยคงจะเฝ้ามองอดีตคนสนิทของตนอย่างเงียบๆ ไปอีกพักใหญ่   หากอีกฝ่ายไม่หันหน้ากลับมาเสียก่อน    และนาทีที่ได้สบสายตากัน..  ภาพเก่าๆ ในวันวานก็ผุดขึ้นมาตรงหน้าเป็นฉากๆ พร้อมด้วยความกระอักกระอ่วนใจ   ชิเอลยกมือขึ้นสัมผัสตาข้างขวาที่ไร้สัญลักษณ์แห่งพันธะของตนเอง  ..เขาควรจะเรียกหมอนี่อย่างไรดี   ในเมื่อเวลานี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามิใช่พ่อบ้าน   มิใช่คนรับใช้ที่พร้อมจะก้มหน้ารับคำสั่งจากเขาอีกต่อไปแล้ว   จากคนรู้ใจที่เคยอยู่ใกล้ชิดที่สุดเวลานี้กลับกลายเป็นอะไรไปแล้วเขาเองก็ยากที่จะบอกได้   แต่ยังดีที่อย่างน้อยหมอนี่ก็ไม่ได้เดินหนีเขาไป..  ทว่าก็มิได้พูดอะไรนอกจากจ้องมองกลับมาอย่างเงียบๆ เท่านั้น


..เซบาสเตียน..


“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้  ..ปีศาจ..  ”
  

ซาตานาเกียดวงตาเบิกโพลงเมื่อน้ำเสียงนุ่มหูที่คุ้นเคยเอ่ยคำขอบคุณ   ..เป็นครั้งแรก  

คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ใช่อดีตนายน้อยของเขาจริงๆ น่ะหรือ   เด็กคนนี้จะใช่ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์คนที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยยอมอ่อนเข้าหาใคร   ทั้งยังหยิ่งยโสอยู่แทบทุกลมหายใจจริงน่ะหรือ   แล้วเขาล่ะ..  ในเมื่อเวลานี้เขาไม่ใช่พ่อบ้านปีศาจที่มีพันธะสัญญาด้วยอีกแล้ว   คำที่เขาควรจะตอบรับคืออะไร  


“ไม่ต้องกังวลไปนะ..  ฉันรู้ว่านายกำลังลำบากใจ”


ปีศาจหนุ่มยังไม่ทันได้ตอบคำก็กลับต้องเป็นฝ่ายตกตะลึงเป็นรอบที่สอง    เมื่อร่างน้อยซึ่งคลุมทับด้วยเสื้อขาดรุ่งริ่งสีเขียวเข้มซึ่งดูใหญ่เกินตัวไปมากเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา   ก่อนจะหยุดยืนตรงอยู่ตรงหน้าเขาแล้วเงยหน้าขึ้นมอง


“และดูเหมือนคุณเองก็ต้องพบกับเรื่องร้ายๆ อยู่เกือบตลอดเวลานับจากเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อนสินะครับ” 


“ผิดแล้ว”  อดีตเจ้านายตัวน้อยมีสีหน้าอ่อนลงนิดหนึ่งก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น  


“เราทั้งคู่ต่างก็ลำบากต่างหาก  ..อย่า..”  ชิเอลยกมือห้าม 

“อย่าเพิ่งแย้ง..  ขอให้ฉันพูดจบเสียก่อนเถอะ  ..นายอาจจะไม่เห็นด้วย   แต่ฉันเชื่อว่านายเองก็คงพบความลำบากไม่ต่างกับฉันนัก  ..ปีศาจ”


“นั่นคือเหตุผลที่ทำให้คุณมีทีท่าที่อ่อนลงต่อหน้าผมงั้นหรือ   ..เพียงเพราะความสงสารเห็นใจ   หรือเวทนาผมเท่านั้น”  ด้วยเจตนาจะลองใจ   ซาตานาเกียเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยใช้พูดกับผู้เป็นนายมาก่อน   ทว่าปีศาจตัวน้อยกลับไม่มีปฏิกิริยาอันใด   ไม่มีแม้กระทั่งอาการขมวดคิ้ว


“ไม่ใช่”


และคำตอบที่ได้รับก็ทำให้ปีศาจหนุ่มยิ่งกว่าตะลึงงัน


“เป็นเพราะฉันไม่ได้วางตัวเป็นเจ้านายอีกต่อไปแล้ว   นายไม่สังเกตรึ..”   ชิเอลยังคงรวบเสื้อขาดๆ ของตนไว้ขณะที่หมุนกายเดินไปที่หน้าต่างพลางเอามือไพล่หลังตามความเคยชิน   “เวลานี้ฉันไม่ได้เรียกนายว่า เซบาสเตียน อีกแล้ว”


“เพราะอะไร”


“เมื่อไม่มีสัญลักษณ์แห่งพันธะสัญญา   นายก็ไม่ใช่คนรับใช้ของฉันอีกต่อไป  

ดังนั้นเราจึง เท่าเทียมกัน”


..เท่าเทียม?..


ซาตานาเกียได้แต่จ้องมองด้านหลังของอดีตผู้เป็นนายอย่างงงงัน   เมื่อคำเพียงคำเดียวในโลกนี้ที่ตนไม่เคยคิดฝันว่าจะได้ยินจากปากของอีกฝ่ายสะท้อนก้องกลับไปกลับมาอยู่ในใจ 


“ฉันไม่ได้สงสารหรือเห็นใจนายแล้วก็ไม่ได้เวทนาด้วย   แต่เพราะเห็นว่าตอนนี้นายไม่ควรจะถูกเรียกด้วยชื่อพรรค์นั้นอีก    ถึงแม้เรื่องที่พันธะสัญญาถูกทำลายจะไม่ใช่ความตั้งใจของเรามาตั้งแต่แรก   แต่นั่นก็คือความจริงที่เราต้องยอมรับ”


“ถ้าเช่นนั้นการที่ผมไม่ได้คุกเข่าลงเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณก็คงเป็นสิ่งที่คุณยอมรับได้สินะ”


ไม่มีเสียงตอบจากคนที่ถูกถาม..   ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์หมุนร่างกลับมาพร้อมด้วยสีหน้าเรียบเฉย   มิใช่กิริยาวางอำนาจอย่างทุกครั้ง  


“ฉันคิดดีแล้วถึงได้พูดออกไป   การไม่มีนายอยู่เคียงข้างหลายวันมานี้ทำให้ฉันได้เข้าใจมากขึ้นว่าตนเองเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งแห่งตน   ฉันรู้ว่าจะต้องเข้มแข็งเพื่อให้มีชีวิตรอดด้วยตนเอง  

แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่อยากจะขอให้นายช่วย   ถ้านายยอมรับมันได้นะ”

 
“ความเท่าเทียมงั้นหรือครับ..   ก็ได้   ผมยอมรับน้ำใจของคุณ”


“ดี”  ปีศาจหนุ่มน้อยถอนหายใจก่อนจะยิ้มเศร้าๆ   และนั่นทำให้อีกฝ่ายเกิดลางสังหรณ์ในทางที่ไม่ดีนัก   ซาตานาเกียไม่รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่    นี่ถ้าหากว่ายังมีพันธะสัญญาอยู่ล่ะก็..


“ในเมื่อนายรู้เห็นตัวตนทั้งหมดของฉันมาตั้งแต่แรกแล้ว   ฉันเองก็อยากจะได้ในสิ่งที่เหมือนๆ กันจากนายด้วย   ทั้งชื่อที่แท้จริง   รูปร่างหน้าตา   ทุกสิ่งทุกอย่าง”


“ทุกอย่างของผม..   คุณจะอยากรู้ไปทำไมกัน” 


นั่นปะไร..  นี่คิดจะให้เขาเปิดเผยในสิ่งที่เคยปกปิดอย่างสุดชีวิตมาตลอดงั้นหรือ   หากไม่นับเรื่องที่ตนถูกทรมานครั้งล่าสุดแล้ว   ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ซาตานาเกียอยู่ในคราบของ เซบาสเตียน  มิคาเอลลิส   ก็มีอยู่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่เกิดเหตุซึ่งทำให้เขาต้องคืนสู่ร่างที่แท้จริง    นั่นคือตอนที่สังหารพ่อบ้านขององค์ราชินี   ..เทวดาวิปริตผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังราชวงศ์อังกฤษ    และในเวลานี้..


“อย่าบอกนะ..  ว่านายกลัวเรื่องแค่นี้”  แววเยาะเย้ยในดวงตากลมโตที่กำลังมองมาทำให้เขาตัดสินใจได้ในที่สุด


“กลัวน่ะหรือ..  หึ  หึ  หึ..”


แทนที่จะตอบ   ปีศาจหนุ่มกลับหัวเราะเสียงแผ่วในลำคอ    แล้วน้ำเสียงทุ้มนุ่มแบบมนุษย์ก็ค่อยๆ แหบห้าวลงทีละน้อยพร้อมกับรูปร่างที่เปลี่ยนไป  

เวลานี้สูททักสิโดชายยาวแบบพ่อบ้านชักจะดูไม่เข้ากันกับขนาดของร่างกายที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เสียแล้ว   จนในที่สุดมันก็แปรเปลี่ยนเป็นชุดคลุมยาวแบบโบราณสีขาวสะอาดทิ้งชายยาวจรดพื้น   เส้นผมซึ่งเคยระต้นคอค่อยๆ ยืดยาวออกแล้วแผ่สยายคลุมแผ่นหลังพร้อมกับสองเขาขนาดใหญ่บนศีรษะซึ่งม้วนตัวลงด้านข้าง   ขณะที่แขนขาซึ่งเพิ่มขนาดขึ้นรวมทั้งส่วนอื่นๆ ในร่างกายเปลี่ยนเป็นสีดำมันวาวเต็มไปด้วยมัดกล้าม   ดูแข็งแกร่งบึกบึนเสียจนไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ปราศจากความนุ่มนวลแบบผิวของมนุษย์   ตามด้วยปีกดำคู่ใหญ่ที่สะบัดออกเต็มความกว้างก่อนจะหุบแนบลำตัวเป็นอันดับสุดท้าย  

นาทีนี้ความกดดันเข้มข้นจนแทบจะจับต้องได้ส่งผลให้ชิเอล   แฟนธอมไฮฟ์เผลอถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยความลืมตัว   เมื่อรูปกายอันน่าสะพรึงกลัว..  กับรังสีคุกคามอย่างมิได้ปิดบังจากปีศาจซึ่งอยู่ในรูปลักษณ์ที่แท้จริงตรงหน้าตนนี้ทำให้หัวใจเต้นเร็วแรงเพราะความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต   ราวกับบรรยากาศรอบๆ ตัวกำลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเพราะขุมพลังมหาศาลเสียจนในสองหูได้ยินแค่เพียงเสียงดังหึ่งๆ เท่านั้น   หนุ่มน้อยกลืนน้ำลายเหนียวหนึบลงคอพลางปลุกปลอบใจตนเองให้กล้าหาญ   แล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าซึ่งไม่เหลือเค้าเดิมของพ่อบ้านตนที่เคยรู้จักอีกต่อไป  


“ชื่อของนายล่ะ..  ปีศาจ”


“ซาตานาเกีย   ..ขุนพลฝ่ายขวาของเจ้านรก” 


ชิเอลขบกรามแน่นพลางบังคับให้ตนเองยืนปักหลักด้วยความมั่นคงยามเมื่อเสียงดังกระหึ่มเอ่ยแนะนำตัว   แล้วมองสำรวจโครงหน้าที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก   ถึงแม้ว่าจะเข้าขั้นอัปลักษณ์.. ทว่าปีศาจตนนี้ก็ยังมิได้มีกลิ่นตัวรุนแรงเหมือนกับบางตนที่เขาเคยพบ   ซาตานาเกียมีผิวสีดำสนิทเป็นมันเงาเช่นเดียวกับเส้นผมยาวตรงถึงบั้นเอว   จมูกโด่งเป็นสัน   พร้อมด้วยเขี้ยวยาวขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือข้างหนึ่งโผล่พ้นออกมาจากริมฝีปากสีดำที่ปิดสนิท..  ปราศจากรอยยิ้ม   หนุ่มน้อยมองดูรอยแผลเป็นเล็กๆ ที่โหนกแก้มข้างซ้ายซึ่งลากยาวเกือบถึงใต้ดวงตา   และเมื่อเลื่อนสายตาขึ้นสบประสานกับนัยน์ตาที่ดูสุขุมลุ่มลึกเขาก็จดจำอีกฝ่ายได้ทันที   ชิเอลถึงกับหายใจไม่ออกเมื่อนึกขึ้นได้..   ภาพบาดแผลฉกรรจ์   ทะเลเลือดขังนองเป็นแอ่งที่ส่งกลิ่นคาวคลุ้งชวนคลื่นเหียน   และผู้ถูกลงทัณฑ์ที่น่าสมเพทเวทนาตนนั้น..


“..นาย..  คือปีศาจตนนั้นน่ะเอง” 


ภาพเมื่อครั้งที่ตนเดินเคียงคู่ไปกับราชาปีศาจตามระเบียงทางเดินในวังและได้พบกับสภาพอันน่าสยดสยองของปีศาจที่ถูกทรมานอย่างสาหัสตนหนึ่งพลันผุดขึ้นในความทรงจำ   และแววตระหนักรับรู้ในดวงตาของอดีตเจ้านายตัวน้อยก็ส่งผลให้ซาตานาเกียถอนหายใจ   ก่อนจะเบือนหน้าหนีในที่สุด


...มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาไม่เคยอยากให้เด็กคนนี้รับรู้

ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไรก็ตาม..



“เดาว่าวันนั้นสาเหตุที่นายมาช้าคงเป็นเพราะเรื่องนี้สินะ”  

ในที่สุดชิเอลก็เข้าใจ   ในตอนนั้นเขาเฝ้ารอพ่อบ้านของตนอยู่หลายวันกว่าที่อีกฝ่ายจะมาหา   เพราะอย่างนี้นี่เอง..  หมอนี่ถูกทำทารุณถึงเพียงนั้นต่อให้อยากจะมาหาเขาสักเพียงใดก็คงทำไม่ได้สินะ    แต่ถึงอย่างนั้นเซบาสเตียนก็ยังมา   ถึงจะถูกทรมานหนักถึงเพียงนั้นก็ยังเอาตัวเข้าขวางและคอยปกป้องเขาผู้เป็นนายอย่างไม่เสียดายชีวิต   และอึดใจนั้นเองที่หนุ่มน้อยได้ตระหนักชัดพร้อมด้วยความตกใจ..  แท้จริงแล้วตัวตนของเซบาสเตียนนั้นหยั่งรากลึกอยู่ในใจเขามากเกินกว่าที่เขาเคยรู้   พ่อบ้านของเขา..  ปีศาจตนนี้มีอิทธิพลต่อเขาเกินกว่าที่เขาคาดคิด  


“แล้วเรื่องที่อยากจะขอให้ผมช่วยคืออะไร” 


ความจริงที่เพิ่งรับรู้เปรียบดังสายฟ้าที่ฟาดลงกลางใจ   ดวงหน้าที่ซีดเผือดเพราะความตระหนกกับความจริงในใจตนหันกลับมายังร่างดำทะมึนที่สูงจนเกือบถึงเพดานห้องอย่างช้าๆ    ชิเอลเม้มริมฝีปากตนเองแน่นอย่างชั่งใจแล้วเอ่ยเสียงเรียบ


“อยากให้พาฉันกลับคฤหาสน์ที่อังกฤษ   แล้วทำให้เรื่องทุกอย่างนี้สิ้นสุดด้วยมือนาย”  คำตอบ.. ซึ่งแทบจะไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบผ่านพ้นริมฝีปากที่ขบเม้มจนเปลี่ยนเป็นสีแดง   อันแสดงถึงความลังเลและลำบากใจในการตัดสินใจของตนเอง


“หมายความว่า..”


“ถูกแล้ว..  ฉันกำลังขอให้นายครอบครองน้ำตาฟินิกซ์”  


ครั้งนี้ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์เน้นย้ำอย่างชัดถ้อยชัดคำ   พร้อมกับแตะมือลงบนหลังมืออันใหญ่โตของอดีตพ่อบ้านพลางเงยหน้าขึ้นมองจนคอตั้ง   ขณะที่ปีศาจหนุ่มย่อกายลงนั่งชันเข่าเพื่อให้อีกฝ่ายมองสบสายตาได้สะดวกขึ้น

“นายเป็นผู้เริ่มเรื่องนี้ในตอนแรก..  แล้วก็จะเป็นผู้จบด้วย”  หนุ่มน้อยขยับเข้าไปหาอีกก้าวหนึ่งแล้วยืดแขนขึ้นสัมผัสแก้มที่เย็นชืดและแข็งกระด้าง  


ขณะที่ซาตานาเกียนิ่งฟังอย่างสงบพลางชำเลืองสายตามองมือน้อยๆ ที่ทั้งเย็นและแผ่วเบาจนไม่รู้สึกอะไรยามที่สัมผัสใบหน้าตน   ..ไม่ดีเลย..  เขาคิดถึงไออุ่นยามที่เด็กคนนี้ยังมีเลือดเนื้อในฐานะมนุษย์มากกว่า  


“นี่ไม่ใช่คำสั่ง   แต่เป็นคำขอร้องจากใจฉัน” 


เมื่อจบคำชิเอลก็ทำในสิ่งซึ่งไม่เคยทำมาก่อน   หนุ่มน้อยปิดเปลือกตาลงพลางเขย่งตัวขึ้นแนบริมฝีปากเข้าหาริมฝีปากอดีตพ่อบ้านของตนแล้วประทับนิ่งอยู่เช่นนั้น    และสัมผัสอันอ่อนนุ่มและไร้เดียงสาจากอดีตผู้เป็นนายทำให้ซาตานาเกียถึงกับตะลึงงัน    

เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีวันที่เด็กคนนี้ยอมทำถึงเพียงนี้   ..ชิเอล  แฟนธอมไฮฟ์เป็นฝ่ายจูบเขาก่อนงั้นหรือ..   เป็นไปได้อย่างไรกัน    ทว่าน่าเสียดายที่ในเวลานี้เขาไม่อาจตอบสนองใดๆ ได้   ตราบใดที่ยังอยู่ในร่างที่แท้จริงเช่นนี้พละกำลังของเขาก็มากเกินกว่าที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับใคร    อันที่จริงเขาไม่ควรแตะต้องอะไรเลยด้วยซ้ำ    หากซาตานาเกียกลับพบว่าตนเองเชยคางเล็กๆ ขึ้นด้วยปลายนิ้วแล้วขยับริมฝีปากตอบอย่างระมัดระวัง   กระนั้นเขี้ยวคมในปากก็ยังเจาะริมฝีปากอีกฝ่ายให้เป็นแผลจนได้ลิ้มรสโลหิต   และนั่นทำให้เขาจำใจผละออกจากหนุ่มน้อยก่อนจะคืนสู่ร่างมนุษย์ในที่สุด  


“เช่นนั้น..”  ซานานาเกียกระซิบแผ่วข้างริมหู   ก่อนจะช้อนร่างแบบบางขึ้นอุ้มแล้วลุกขึ้นยืน   “ผมก็จะขอสานต่อในสิ่งที่เริ่มค้างไว้   และคราวนี้จะไม่มีใครมาขัดจังหวะเราอีก”


 “ใช่แล้ว..  จบเรื่องนี้เสียที    ฉันเบื่อการถูกไล่ล่าเต็มทีแล้ว”  ปีศาจหนุ่มน้อยโอบท่อนแขนไปรอบลำคออดีตพ่อบ้านแล้วปล่อยให้ร่างในชุดสูทดำสนิทพากระโจนจากขอบระเบียงออกไปเบื้องนอก  


..ใช่..  หลังจากนี้จะได้กลับบ้านและจบเรื่องนี้เสียที  




ด้วยการมอบชีวิตของนาย

ให้กับฉัน...





5 ความคิดเห็น:

  1. อยากอ่านต่ออ่ะ เขียนต่ออีกได้หรือเปล่า
    อยากอ่านตอนชิเอลตั้งท้องด้วย >///<

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สามารถอ่านจนจบได้ที่นี่ค่ะ

      http://my.dek-d.com/Moondrop/writer/view.php?id=840127

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ19/7/57 06:48

    เอ่อ แอบงงตอนจบค่ะ "ด้วยการมอบชีวิตของนายให้กับฉัน" คือ ?? แต่งต่ออีกนิดเถอะค่ะ ปล. ไม่รู้หลงเข้ามาในคลังนี้ได้ยังไง แต่นิยายสนุกมากค่ะ แต่งด้วยจินตนาการเก่งมาก เราก็พึ่งมาเห็น 2557 ล่ะ 555 ไม่รู้ว่าคุณจะเข้ามาดูกระทู้นี่บ้างมั้ย แต่อยากอ่านผลงานล่าสุดในปีนี้นะค่ะ

    ตอบลบ
  3. เอ่อ แอบงงตอนจบค่ะ "ด้วยการมอบชีวิตของนายให้กับฉัน" คือ ?? แต่งต่ออีกนิดเถอะค่ะ ปล. ไม่รู้หลงเข้ามาในคลังนี้ได้ยังไง แต่นิยายสนุกมากค่ะ แต่งด้วยจินตนาการเก่งมาก เราก็พึ่งมาเห็น 2557 ล่ะ 555 ไม่รู้ว่าคุณจะเข้ามาดูกระทู้นี่บ้างมั้ย แต่อยากอ่านผลงานล่าสุดในปีนี้นะค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สามารถอ่านจนจบได้ที่นี่ค่ะ

      http://my.dek-d.com/Moondrop/writer/view.php?id=840127

      ลบ