‘เขา’ เฝ้ารอที่จะได้ข่าวคราวเบาะแสเกี่ยวกับเจ้าของน้ำตาฟินิกซ์ตัวน้อยคนนี้มานานแล้ว จนกระทั่งวันนี้เอง.. ที่สมุนปีศาจซึ่งอยู่ในสภาพถูกเผาจนสะบักสะบอมหอบสังขารรุ่งริ่งกลับมารายงาน
คงมีแต่ตัวเขาเองกระมังที่รู้..
ว่ามันต้องใช้ความอดทนมากเพียงใดกับการรอคอยอย่างสงบขณะที่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเช่นนี้ เพราะรู้ดีว่ายิ่งร้อนใจเท่าไร.. ก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นอกาเลียเรปให้ลงมือกับเด็กคนนี้มากขึ้นเท่านั้น ซาตานาเกียจำต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาชิเอล แฟนธอมไฮฟ์มีความสามารถในการหลบซ่อนตัวมากกว่าที่คิดไว้ เพราะกว่าที่พวกพ้องปีศาจของเขาจะหาตัวพบเป้าหมายคนสำคัญก็ถูกรายล้อมไปด้วยสารพัดผู้หมายปองที่เปิดศึกแย่งชิงกันแล้ว ลงท้ายด้วยการถูกจับตัวได้ในที่สุดและเกือบจะถูกครอบครองโดยปีศาจ.. ที่น่าเหยียบให้จมดินตนนี้
ในอาณาจักรแห่งความมืดนี้ นอกจากซาตานแล้วยังมีปีศาจผู้ยิ่งใหญ่อีกตนหนึ่งที่ปกครองดินแดนอีกส่วนอยู่ ..นั่นคือเบเอลเซบูล ..ผู้ซึ่งไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากน้ำมือของปีศาจตนใด
เบเอลเซบูลนั้นมิได้รับสืบทอดพลังอำนาจไปจากซาตาน ดังนั้นจึงมิได้เข้าสวามิภักดิ์มากเท่าๆ
กับที่ไม่ตั้งตนเป็นศัตรู
ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงได้แบ่งปันอาณาเขตปกครองกันมาช้านานแล้วโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีบริวารของตนเอง มีเขตแดนของตนเองรวมทั้งร่วมแบ่งปันและคานอำนาจซึ่งกันและกันอยู่
เขาต้องโทษตัวเองที่ดันลืมเจ้าหมอนี่ไปเสียสนิท
..ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าสมุนคนสนิทของเบเอลเซบูล ซึ่งเป็นไอ้ตัวแสบไม่แพ้อกาเลียเรปยังคงหมายปองตัวอดีตเจ้านายของเขาอยู่ และคลอท
ฟอลทัส.. หรือในอีกชื่อหนึ่ง ‘จอมตะกละฟอร์เรนเต้’ ก็ปรากฏตัวออกมาจริงๆ เสียด้วย เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ไม่มีผิดว่าเจ้านี่จะต้องกลับมาในฐานะที่เป็น.. ซาตานาเกียถอนหายใจ.. หมอนี่จะเป็นอะไรก็ช่างเถอะ
ในเมื่อหลังจากนี้มันจะไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าอดีตที่ไม่มีค่าให้จดจำอีกแล้ว
ในร่างมนุษย์.. ซาตานาเกียจ้องมองปีศาจอีกตนหนึ่งด้วยแววตาเย็นเยียบ ก่อนจะเลยผ่านไปยังร่างเล็กขาวโพลนที่นอนตัวสั่นระริกอยู่ใต้ร่างอีกฝ่าย ปีศาจหนุ่มแลเห็นความไม่อยากเชื่อระคนประหลาดใจปรากฏอยู่ในดวงตาสีทับทิมที่กำลังเบิกโพลงคู่นั้น แต่อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็ยังปลอดภัยดี
และนั่นทำให้เขาลอบถอนหายใจก่อนจะมองสำรวจอย่างไวๆ รอบหนึ่ง เส้นผมเปียกเหงื่อลู่ติดหนังศีรษะล้อมกรอบดวงหน้าซีดขาวซึ่งเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อไหลโทรมก็จริงอยู่ ทว่าริมฝีปากสั่นระริกที่รีบเม้มสนิท กับเรียวขาเรียบเนียนที่รีบหุบเข้าหากันทันทีที่ได้เห็นเขาบอกให้รู้ว่าอดีตเจ้านายตัวน้อยยังมีทิฐิอยู่อีกเหลือเฟือ และถ้าเป็นเช่นนี้ก็ยังนับว่าไม่น่าห่วงนัก
ซาตานาเกียเลื่อนสายตาลงไปยังแผ่นอกเล็กบางหอบกระเพื่อมซึ่งเต็มไปด้วยรอยช้ำเป็นจ้ำจากสัมผัสของคลอท ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นจับจ้องใบหน้าอีกครั้ง
ไม่ได้เห็นเพียงพักเดียวเท่านั้น.. ทว่าเหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าชิเอล แฟนธอมไฮฟ์เปลี่ยนไปมากนัก มิใช่เพราะรูปกายภายนอก
มิใช่เพราะลักษณะท่าทางที่แสดงออกหรือแม้กระทั่งสายตาที่มองจ้องกัน มีอะไรบางอย่างซึ่งซ่อนอยู่ลึกๆ
ในตัวเด็กคนนี้ที่เติบกล้าขึ้น
และเขารู้สึกถึงมันได้ราวกับสิ่งนั้นกำลังสื่อสารอยู่กับเขาโดยตรงเลยทีเดียว แต่เรื่องหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือ ความมีหัวใจของนักสู้ที่เข้มแข็งไม่แปรเปลี่ยนแม้ว่าจะไม่มีเขาอยู่ข้างกายอีกแล้วก็ตาม และมันทำให้ปีศาจหนุ่มรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมาอย่างประหลาด
“ผมน่าจะรู้นะ..” คลอท
ฟอลทัสถอนหายใจอย่างสุดแสนเซ็งเมื่อถูกขัดจังหวะ
“ผมน่าจะรู้ว่าคุณคงยังไม่ปล่อยมือจากนายน้อยง่ายๆ” พ่อบ้านแห่งแทรนชี่จบคำก่อนจะยันกายขึ้นจากพื้นแล้วถอยห่างออกมาแต่โดยดี
ในฐานะที่เป็นปีศาจระดับสูงซึ่งไม่ควรต้องแยแสกับวิญญาณของมนุษย์ เขา..
รนหาที่ด้วยการตอบรับเสียงเพรียกของอลัวส์
เเทรนชี่ เพราะถูกใจในความทะเยอทะยานและหิวกระหายซึ่งไม่มีที่สิ้นสุดของเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนั้น ในเวลานั้นเขาเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์พลางปกปิดนามดั้งเดิมของตนเองแล้วไปเล่นละครเป็นพ่อบ้านให้กับคู่พันธะสัญญา
แทนที่จะบอกชื่อที่แท้จริงของตนเอง ..ฟอร์เรนเต้.. เจ้าแห่งแมงมุม ซึ่งนายเหนือหัวเป็นผู้ตั้งให้ เขากลับนำชื่อนั้นมาบิดเสียใหม่เป็น
..ฟอลทัส.. เพราะภาคภูมิในชาติกำเนิดของตนเกินกว่าจะยอมให้มนุษย์ชั้นต่ำได้รู้ชื่อจริง เขาปรากฏตัวในอาณาจักรของมนุษย์เพียงเพราะอยากจะฆ่าเวลาเล่นไปพร้อมๆ
กับได้อิ่มท้องในเวลาเดียวกัน และนั่นทำให้เขากินไม่เลือก ..หรือถึงแม้จะเลือกก็ไม่ได้เรื่องมากนัก เพราะวิญญาณมนุษย์มิใช่สิ่งมีค่าถึงเพียงนั้น
จนเมื่อได้สัมผัสกับวิญญาณของชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์ คลอทจึงได้รู้ว่าตนเองคิดผิดถนัด ประมุขน้อยของตระกูลแฟนธอมไฮฟ์ผู้นี้มีดวงวิญญาณที่เจิดจรัส
ทั้งสะอาดบริสุทธิ์แม้จะจมจ่อมอยู่ท่ามกลางโคลนตม
และไม่ว่าจะตกอยู่ในห้วงเหวลึกที่ดำมืดสักเพียงใดก็ยังคงเปล่งประกายอย่างงดงามจนทำให้เขาอดใจไม่อยู่
ทว่าของล้ำค่าเช่นนั้นกลับตกอยู่ในมือของปีศาจอีกตนหนึ่ง..
กี่ครั้งแล้วที่ปีศาจระดับสูงอย่างพวกตนต้องมาปะทะกันเองเพียงเพราะวิญญาณของเด็กคนนี้เป็นต้นเหตุ หลังจากที่วางแผนชิงไหวชิงพริบอยู่นานจนนำไปสู่การต่อสู้ห้ำหั่นกันอีกหลายต่อหลายครั้งแล้ว คลอทก็รู้สึกอยู่ลึกๆ
ในใจมากตลอดว่าคงมีสักวันที่ตนเองจะต้องตัดสินขั้นเด็ดขาดกับเจ้าหมอนี่ และคงไม่มีเวลาใดจะเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว
“คุณมีสิทธิ์เรียกเขาว่านายน้อยด้วยหรือครับ คุณคลอท”
“ก็พอกันกับคุณนั่นแหละ ..เซบาสเตียน
มิคาเอลลิส”
ผู้ถูกเรียกด้วยชื่อนั้นเผยรอยยิ้มออกมา และทำให้ชิเอลซึ่งกระถดตัวหนีไปอยู่ที่มุมห้องรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง หนุ่มน้อยสะบัดศีรษะไล่ความมึนงงก่อนจะขยี้ตาตนเอง.. เขาคงจะเหนื่อยเกินไป ..ต้องใช่แน่ๆ
ไม่อย่างนั้นเขาจะรู้สึกว่ารอยยิ้มของเจ้าหมอนั่นมันดูเศร้าสร้อยได้อย่างไรกัน แต่ไหนแต่ไรเซบาสเตียน ..ไม่สิ..
ปีศาจในคราบพ่อบ้านของเขารักษากิริยาอย่างไม่มีที่ติมาตลอด
เรื่องการแสดงความรู้สึกทางสีหน้านั้นเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“ออกไปข้างนอกกันเถอะ.
แล้วคุณกับผมมาตัดสินกันอีกครั้ง”
พ่อบ้านแห่งแทรนชี่ยื่นข้อเสนอขณะที่กลัดกระดุมเสื้อเชิร์ตตัวในแล้วจึงค่อยจัดริบบิ้นที่คอให้เรียบร้อย คราวนี้เขาจะขอเดิมพันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ เขาจะกำจัดเจ้าปีศาจตนนี้ให้ดับสูญสิ้นตัวตนไปตลอดกาลและชิงตัวชิเอล แฟนธอมไฮฟ์มาเป็นสมบัติให้จงได้
“แล้วก็ปล่อยให้เจ้าของน้ำตาฟินิกซ์อยู่คนเดียวตามลำพังเพื่อรอให้ใครอื่นมาชิงตัวไปอีกน่ะหรือครับ.. เป็นความคิดที่โง่สิ้นดี” ปีศาจหนุ่มอีกตนสวนขึ้นทันควันพลางส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย
“จะไม่มีการต่อสู้อะไรทั้งนั้นล่ะครับคุณคลอท..
ในเมื่อผลการตัดสินระหว่างเรามันชัดเจนมานานแล้ว
ปีศาจที่ดับสูญไปแล้วครั้งหนึ่งอย่างคุณไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกร้องเอาอะไรทั้งนั้น
อย่าลืมสิว่าผมเป็นคนดึงตัวคุณกลับมาจากการล่องลอยไปตามยถากรรมในฐานะของเงา
นอกจากนี้การที่คุณต้องอยู่ในสภาพนั้นเพราะดาบปีศาจคงทำให้เจ้าเหนือหัวของคุณไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ และท่านผู้นั้นก็คงจะยิ่งไม่ชอบเอามากๆ ถ้าหากคุณต้องกลับไปเป็นเงาอีกครั้ง.. จริงมั้ยครับ”
“น้ำหน้าอย่างคุณจะทำได้หรือ”
คลอทไม่แยแสคำขู่ นัยน์ตาสีอำพันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทอประกายจ้าเพราะคำสบประมาท ถึงแม้ว่าการย้ำเตือนให้นึกถึงผู้เป็นนายจะทำให้เขานึกขยาดอยู่บ้างก็ตาม
เบเอลเซบูล..
เจ้าแห่งแมลงวัน
คือปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งสร้างเขาขึ้นมาเมื่อหลายศตวรรษก่อน ท่านเป็นยิ่งกว่าเจ้าเหนือหัว ยิ่งกว่าบิดา และคำสั่งจากท่านผู้นี้คือประกาศิตเพียงหนึ่งเดียวในโลกซึ่งคลอทไม่อาจเพิกเฉย
“เมื่อนึกถึงท่านผู้นั้นแล้วผมก็ยังคงยืนยันคำเดิมครับ จะไม่มีการต่อสู้ระหว่างเราอีก
เพราะคุณไม่มีค่าถึงขนาดที่ต้องให้ผมลงมือเองหรอก”
คำพูดของฝ่ายตรงข้ามส่งผลให้คลอทต้องนิ่งงันพร้อมกับอดสังหรณ์ใจไม่ได้
เพราะอะไรเจ้าหมอนี่ถึงได้จงใจพูดถึงท่านเบเอลเซบูล ..เจ้าเหนือหัวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งๆ
ที่แต่ไหนแต่ไรมาปีศาจคนละสังกัดเช่นนี้มักไม่มีความสนใจในตัวผู้ที่ไม่ใช่นายของตนเอง ..เป็นเพราะอะไร..
หรือว่า..
นาทีนั้นซาตานาเกียเผยอรอยยิ้มที่เผยคมเขี้ยวคู่หน้าให้เห็น พร้อมด้วยสีหน้ากระหยิ่มซึ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับขนลุกซู่ คลอท
ฟอลทัสขบกรามแน่นด้วยความแค้น
เซบาสเตียน มิคาเอลลิส.. ไอ้ปีศาจจอมเจ้าเล่ห์!
“ลาก่อน.. คุณคลอท”
นัยน์ตาแดงทอแสงจ้าอย่างสาสมใจเมื่อตระหนักได้ถึงการรับรู้ของอีกฝ่าย
“หวังว่าคราวนี้คุณคงตัดใจจากเด็กคนนี้ได้เสียทีนะครับ และดูท่าทางท่านผู้นั้นคงจะไม่ปล่อยตัวคุณออกมาอีกในเร็ววันเสียด้วยสิ”
ซาตานาเกียเดินไปที่ริมหน้าต่างแล้วกระชากม่านกำมะหยี่ออก และนาทีนั้นแมลงวันสีดำขนาดยักษ์น่าเกลียดน่ากลัวฝูงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่นอกหน้าต่าง พวกมันไม่ได้บินกรูกันเข้ามาในห้องหรือพยายามจะทำอะไรนอกจากตั้งใจปรากฏตัวให้เห็น
และเมื่อได้พบเข้ากับตัวตนส่วนหนึ่งของผู้เป็นนายก็เกินพอแล้วที่จะส่งผลให้คลอทต้องตะลึงงัน.. ถึงแม้เบเอลเซบูลจะมิได้มาด้วยตนเองแต่ก็ทำให้พ่อบ้านแห่งแทรนชี่สิ้นทางขัดขืน เขาจำต้องคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมๆ
กับคืนสู่สภาพดั้งเดิมของตนเอง เพื่อแสดงอาการรับรู้ถึงจิตส่วนหนึ่งที่ผู้เป็นนายส่งออกมาพร้อมทั้งคำสั่งให้กลับไปหา
เช่นเดียวกับปีศาจตนอื่นๆ
..ยามที่ท่านผู้นั้นปรากฏกายหรือแม้แต่ส่งจิตมาตรวจสอบความเป็นไปต่างๆ
เช่นนี้ คลอท ฟอลทัส..
ไม่สิ
ฟอร์เรนเต้ก็ไม่อาจคงรูปกายอื่นเอาไว้ได้
เขาจำต้องกลับคืนสู่สภาพดั้งเดิมพร้อมกับค้อมศีรษะที่มีเขาสีดำขนาดใหญ่ซึ่งม้วนตัวลงด้านข้างราวกับเขาแพะลงเพื่อแสดงการคารวะ
…ให้ตายเถอะ..
ขอแช่งชักวินาทีที่เขาได้ให้สัตย์สาบานว่าจะสวามิภักดิ์และเชื่อฟังคำสั่งผู้เป็นนายจนกว่าชีวิตจะหาไม่
เพราะนั่น ทำให้เขาต้องวางมือจากชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์อย่างเลี่ยงไม่ได้..
คลอทไม่รู้ว่าเซบาสเตียน
มิคาเอลลิสใช้วิธีใดจึงขอร้องให้ท่านผู้นั้นตามตัวเขากลับไปได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาสัมผัสได้.. หมอนี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากเด็กคนนี้ ทั้งที่ไม่มีพันธะต่อกันแล้ว ทั้งที่ไม่มีวิญญาณให้สูบกลืน..
หากเซบาสเตียนก็ยังคงตามติดอีกฝ่ายไม่ยอมลดละ
อา..
เวลาของเขา ณ
ที่แห่งนี้เหลือน้อยเต็มที่แล้ว
เวลานี้ทั่วร่างเขาเจ็บปวดทรมานราวกับถูกเผาทั้งเป็น.. บอกให้รู้ว่าผู้เป็นเจ้าเหนือหัวคงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีนัก และท่านก็กำลังเร่งให้เขากลับไปโดยเร็ว
ไม่มีเวลาอีกแล้ว.. เขาหันไปมองชิเอลอีกครั้งอย่างอดไม่ได้พร้อมๆ
กับที่ตระหนักว่ามันคงถึงเวลาที่ตนต้องยอมตัดใจเสียที
..ไม่..
เพียงแค่ยอมรามือในตอนนี้เท่านั้น
ทันทีที่ท่านผู้นั้นยอมปล่อยตัวเขา ไม่ว่าจะอีกกี่สิบกี่ร้อยปี.. เป็นได้เจอกันอีกแน่
..ฝากไว้ก่อนเถอะ..
..............................................
ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์ลุกขึ้นยืนช้าๆ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง
มือน้อยขยุ้มสาบเสื้อที่ฉีกขาดไว้แน่นขณะที่เพ่งมองภาพด้านหลังของอดีตพ่อบ้านของตนเอง หมอนี่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิด
ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคงเชิดหน้าขึ้นอย่างผู้ที่พร้อมเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ บ่ากว้างทั้งสองยังคงตั้งตรงประหนึ่งยินดีจะแบกรับภาระหนักหนาสาหัสใดๆ
ก็ตามที่ถาโถมลงมาใส่ ใช่.. เป็นเช่นนี้เสมอมา
ดังนั้นภาพรอยยิ้มอันแสนเศร้าเมื่อครู่นี้ก็คงมิได้เป็นอะไรมากไปกว่าลูกเล่นตุกติกของแสงจันทร์สีเลือด ที่ส่องกระทบใบหน้าซึ่งฉาบรอยยิ้มจนทำให้แลเห็นทุกสิ่งบิดเบือนไปจากความเป็นจริง
หนุ่มน้อยคงจะเฝ้ามองอดีตคนสนิทของตนอย่างเงียบๆ ไปอีกพักใหญ่ หากอีกฝ่ายไม่หันหน้ากลับมาเสียก่อน และนาทีที่ได้สบสายตากัน.. ภาพเก่าๆ ในวันวานก็ผุดขึ้นมาตรงหน้าเป็นฉากๆ
พร้อมด้วยความกระอักกระอ่วนใจ ชิเอลยกมือขึ้นสัมผัสตาข้างขวาที่ไร้สัญลักษณ์แห่งพันธะของตนเอง ..เขาควรจะเรียกหมอนี่อย่างไรดี ในเมื่อเวลานี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามิใช่พ่อบ้าน มิใช่คนรับใช้ที่พร้อมจะก้มหน้ารับคำสั่งจากเขาอีกต่อไปแล้ว
จากคนรู้ใจที่เคยอยู่ใกล้ชิดที่สุดเวลานี้กลับกลายเป็นอะไรไปแล้วเขาเองก็ยากที่จะบอกได้ แต่ยังดีที่อย่างน้อยหมอนี่ก็ไม่ได้เดินหนีเขาไป.. ทว่าก็มิได้พูดอะไรนอกจากจ้องมองกลับมาอย่างเงียบๆ
เท่านั้น
..เซบาสเตียน..
“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้
..ปีศาจ.. ”
ซาตานาเกียดวงตาเบิกโพลงเมื่อน้ำเสียงนุ่มหูที่คุ้นเคยเอ่ยคำขอบคุณ ..เป็นครั้งแรก
คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ใช่อดีตนายน้อยของเขาจริงๆ น่ะหรือ
เด็กคนนี้จะใช่ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์คนที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยยอมอ่อนเข้าหาใคร ทั้งยังหยิ่งยโสอยู่แทบทุกลมหายใจจริงน่ะหรือ แล้วเขาล่ะ..
ในเมื่อเวลานี้เขาไม่ใช่พ่อบ้านปีศาจที่มีพันธะสัญญาด้วยอีกแล้ว คำที่เขาควรจะตอบรับคืออะไร
“ไม่ต้องกังวลไปนะ..
ฉันรู้ว่านายกำลังลำบากใจ”
ปีศาจหนุ่มยังไม่ทันได้ตอบคำก็กลับต้องเป็นฝ่ายตกตะลึงเป็นรอบที่สอง เมื่อร่างน้อยซึ่งคลุมทับด้วยเสื้อขาดรุ่งริ่งสีเขียวเข้มซึ่งดูใหญ่เกินตัวไปมากเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา
ก่อนจะหยุดยืนตรงอยู่ตรงหน้าเขาแล้วเงยหน้าขึ้นมอง
“และดูเหมือนคุณเองก็ต้องพบกับเรื่องร้ายๆ
อยู่เกือบตลอดเวลานับจากเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อนสินะครับ”
“ผิดแล้ว” อดีตเจ้านายตัวน้อยมีสีหน้าอ่อนลงนิดหนึ่งก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น
“เราทั้งคู่ต่างก็ลำบากต่างหาก
..อย่า..” ชิเอลยกมือห้าม
“อย่าเพิ่งแย้ง.. ขอให้ฉันพูดจบเสียก่อนเถอะ ..นายอาจจะไม่เห็นด้วย แต่ฉันเชื่อว่านายเองก็คงพบความลำบากไม่ต่างกับฉันนัก ..ปีศาจ”
“นั่นคือเหตุผลที่ทำให้คุณมีทีท่าที่อ่อนลงต่อหน้าผมงั้นหรือ ..เพียงเพราะความสงสารเห็นใจ หรือเวทนาผมเท่านั้น” ด้วยเจตนาจะลองใจ ซาตานาเกียเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยใช้พูดกับผู้เป็นนายมาก่อน ทว่าปีศาจตัวน้อยกลับไม่มีปฏิกิริยาอันใด ไม่มีแม้กระทั่งอาการขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่”
และคำตอบที่ได้รับก็ทำให้ปีศาจหนุ่มยิ่งกว่าตะลึงงัน
“เป็นเพราะฉันไม่ได้วางตัวเป็นเจ้านายอีกต่อไปแล้ว นายไม่สังเกตรึ..” ชิเอลยังคงรวบเสื้อขาดๆ ของตนไว้ขณะที่หมุนกายเดินไปที่หน้าต่างพลางเอามือไพล่หลังตามความเคยชิน “เวลานี้ฉันไม่ได้เรียกนายว่า ‘เซบาสเตียน’ อีกแล้ว”
“เพราะอะไร”
“เมื่อไม่มีสัญลักษณ์แห่งพันธะสัญญา
นายก็ไม่ใช่คนรับใช้ของฉันอีกต่อไป
ดังนั้นเราจึง ‘เท่าเทียม’ กัน”
..เท่าเทียม?..
ซาตานาเกียได้แต่จ้องมองด้านหลังของอดีตผู้เป็นนายอย่างงงงัน
เมื่อคำเพียงคำเดียวในโลกนี้ที่ตนไม่เคยคิดฝันว่าจะได้ยินจากปากของอีกฝ่ายสะท้อนก้องกลับไปกลับมาอยู่ในใจ
“ฉันไม่ได้สงสารหรือเห็นใจนายแล้วก็ไม่ได้เวทนาด้วย แต่เพราะเห็นว่าตอนนี้นายไม่ควรจะถูกเรียกด้วยชื่อพรรค์นั้นอีก ถึงแม้เรื่องที่พันธะสัญญาถูกทำลายจะไม่ใช่ความตั้งใจของเรามาตั้งแต่แรก แต่นั่นก็คือความจริงที่เราต้องยอมรับ”
“ถ้าเช่นนั้นการที่ผมไม่ได้คุกเข่าลงเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณก็คงเป็นสิ่งที่คุณยอมรับได้สินะ”
ไม่มีเสียงตอบจากคนที่ถูกถาม..
ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์หมุนร่างกลับมาพร้อมด้วยสีหน้าเรียบเฉย มิใช่กิริยาวางอำนาจอย่างทุกครั้ง
“ฉันคิดดีแล้วถึงได้พูดออกไป
การไม่มีนายอยู่เคียงข้างหลายวันมานี้ทำให้ฉันได้เข้าใจมากขึ้นว่าตนเองเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งแห่งตน ฉันรู้ว่าจะต้องเข้มแข็งเพื่อให้มีชีวิตรอดด้วยตนเอง
แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่อยากจะขอให้นายช่วย ถ้านายยอมรับมันได้นะ”
“ความเท่าเทียมงั้นหรือครับ..
ก็ได้ ผมยอมรับน้ำใจของคุณ”
“ดี”
ปีศาจหนุ่มน้อยถอนหายใจก่อนจะยิ้มเศร้าๆ
และนั่นทำให้อีกฝ่ายเกิดลางสังหรณ์ในทางที่ไม่ดีนัก
ซาตานาเกียไม่รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ นี่ถ้าหากว่ายังมีพันธะสัญญาอยู่ล่ะก็..
“ในเมื่อนายรู้เห็นตัวตนทั้งหมดของฉันมาตั้งแต่แรกแล้ว ฉันเองก็อยากจะได้ในสิ่งที่เหมือนๆ
กันจากนายด้วย ทั้งชื่อที่แท้จริง รูปร่างหน้าตา ทุกสิ่งทุกอย่าง”
“ทุกอย่างของผม..
คุณจะอยากรู้ไปทำไมกัน”
นั่นปะไร.. นี่คิดจะให้เขาเปิดเผยในสิ่งที่เคยปกปิดอย่างสุดชีวิตมาตลอดงั้นหรือ หากไม่นับเรื่องที่ตนถูกทรมานครั้งล่าสุดแล้ว ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ซาตานาเกียอยู่ในคราบของ
‘เซบาสเตียน มิคาเอลลิส’ ก็มีอยู่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่เกิดเหตุซึ่งทำให้เขาต้องคืนสู่ร่างที่แท้จริง นั่นคือตอนที่สังหารพ่อบ้านขององค์ราชินี
..เทวดาวิปริตผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังราชวงศ์อังกฤษ และในเวลานี้..
“อย่าบอกนะ..
ว่านายกลัวเรื่องแค่นี้” แววเยาะเย้ยในดวงตากลมโตที่กำลังมองมาทำให้เขาตัดสินใจได้ในที่สุด
“กลัวน่ะหรือ.. หึ หึ
หึ..”
แทนที่จะตอบ ปีศาจหนุ่มกลับหัวเราะเสียงแผ่วในลำคอ แล้วน้ำเสียงทุ้มนุ่มแบบมนุษย์ก็ค่อยๆ
แหบห้าวลงทีละน้อยพร้อมกับรูปร่างที่เปลี่ยนไป
เวลานี้สูททักสิโดชายยาวแบบพ่อบ้านชักจะดูไม่เข้ากันกับขนาดของร่างกายที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เสียแล้ว
จนในที่สุดมันก็แปรเปลี่ยนเป็นชุดคลุมยาวแบบโบราณสีขาวสะอาดทิ้งชายยาวจรดพื้น เส้นผมซึ่งเคยระต้นคอค่อยๆ ยืดยาวออกแล้วแผ่สยายคลุมแผ่นหลังพร้อมกับสองเขาขนาดใหญ่บนศีรษะซึ่งม้วนตัวลงด้านข้าง ขณะที่แขนขาซึ่งเพิ่มขนาดขึ้นรวมทั้งส่วนอื่นๆ
ในร่างกายเปลี่ยนเป็นสีดำมันวาวเต็มไปด้วยมัดกล้าม ดูแข็งแกร่งบึกบึนเสียจนไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ปราศจากความนุ่มนวลแบบผิวของมนุษย์ ตามด้วยปีกดำคู่ใหญ่ที่สะบัดออกเต็มความกว้างก่อนจะหุบแนบลำตัวเป็นอันดับสุดท้าย
นาทีนี้ความกดดันเข้มข้นจนแทบจะจับต้องได้ส่งผลให้ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์เผลอถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยความลืมตัว เมื่อรูปกายอันน่าสะพรึงกลัว.. กับรังสีคุกคามอย่างมิได้ปิดบังจากปีศาจซึ่งอยู่ในรูปลักษณ์ที่แท้จริงตรงหน้าตนนี้ทำให้หัวใจเต้นเร็วแรงเพราะความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ราวกับบรรยากาศรอบๆ ตัวกำลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเพราะขุมพลังมหาศาลเสียจนในสองหูได้ยินแค่เพียงเสียงดังหึ่งๆ
เท่านั้น หนุ่มน้อยกลืนน้ำลายเหนียวหนึบลงคอพลางปลุกปลอบใจตนเองให้กล้าหาญ แล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าซึ่งไม่เหลือเค้าเดิมของพ่อบ้านตนที่เคยรู้จักอีกต่อไป
“ชื่อของนายล่ะ.. ปีศาจ”
“ซาตานาเกีย
..ขุนพลฝ่ายขวาของเจ้านรก”
ชิเอลขบกรามแน่นพลางบังคับให้ตนเองยืนปักหลักด้วยความมั่นคงยามเมื่อเสียงดังกระหึ่มเอ่ยแนะนำตัว
แล้วมองสำรวจโครงหน้าที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าจะเข้าขั้นอัปลักษณ์.. ทว่าปีศาจตนนี้ก็ยังมิได้มีกลิ่นตัวรุนแรงเหมือนกับบางตนที่เขาเคยพบ ซาตานาเกียมีผิวสีดำสนิทเป็นมันเงาเช่นเดียวกับเส้นผมยาวตรงถึงบั้นเอว จมูกโด่งเป็นสัน พร้อมด้วยเขี้ยวยาวขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือข้างหนึ่งโผล่พ้นออกมาจากริมฝีปากสีดำที่ปิดสนิท.. ปราศจากรอยยิ้ม หนุ่มน้อยมองดูรอยแผลเป็นเล็กๆ ที่โหนกแก้มข้างซ้ายซึ่งลากยาวเกือบถึงใต้ดวงตา และเมื่อเลื่อนสายตาขึ้นสบประสานกับนัยน์ตาที่ดูสุขุมลุ่มลึกเขาก็จดจำอีกฝ่ายได้ทันที
ชิเอลถึงกับหายใจไม่ออกเมื่อนึกขึ้นได้.. ภาพบาดแผลฉกรรจ์
ทะเลเลือดขังนองเป็นแอ่งที่ส่งกลิ่นคาวคลุ้งชวนคลื่นเหียน และผู้ถูกลงทัณฑ์ที่น่าสมเพทเวทนาตนนั้น..
“..นาย.. คือปีศาจตนนั้นน่ะเอง”
ภาพเมื่อครั้งที่ตนเดินเคียงคู่ไปกับราชาปีศาจตามระเบียงทางเดินในวังและได้พบกับสภาพอันน่าสยดสยองของปีศาจที่ถูกทรมานอย่างสาหัสตนหนึ่งพลันผุดขึ้นในความทรงจำ
และแววตระหนักรับรู้ในดวงตาของอดีตเจ้านายตัวน้อยก็ส่งผลให้ซาตานาเกียถอนหายใจ ก่อนจะเบือนหน้าหนีในที่สุด
...มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาไม่เคยอยากให้เด็กคนนี้รับรู้
ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไรก็ตาม..
“เดาว่าวันนั้นสาเหตุที่นายมาช้าคงเป็นเพราะเรื่องนี้สินะ”
ในที่สุดชิเอลก็เข้าใจ
ในตอนนั้นเขาเฝ้ารอพ่อบ้านของตนอยู่หลายวันกว่าที่อีกฝ่ายจะมาหา เพราะอย่างนี้นี่เอง..
หมอนี่ถูกทำทารุณถึงเพียงนั้นต่อให้อยากจะมาหาเขาสักเพียงใดก็คงทำไม่ได้สินะ แต่ถึงอย่างนั้นเซบาสเตียนก็ยังมา ถึงจะถูกทรมานหนักถึงเพียงนั้นก็ยังเอาตัวเข้าขวางและคอยปกป้องเขาผู้เป็นนายอย่างไม่เสียดายชีวิต และอึดใจนั้นเองที่หนุ่มน้อยได้ตระหนักชัดพร้อมด้วยความตกใจ.. แท้จริงแล้วตัวตนของเซบาสเตียนนั้นหยั่งรากลึกอยู่ในใจเขามากเกินกว่าที่เขาเคยรู้ พ่อบ้านของเขา.. ปีศาจตนนี้มีอิทธิพลต่อเขาเกินกว่าที่เขาคาดคิด
“แล้วเรื่องที่อยากจะขอให้ผมช่วยคืออะไร”
ความจริงที่เพิ่งรับรู้เปรียบดังสายฟ้าที่ฟาดลงกลางใจ ดวงหน้าที่ซีดเผือดเพราะความตระหนกกับความจริงในใจตนหันกลับมายังร่างดำทะมึนที่สูงจนเกือบถึงเพดานห้องอย่างช้าๆ ชิเอลเม้มริมฝีปากตนเองแน่นอย่างชั่งใจแล้วเอ่ยเสียงเรียบ
“อยากให้พาฉันกลับคฤหาสน์ที่อังกฤษ
แล้วทำให้เรื่องทุกอย่างนี้สิ้นสุดด้วยมือนาย”
คำตอบ..
ซึ่งแทบจะไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบผ่านพ้นริมฝีปากที่ขบเม้มจนเปลี่ยนเป็นสีแดง อันแสดงถึงความลังเลและลำบากใจในการตัดสินใจของตนเอง
“หมายความว่า..”
“ถูกแล้ว.. ฉันกำลังขอให้นายครอบครองน้ำตาฟินิกซ์”
ครั้งนี้ชิเอล แฟนธอมไฮฟ์เน้นย้ำอย่างชัดถ้อยชัดคำ พร้อมกับแตะมือลงบนหลังมืออันใหญ่โตของอดีตพ่อบ้านพลางเงยหน้าขึ้นมองจนคอตั้ง
ขณะที่ปีศาจหนุ่มย่อกายลงนั่งชันเข่าเพื่อให้อีกฝ่ายมองสบสายตาได้สะดวกขึ้น
“นายเป็นผู้เริ่มเรื่องนี้ในตอนแรก..
แล้วก็จะเป็นผู้จบด้วย”
หนุ่มน้อยขยับเข้าไปหาอีกก้าวหนึ่งแล้วยืดแขนขึ้นสัมผัสแก้มที่เย็นชืดและแข็งกระด้าง
ขณะที่ซาตานาเกียนิ่งฟังอย่างสงบพลางชำเลืองสายตามองมือน้อยๆ ที่ทั้งเย็นและแผ่วเบาจนไม่รู้สึกอะไรยามที่สัมผัสใบหน้าตน ..ไม่ดีเลย..
เขาคิดถึงไออุ่นยามที่เด็กคนนี้ยังมีเลือดเนื้อในฐานะมนุษย์มากกว่า
“นี่ไม่ใช่คำสั่ง แต่เป็นคำขอร้องจากใจฉัน”
เมื่อจบคำชิเอลก็ทำในสิ่งซึ่งไม่เคยทำมาก่อน หนุ่มน้อยปิดเปลือกตาลงพลางเขย่งตัวขึ้นแนบริมฝีปากเข้าหาริมฝีปากอดีตพ่อบ้านของตนแล้วประทับนิ่งอยู่เช่นนั้น และสัมผัสอันอ่อนนุ่มและไร้เดียงสาจากอดีตผู้เป็นนายทำให้ซาตานาเกียถึงกับตะลึงงัน
เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีวันที่เด็กคนนี้ยอมทำถึงเพียงนี้ ..ชิเอล
แฟนธอมไฮฟ์เป็นฝ่ายจูบเขาก่อนงั้นหรือ..
เป็นไปได้อย่างไรกัน ทว่าน่าเสียดายที่ในเวลานี้เขาไม่อาจตอบสนองใดๆ
ได้ ตราบใดที่ยังอยู่ในร่างที่แท้จริงเช่นนี้พละกำลังของเขาก็มากเกินกว่าที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับใคร
อันที่จริงเขาไม่ควรแตะต้องอะไรเลยด้วยซ้ำ หากซาตานาเกียกลับพบว่าตนเองเชยคางเล็กๆ ขึ้นด้วยปลายนิ้วแล้วขยับริมฝีปากตอบอย่างระมัดระวัง กระนั้นเขี้ยวคมในปากก็ยังเจาะริมฝีปากอีกฝ่ายให้เป็นแผลจนได้ลิ้มรสโลหิต และนั่นทำให้เขาจำใจผละออกจากหนุ่มน้อยก่อนจะคืนสู่ร่างมนุษย์ในที่สุด
“เช่นนั้น..” ซานานาเกียกระซิบแผ่วข้างริมหู ก่อนจะช้อนร่างแบบบางขึ้นอุ้มแล้วลุกขึ้นยืน “ผมก็จะขอสานต่อในสิ่งที่เริ่มค้างไว้ และคราวนี้จะไม่มีใครมาขัดจังหวะเราอีก”
“ใช่แล้ว.. จบเรื่องนี้เสียที ฉันเบื่อการถูกไล่ล่าเต็มทีแล้ว”
ปีศาจหนุ่มน้อยโอบท่อนแขนไปรอบลำคออดีตพ่อบ้านแล้วปล่อยให้ร่างในชุดสูทดำสนิทพากระโจนจากขอบระเบียงออกไปเบื้องนอก
..ใช่.. หลังจากนี้จะได้กลับบ้านและจบเรื่องนี้เสียที
ด้วยการมอบชีวิตของนาย
ให้กับฉัน...